หากคุณเป็นผู้ชายที่พอที่จะรู้จักคุ้นเคยกับระบบการเงินและการลงทุนอยู่บ้าง เชื่อว่าน่าจะเคยได้ยินสิ่งที่เรียกว่า “กองทุนรวม” กันมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่ามันคืออะไร ทำงานอย่างไร และเราจะต้องศึกษาอะไรบ้างก่อนที่จะเลือกลงทุนในกองทุนรวมชนิดต่างๆ วันนี้ MenDetails จะขออธิบายคำศัพท์คำนี้ให้เข้าใจง่ายๆกันครับ
ความหมายและลักษณะของกองทุนรวม
คำว่า “กองทุนรวม” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Mutual Funds” แปลความหมายได้อย่างตรงตัวก็คือ “การนำเงินทุนจากหลายๆคนมากองไว้รวมกัน เพื่อจุดประสงค์ที่จะเอาเงินกองนี้ไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนคืนกลับมา”
นั่นแปลว่ากองทุนรวมทุกกองนั้นจะต้องมีคนที่เราเรียกว่า “ผู้จัดการกองทุน” ซึ่งจะเป็นผู้ที่จะคอยดูแลและจัดการเอาเงินของกองทุนรวมไปลงทุนตาม “นโยบายการลงทุน” ที่แต่ละกองทุนรวมกำหนดไว้ ดังนั้นเวลาเราได้ยินคนพูดว่า “ซื้อกองทุนรวม” ความจริงแล้วก็คือการเอาเงินไปฝากไว้ให้ “ผู้จัดการกองทุนรวม” นำเงินของเราไปรวมกับของคนอื่นๆ แล้วก็เอาไปลงทุนในสิ่งต่างๆที่คาดว่าจะสามารถสร้างดอกสร้างผลให้เงินของเรางอกเงยขึ้นในอนาคตนั่นเอง
เอาไปรวมไว้ที่เขาแล้วไม่กลัวเขาโกงรึ?
“แล้วมันไม่เสี่ยงเหรอ เกิดผู้จัดการเอาเงินเราไปแล้วไม่คืนขึ้นมาจะทำยังไง?” คำตอบเรื่องนี้อย่างง่ายๆก็คือ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถตั้ง “กองทุนรวม” ได้นะครับ เพราะการจะจัดตั้ง “กองทุนรวม” อย่างเป็นทางการและถูกกฎหมายในเมืองไทยนั้น จะต้องขออนุญาตจากหน่วยงานของรัฐเพื่อให้การรับรองเสียก่อน จึงจะสามารถเอากองทุนรวมออกมาระดมเงินจากพวกเราได้ ดังนั้นเราจึงเห็นกองทุนรวมที่มักจะมาจากบริษัทในเครือธนาคารที่มีชื่อคุ้นหูกันเป็นอย่างดี หรือจากสถาบันการเงินใหญ่ๆที่ผ่านการรับรองในเรื่องความน่าเชื่อถือมาเรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ ส่วนกลุ่มอื่นๆนอกเหนือจากนี้ที่พยายามจะมาระดมเงินจากเราโดยการสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนดีๆ แต่ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานรัฐ ก็ต้องให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นขบวนการหลอกลวงหรือที่เรียกว่า “แชร์ลูกโซ่” ไม่ใช่ “กองทุนรวม” ครับ
ประเภทของกองทุนรวม
กองทุนรวมแต่ละกองก็มีลักษณะแตกต่างกันออกไปมากมายหลายประเภทครับ หลักๆนั้นขึ้นอยู่กับ “นโยบายการลงทุน” ที่ทางผู้จัดการระบุไว้ว่าจะเอาเงินของเราไปลงทุนกับอะไร ถ้าเน้นไปลงทุนกับ “ตราสารหนี้” เป็นหลัก ก็เรียกว่า “กองทุนรวมตราสารหนี้” ถ้าเน้นลงทุนใน “ตราสารทุน” เป็นหลัก ก็จะเรียกว่ากองทุนรวมตราสารทุน แต่ถ้าลงทุนทั้งสองอย่างผสมผสานกันไปก็จะเรียก “กองทุนรวมแบบผสม” เป็นต้น ซึ่งแน่นอนกองทุนแต่ละแบบก็จะมี “ความเสี่ยง” แตกต่างกันไปครับ
การแบ่งประเภทของกองทุนรวมยังมีอีกรูปแบบหนึ่งนั่นก็คือ กองทุนรวมแบบเปิด หรือ กองทุนรวมแบบปิด ครับ ซึ่งกองทุนรวมแบบเปิดนั้นหมายความว่า เมื่อเราตัดสินใจลงทุนไปแล้วต่อมาเราอยากที่จะไถ่ถอนเงินทุนคืนกลับมาก็สามารถทำได้ทันทีเมื่อใดก็ได้ที่ต้องการ แต่สำหรับกองทุนรวมแบบปิดนั้นจะมีการกำหนดระยะเวลาที่นักลงทุนจะเอาลงเงินทิ้งไว้ให้ครบกำหนดโดยไม่สามารถที่จะไถ่ถอนหรือ “ขายคืน” กองทุนแบบปิดระหว่างทางก่อนที่จะถึงกำหนดได้ครับ
แล้วกองทุนรวมมีประโยชน์ยังไง?
ประโยชน์ของกองทุนรวมที่ชัดเจนก็คือ การที่เราสามารถลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องลงไปศึกษาหาข้อมูลเชิงลึกด้วยตัวเองครับ นั่นเพราะเราได้มอบหมายให้ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่กองทุนรวมนั้นว่าจ้างมาเพื่อให้มาช่วยบริหารเงินของเราแทน ทำให้เรามีเวลาที่จะไปทำงานอย่างอื่นได้โดยไม่ต้องคอยกังวลเรื่องนี้ให้มากนัก กองทุนรวมจึงเหมาะมากสำหรับคนที่งานยุ่ง ภาระเยอะ หรือเพิ่งเข้าสู่โลกการลงทุนแบบ “มือใหม่หัดขับ” นั่นเองครับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนดูแลให้ เราก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมบางส่วนในการจ้างผู้จัดการที่มาช่วยบริหารเงินแทนเราเช่นกัน ซึ่งนี่คือข้อเสียสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนบางคนที่พอจะมีเวลามากพอ และมั่นใจในความสามารถของตัวเองเลือกที่จะลงทุนด้วยตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการเสีย “ค่าธรรมเนียม” ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความยากง่ายของนโยบายในการลงทุนของแต่ละกองทุน ถ้าลงทุนง่ายก็เสียน้อย แต่ถ้าลงทุนในสิ่งที่ยากและซับซ้อน กองทุนรวมนั้นก็จะคิดค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าครับ
อย่างไรก็ตามหากใครที่มีเงินออมเหลือและต้องการที่จะหาหนทางลงทุนให้เงินนั้นงอกเงยมากกว่าที่จะเก็บไว้ในธนาคารกินดอกเบี้ยออมทรัพย์ที่ต่ำเรี่ยเตี้ยดิน ก็ลองเริ่มต้นศึกษาการลงทุนในกองทุนรวมดูได้นะครับ MenDetails เชื่อว่าเป็นหนทางการลงทุนแบบหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่หัดลงทุนครับ สุดท้ายนี้ขอทิ้งท้ายด้วยคำเตือนที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกล่าวเตือนกันไว้ทุกครั้งที่เราพูดถึงการลงทุนว่า
“การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้งนะครับ”