ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งสำหรับผู้ชายในยุคปัจจุบันก็คือการเลือกเครื่องแต่งกายสำหรับไปร่วมงานสำคัญ ๆ ในโอกาสต่าง ๆ เนื่องด้วยแฟชั่นผู้ชายทุกวันนี้ที่ “ลำลอง” สุดขั้ว ทำให้เมื่อจำเป็นต้องใส่ชุดที่เป็นทางการ ผู้ชายเราหลายคนเกิดอาการ “งง” ไม่รู้จะแต่งตัวอย่างไรดี และหนึ่งในงานใหญ่ที่จะสร้างความประหม่าให้ผู้ชายมากที่สุดนั่นก็คือการเตรียมตัวเป็น “เจ้าบ่าว” นั่นเอง วันนี้ MenDetails ขอเสนอเทคนิคในการเลือก “ชุดเจ้าบ่าว” ที่เหมาะสม ให้ฝ่ายเจ้าสาวรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยเรารับผิดชอบเรื่องที่สำคัญที่สุดของตัวเราเองครับ
3 ข้อที่ต้องพิจารณา เวลาเลือก ชุดเจ้าบ่าว
พิจารณาลักษณะชุดของเจ้าสาว
หลักการคือชุดของเจ้าบ่าวควรจะต้องเข้ากันหรือไปด้วยกันได้ดีกับชุดของฝั่งเจ้าสาว ดังนั้นเราควรรอคอยจนกว่าจะเห็นชุดที่เธอตัดสินใจเลือกใช้อย่างแน่นอนแล้วเสียก่อน จึงค่อยมาเลือกว่าเราในฐานะ “เจ้าบ่าว” จะแต่งตัวอย่างไรให้เข้ากับชุดของเธอ
ชุดเจ้าสาวในเมืองไทยมักแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ชุดแต่งงาน Ball Gown ซึ่งจะเป็นชุดแต่งงานที่เป็นทางการมากที่สุด สังเกตได้จากกระโปรงขนาดใหญ่และชายผ้าที่ยาวลากพื้นออกไปไกลจนต้องมีคนช่วยประคองชายกระโปรง ชุดเจ้าสาวลักษณะนี้ มักใช้ในงานแต่งงานครั้งใหญ่ที่เจ้าภาพต้องการความหรูหราและพิธีการที่ซับซ้อน หากเจ้าสาวเลือกใส่ชุดเช่นนี้ ตามหลักสากลนั้น ชุดเจ้าบ่าว ต้องเป็น ชุด Tailcoat ตาม dresscode แบบ White Tie แต่ MenDetails เชื่อว่า แค่ Tuxedo ก็เพียงพอแล้วสำหรับบริบทของสังคมไทยครับ
ชุดเจ้าสาวอีกแบบหนึ่งคือ ชุดราตรี (Sheath Gown, Column Gown) หรือ ชุดเดรสตามธีมงาน (Novelty Dress) ซึ่งจะเป็นทางการน้อยลงมา ในกรณีแบบนี้ให้เจ้าบ่าวเลือก “ชุดสูท” สีกรมท่า, สีเทา หรือ สีที่ใกล้เคียงกับชุดของฝ่ายเจ้าสาว เช่น หากเจ้าสาวใส่ชุด Novelty แบบไทยประยุกต์สีครีมสำหรับงานเช้า ชุดเจ้าบ่าว อาจเป็นสูทลินินสีครีม หรือสีนำ้ตาล เพื่อให้บรรยากาศไปในทางเดียวกัน ส่วนในงานกลางคืน หากเจ้าสาวสวมชุดราตรียาวสีขาว เราสามารถเลือกใช้ชุดทักสิโด้ หรือ ชุดสูทสีมาตรฐานอย่างสีกรมท่าหรือสีเทาทดแทนได้เลย ข้อควรจำคือ ผูกเนกไท หรือ โบว์ไท ทุกครั้ง และหลีกเลี่ยงการใส่สูทสีดำนะครับ
ดูเวลาที่จัดงาน
การแต่งกายของเจ้าบ่าวจะมีความแตกต่างกันระหว่างงานกลางวันกับงานกลางคืน โดยชุดกลางคืน (Evening Wear) อย่าง ทักสิโด้ (Tuxedo) คือชุดที่ตามหลักการแล้วจะใส่ในช่วงเวลาหลัง 18:00 น. เป็นต้นไปเท่านั้น ดังนั้นเจ้าบ่าวไม่ควรนำชุดทักสิโด้มาใส่ในเวลากลางวัน โดยในเวลากลางวันนั้น ชุดที่จะมีความเป็นทางการใกล้เคียงกับทักสิโด้ตามหลักสากลก็คือ Morning Suit หรือ Stroller Suit แต่สำหรับเมืองไทยที่ไม่ได้เคร่งครัดธรรมเนียมขนาดนั้น เราแนะนำให้เลือกใส่ สูทสีเทา ในเฉด Dove Grey ที่ไม่เข้มเกินไป หรือชุดสูทที่มีสีใกล้เคียงและเข้ากันได้ดีกับสีชุดของเจ้าสาวครับ
