เริ่มต้นมาก็ออกตัวแรงละครับ แต่ประโยคข้างต้นถือเป็นเรื่องจริงอีกด้านหนึ่งที่เหล่า Marketing อาจไม่เคยพูดถึงกันนั่นเอง เพราะในโลกของทุนนิยม สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือการสร้างความอยากให้กับกลุ่มผู้บริโภค และกระแสที่จับต้องได้ในกลุ่มคนที่ขับเคลื่อนระบบดังกล่าว ดังนั้น Trends การแต่งตัวอาจหมายถึง “กับดัก” ที่ทำให้คุณตกหลุมพรางอย่างไม่รู้ตัวก็เป็นได้ สิ่งที่คุณต้องตระหนักให้มากกว่ากระแสก็คือ “ความชอบและเอกลักษณ์ของตัวเอง” เพราะเมื่อคุณหาเจอ คุณอาจจะมองสิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป
พิจารณาอย่างถ้วนถี่ว่า “มันอยู่ได้นานแค่ไหน”
ใช่ครับเราหมายความเช่นนั้นจริงๆ ลองนึกย้อนกลับไปถึงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่คุณซื้อมาเพราะกระแสแต่หยิบออกมาใส่เพียงครั้งเดียวดู ยกตัวอย่างเช่นกางเกงยีนส์แนว Distressed แบบขาดทะลุทะลวง ไม่ใช่ว่าเราไม่มีนะครับ เพียงแค่ว่า หลังจากที่ซื้อมาใส่เพียงครั้งเดียวก็รู้ทันทีว่า “ไม่น่ารอด”
อยู่ได้นานแค่ไหนจึงเป็นคำถามที่น่าสนใจที่สุดของการเลือกซื้อของอย่างชาญฉลาด กล่าวคือ กางเกงยีนส์ที่คุณซื้อตัวนี้จะอยู่กับคุณได้นานแค่ไหน? คุณจะได้ใช้มันบ่อยหรือเปล่า? แว่นตาอันนี้คุณจะใช้มันมากน้อยอย่างไร? หรืออีกนานมั้ยที่คุณจะลืมรองเท้าคู่นั้นๆ ที่คุณซื้อ?
เมื่อ Balenciaga Triple S หรือ Nike x Virgil ออกวางขาย กระแสของแบรนด์อื่นๆ ก็ดูจะเงียบเหงาลงไปบ้าง แต่ทว่ากระแสความนิยมดังกล่าวจะคงอยู่ได้นานแค่ไหนกันเชียว?
-ในทางกลับกัน รองเท้าหนังคุณภาพสูง จนแล้วจนรอดก็คือรองเท้าที่สุภาพบุรุษทุกท่านต้องมี-
กางเกงยีนส์ทรงยอดนิยมตลาดกาลอย่าง Levi’s 501 นั้น พิสูจน์ตัวเองมาด้วยระยะเวลามากกว่า 150 ปี แล้วว่า “ต่อให้คุณซื้อ 501 วันนี้ คุณก็ยังคงใส่ไปได้อีก 10-20 ปีโดยไม่ต้องคำนึงถึง Trends ใดๆ ก็ตามในอนาคต” ไม่ต่างจากแบรนด์ Lee Riders 101z ที่ก้าวผ่านกาลเวลามาได้แบบไร้ที่ติ
Jacket เท่ๆ สุดท้ายก็ต้องย้อนกลับไปถึงรากอยู่ดี
ถือเป็นเรื่องยากที่จะบอกครับ เพราะแต่ละคนก็มีสไตล์ที่แตกต่างกันไป แต่เอาเข้าจริงแล้วนั้น ไม่มีอะไรที่อยู่ยืนยงเท่ากับความ Original อีกแล้ว ดังตัวอย่างที่เราเลือกไม่ว่าจะเป็น M59 หรือ M65 ต่างก็สามารถหยิบมาใส่ได้เรื่อยๆ แบบ Timeless หลายๆ คนอาจชื่นชอบสไตล์จัดๆ สีโดดเด่น เส้นสายเยอะๆ แต่อาจต้องลองถามตัวเองอีกนิดครับว่า “เราจะหยิบเสื้อเหล่านี้มาใส่ได้กี่ครั้งกันแน่” หากเมื่อเทียบกับความอมตะของเสื้อผ้าบางชิ้น ที่ต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ไม่เคยตกยุค ลองคิดดูอีกสักทีว่าการลงทุนซื้อสิ่งไหนจะคุ้มค่ากว่ากันในระยะยาว
เราไม่ได้ต้องการให้คุณเดินตามเรานะครับ แต่อยากให้ลองพิจารณาดูดีๆ ว่า เสื้อผ้าที่คุณซื้อหามาใส่นั้น คุณใส่มันกี่ครั้งกันแน่ ใส่ได้บ่อยแค่ไหน?
กล่าวกันให้ลึกลงไปอีกนอกจากกางเกงยีนส์ / เสื้อ Jacket คงต้องพูดถึงเครื่องแต่งกายชิ้นสำคัญอย่าง “นาฬิกา” เพราะสิ่งนี้อาจบ่งชี้อะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับตัวคุณได้มากทีเดียว บางคนอาจเลือกซื้อ G-Shock เพราะด้วย Lifestyle หรืออาจเป็นเพราะต้องการนาฬิกาที่ไม่ต้องใส่ใจดูแลอะไรมันมากนัก บางคนอาจชื่นชอบ Apple Watch และ บางท่านอาจกำลังตัดสินใจซื้อ Rolex / Omega อยู่ก็เป็นได้ เพราะต่อให้เวลาจะผ่านไปนานสักเท่าใดก็ตาม Rolex ก็ยังคงเป็น Rolex อยู่วันยังค่ำนั่นเอง ซื้อไปใส่จนตกทอดสู่ลูกหลานก็ยังคงความ Classic ใส่ได้เรื่อยๆ แบบไม่ต้องอ้างอิง Trends ใดๆ ให้รำคาญใจ
สิ่งที่เราอยากนำเสนอก็คือ “การเลือกซื้อของอย่างชาญฉลาด” จะเป็นทางออกสำคัญที่ช่วยให้คุณใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง กล่าวคือ หากเสื้อผ้าที่เราจะซื้อ เราเห็นชัดแน่แท้แล้วว่า “เราจะได้ใส่มันบ่อยแน่นอน และต่อให้เวลาผ่านไปอีก 10 ปี เราก็ยังสามารถใส่เครื่องแต่งกายชิ้นนี้ได้อยู่” MenDetails แนะนำให้คุณซื้อเลยครับ เพราะมันจะกลายเป็นเสื้อผ้าชิ้นหลักในตู้ของคุณ ท้ายนี้เราจึงขอฝากไว้ว่า จงใช้เงินลงทุนกับเครื่องแต่งกายที่ Classic และ Timeless เป็นสำคัญ เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ทุกครั้งที่คุณหยิบเครื่องแต่งกายหล่านั้นมาใส่ “คุณจะดูดีแบบไร้กาลเวลา” โดยไม่ต้องสนใจ Trends ทั้งหลายที่วูบวาบไปมาอีกต่อไป