หลังจากที่ MenDetails ได้เข้าไป วัดตัวสั่งตัดและทำการ First Fitting ชุดสูท Bespoke Double Breasted Suit กับ Assisi Bespoke House โดยช่าง Kim Min Soo ที่ร้าน The Decorum ไปเรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ ในครั้งนี้ก็ถึงเวลาที่เราได้รับชุดสูทที่สำเร็จเรียบร้อยมารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน จะได้เป็นแนวทางเผื่อว่าคุณผู้อ่านจะถูกใจและไปสั่งตัดตาม MenDetails กันได้ที่ร้าน The Decorum Bangkok นะครับ
ชุด สูท Assisi Bespoke Double Breasted จาก The Decorum
เนื่องจากการลองสูท Assisi Bespoke House ครั้งแรก หรือที่เรียกว่า “First Fitting” ที่ร้าน The Decorum นั้น ผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่น ชุดสูทที่ตัดออกมานั้น ไม่ได้มีปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขมากมายแต่อย่างใด ทำให้ทางช่าง Kim Min Soo แจ้งกับเราว่า ไม่จำเป็นต้องทำ Second Fitting อีกครั้ง และสามารถรอรับชุดสูทที่สำเร็จเรียบร้อยในครั้งนี้ได้เลยนั่นเอง
แว่บแรกที่เราเดินทางมาถึงและได้เห็นชุดสูทที่ตัดเย็บสมบูรณ์ เราก็ประทับใจกับงานที่เนี้ยบทุกจุดตามสไตล์ Bespoke ฝีเย็บมีร่องรอยการลงเข็มด้วยมือที่ถือเป็นลักษณะของงาน Bespoke ที่ช่างตัดสูทจะลงมือทำเพียงคนเดียวตั้งแต่วัดตัว ตัดผ้า และเย็บด้วยมือทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ถือเป็นเสน่ห์ของงาน Bespoke ที่น้อยคนในโลกจะทำได้ และเป็นสาระสำคัญที่เราพึงคาดหวังจากสูทที่สามารถเรียกตัวเองว่า “Bespoke” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำจริง ๆ เท่านั้น
The Advantage of Assisi Bespoke
เราลองสวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตที่เราเลือกแบบ Double Breasted ในแพทเทิร์นกระดุม 6×2 ที่สามารถปรับเป็น 6×1 ได้แบบเฉพาะกิจ ปกแบบ Peak Lapel ขนาดใหญ่เป็นสไตล์ปกที่ Assisi สงวนไว้ให้กับโปรแกรม บีสโป๊คเท่านั้น โดยจะมีปลายปกที่พุ่งขึ้นมากกว่าและมีขนาดใหญ่กว่าเวอร์ชั่น MTM อย่างเห็นได้ชัดเจน
อย่างไรก็ดี ในระหว่างที่เราลองชุดสูทนั้น เราพบว่า ช่วงหัวไหล่ (Sleevehead) และรักแร้ (Armhole) ของตัวเสื้อมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กเกินไปนิดหน่อย ทำให้เรารู้สึกคับตึงบริเวณดังกล่าวและไม่สามารถเคลื่อนไหวตัวได้สะดวกนัก ซึ่งทางคุณคิม มิน ซู ก็สังเกตเห็นได้เช่นกัน จึงได้แจ้งยืนยันกับเราทันทีว่าจะนำกลับไปแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนที่จะส่งมอบ ถือเป็นความเอาใจใส่ในงานที่หาได้ยาก และไม่ยอมปล่อยผ่านแม้เพียงจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจทำให้งานไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่เขาตั้งใจ
การแก้ไขงานที่เสร็จสมบูรณ์แล้วแบบนี้สามารถทำได้กับการตัดสูทกับ Assisi ในรูปแบบ Bespoke ได้อย่างอิสระ ในขณะที่หากเป็นโปรแกรม Made to Measure นั้น การแก้ไขจะมีข้อจำกัดและหลายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้เลย นี่จึงเป็นอีกหนึ่งข้อดีของงานสูทแบบ Bespoke ที่ช่างตัดสูทยินดีที่จะลงมือแก้ไขด้วยตัวเองได้ทุกจุดจนกว่างานจะเป็นที่น่าพอใจของช่างและผู้สวมใส่
The Final Finishing
หลังจากที่คุณ คิม มิน ซู นำตัวเสื้อไปแก้ไขเป็นครั้งสุดท้าย โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ลงท้ายทาง MenDetails ก็ได้รับชุดสูทที่ครบถ้วนสมบูรณ์ รวมเวลาในการตัดเย็บทั้งหมดประมาณ 8 เดือน โดยมีทางร้าน The Decorum เป็นเจ้าภาพที่คอยประสานงานนัดหมายและให้คำแนะนำเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
เสื้อสูทของ Assisi ได้รับแรงบันดาลใจชัดเจนมาจากสไตล์ Neapolitan สังเกตได้จากเสื้อสูทมีน้ำหนักเบา ใช้โครงสร้างแบบ Full Canvas ที่ไม่หนามาก และไม่มีฟองน้ำใด ๆ เสริมไหล่ เพื่อความสบายในการสวมใส่เป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี Assisi มีแนวไหล่ที่ค่อนข้างกว้างกว่า (Extended) เมื่อเทียบกับสไตล์นีอาโปลิตานทั่วไปที่จะมีช่วงไหล่แคบเพื่อเน้นให้เห็นความพองของหัวแขน Spalla Camicia ด้วยแนวไหล่ที่กว้างขึ้นทำให้เสื้อสูทจาก Assisi แลดูเป็นทางการมากกว่า ถือเป็นการผสมผสานให้เสื้อสูทดูใส่ง่ายใส่สบายโดยไม่ทอดทิ้งความเป็นทางการอย่างที่ชุดสูทควรจะเป็น
ทรงกางเกงในงานบีสโป๊ค ของ Assisi ทำออกมาได้ลงตัวกำลังดี ช่วงสะโพกและต้นขาไม่กว้างเกินไป ทำให้พอดีตัวรับกับส่วนเว้าของสะโพกได้เหมาะเจาะ จากนั้นทรงกางเกงจะค่อย ๆ สอบเข้า (Taper) ไปที่ปลายขาที่กว้างแบบกำลังดี ประมาณ 7.8 นิ้ว โดยรวมแล้วเป็นทรงกางเกงที่กว้างกว่า Sartoria Raffaniello อยู่นิดหน่อย แต่แคบและเข้ารูปกว่า Echizenya หรือ Yeossal เล็กน้อย
ผ้าเป็นแบบ High Twist Wool จากแบรนด์ Standeven รุ่น Explorer สีกรมท่าที่มีลายตารางแบบ Glen Check เป็นลูกเล่นแบบบาง ๆ ซ่อนอยู่ หากมองไกลอาจดูเหมือนเป็นสีพื้นทั่วไป แต่เมื่อมองใกล้ขึ้นก็จะเห็นลายตารางสวยงามชัดขึ้นมา เนื้อผ้าโปร่งและเบาสบายตามสไตล์ High Twist ที่สำคัญเป็นเนื้อผ้าที่ยับยากและดูแลรักษาง่าย อีกทั้งในความเห็นของเรา Standeven รุ่น Explorer ใส่แล้วสบายตัวที่สุดเมื่อเทียบกับผ้าประเภทเดียวกันจากแบรนด์อื่น ๆ อีกด้วย
สิ่งเดียวที่เราอาจจะยังไม่ชินเท่าไหร่นัก นั่นก็คือสไตล์ปกสูท Peak Lapel ขนาดใหญ่ที่ชี้ขึ้นสูงเกือบถึงแนวบนของไหล่ ซึ่งหากมองจากด้านหลังในบางมุมก็จะสามารถมองเห็นปลายปกสูทชี้เลยแนวไหล่ขึ้นมาได้ด้วย ตรงนี้เป็นจุดหนึ่งที่เราอยากให้ตั้งข้อสังเกต และหากปลายปกแหลมสูงแบบนี้ไม่ใช่สไตล์ที่คุณชื่นชอบ ทาง MenDetails ขอแนะนำให้บอกกับช่างสูท Kim Min Soo ไปเลยตั้งแต่ต้น เพราะเราเชื่อว่าเขาสามารถปรับให้ได้ตามใจคุณแน่นอนครับ
บทสรุป
โดยรวมแล้วเราชื่นชม คุณ คิม มิน ซู แห่ง Assisi Bespoke House ในความละเอียดและการไม่ปล่อยให้ข้อผิดพลาดเล็กน้อยหลุดรอดสายตาไปได้ รวมถึงงานตัดเย็บที่เรียบร้อยแทบไม่มีที่ติ ในสไตล์ของงานมือ Handmade แบบ 100% เสื้อสูทมีน้ำหนักเบาถูกใจ MenDetails บนโครงสร้าง Full Canvas ที่ให้แคนวาสมาแบบเต็มตัวเกือบทั่วผ้าชิ้นหน้าเลยทีเดียว เราคิดว่างานแบบนี้คุ้มค่าคุ้มราคา และได้ผลงานแบบ Bespoke เต็มตัว กับสไตล์ของ Italian Suit ที่ผสมผสานสไตล์ Casual ของอิตาลีตอนใต้ และ Extended Shoulder ของอิตาลีตอนเหนือเข้าด้วยกันได้ลงตัวดีทีเดียว ใครที่สนใจงานของ Assisi Bespoke House สามารถติดต่อที่ The Decorum Bangkok ได้เลยนะครับ
ในระยะหลังมานี้ทีมงานของ MenDetails เริ่มให้ความสนใจและชื่นชอบในสูทแบบ Double Breasted มากขึ้น และสไตล์สูท Double Breasted ของ ASSISI Bespoke House นั้นสวยงามถูกใจและตอบโจทย์ความต้องการของเราได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ซึ่งขณะนี้เรากำลัง Double Breasted Jacket เวอร์ชั่น 6×1 จาก Sartoria Raffaniello อีกตัวหนึ่ง ซึ่งเราจะนำมารีวิวอย่างละเอียดให้ได้อ่านกันแน่นอน รวมถึงจะนำมาเทียบกับ ASSISI ตัวนี้แบบช็อตต่อช็อตให้อีก 1 ตอนด้วย
ใครที่ชื่นชอบ Double Breasted Suit แบบเดียวกับ MenDetails ก็อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