ในส่วนของเวลากลางคืนนั้น หากเป็นงานที่จัดอย่างเป็นทางการ ในสถานที่ที่ตกแต่งเป็นอย่างดี MenDetails ขอแนะนำให้ เลือก ชุดเจ้าบ่าว เป็นชุดทักสิโด้ (Tuxedo) หรือที่ฝั่งอังกฤษเรียกว่า Dinner Suit หรือ Dinner Jacket ไว้เป็นการดีที่สุด ด้วยเหตุผลข้อแรกก็คือ เราจะแต่งกายแตกต่างจากแขกเหรื่อที่มาร่วมงานโดยทันที ทำให้แขกไม่ต้องกังวลว่าจะแต่งกายมาเหมือนเจ้าบ่าวมากเกินไปหรือไม่ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ เราไม่ได้เป็นเจ้าบ่าวกันบ่อย ๆ ดังนั้นการแต่งกายด้วยชุดที่เป็นทางการสูงอย่างทักสิโด้ คือการบอกทุก ๆ คนให้ทราบทั่วกันว่า คุณให้ความสำคัญกับงานแต่งงานครั้งนี้อย่างยิ่ง และจะไม่แต่งตัวแบบ “อะไรก็ได้” มาเป็นเจ้าบ่าวเด็ดขาด
สำหรับผู้อ่านที่ยังไม่ทราบว่า สูท กับ ทักสิโด้ ต่างกันอย่างไร สามารถ คลิกที่นี่ เพื่ออ่านบทความของเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เลยครับ
โดยธรรมเนียมสากลนั้น ชุดทักสิโด้ จะใช้สีเสื้อแจ็กเก็ต สีกางเกง และสีของโบว์ไท เป็นสีดำทั้งหมด อย่างไรก็ดีสำหรับเมืองไทยนั้น หลายครอบครัวยังคง “ถือ” ในเรื่องความเหมาะสมของสีดำสำหรับงานแต่งงาน ดังนั้น MenDetails แนะนำให้ใช้ชุด Tuxedo สีน้ำเงินเข้มจัด (Midnight Blue) คู่กับกางเกงสีเดียวกันหรือสีดำ หรืออีกแบบคือเสื้อดินเนอร์แจ็กเก็ตสีขาวงาช้างคู่กับกางเกงสีดำ และสำคัญคือรองเท้าจะต้องเป็น รองเท้า Opera Pump หรือรองเท้าอ๊อกฟอร์ด Plain toe หรือ Cap toe สีดำเงาวับเท่านั้นเมื่อใส่ทักสิโด้นะครับ
พิจารณาสถานที่ที่ใช้จัดงานแต่งงาน
แม้ชุดทักสิโด้ จะเป็นชุดเจ้าบ่าวที่เราแนะนำ แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องพิจารณาควบคู่ไปด้วย นั่นก็คือสถานที่ที่ใช้ในการจัดงานแต่งงาน ชุดที่เป็นทางการมาก ๆ อย่างทักสิโด้ย่อมไม่เหมาะสมหากงานของเราจัดขึ้นที่ริมทะเล หรือ กลางสวนริมเขาใหญ่บรรยากาศดี ๆ หากเป็นเช่นนี้การพิจารณาความเหมาะสมของชุดกับ ธีมงาน และ สถานที่จัดงานจะเข้ามามีความสำคัญแทนที่ความหรูหราและเป็นทางการ
คำแนะนำของ MenDetails คือให้ยึด “ชุดสูท” เอาไว้เป็นหลักก่อน จากนั้นย้อนกลับไปดู “ชุดเจ้าสาว” อีกครั้ง ว่าเจ้าสาวแต่งกายในโทนใด และ ธีมใด จากนั้นจัดเสื้อผ้าของเราเองให้เข้ากัน เช่น หากเจ้าสาวอยากจัดงานแต่งงานริมทะเล ด้วยชุดเดรสพลิ้ว ๆ สีฟ้าที่ไม่ได้มีพิธีรีตองมากมายนัก เราก็สามารถใส่ชุดสูท Seersucker ลายทางสีฟ้า พับขากางเกงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้แมตช์กับชุดเจ้าสาวได้เลย เป็นต้น
งานแต่งงาน คืองานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายเจ้าสาวที่จะต้องวางแผนมากกว่าผู้ชายหลายเท่านัก เราเองในฐานะเจ้าบ่าวน่าจะมีภาระหน้าที่สำคัญอย่างเดียวก็คือการเลือก “ชุดเจ้าบ่าว” ที่เหมาะสมกับงานและความตั้งใจของฝ่ายหญิง ลองนำคำแนะนำของ MenDetails ไปปรับใช้ เพื่อให้ผู้ชายทุกคนแต่งกายในฐานะ “เจ้าบ่าว” ได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมนะครับ