ในวันที่บรรดาค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลกต่างตบเท้าเข้าร่วมวงการรถยนต์ไฟฟ้า BMW ก็เป็นอีกหนึ่งค่ายที่เริ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และเริ่มส่งรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในตลาดโลก (และตลาดไทย) ในรถยนต์ซีรีส์ต่าง ๆ ของตัวเองเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ และล่าสุดนี้ก็ถึงคิวของ ซีรีส์ 5 รถยนต์ที่ผสมผสานความหรูหราและความสปอร์ตเอาไว้ด้วยกัน พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เกิดเป็น BMW i5 รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบครั้งแรกของซีรีส์ 5 ที่ได้ออกสู่สายตาของคนไทยเป็นที่เรียบร้อย
MenDetails เลยจะมาสรุปข้อมูลที่น่าสนใจ รวมถึงรูปใกล้ ๆ ของรถทั้งภายในและภายนอก ให้ท่านผู้อ่านที่สนใจในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จากค่าย BMW คันนี้ ได้รับทราบกันครับ ว่ามันมีอะไรบ้าง ใครที่สนใจอยู่ก็มาดูกันเลยครับ
จุดเริ่มต้นรถยนต์ไฟฟ้าของตระกูลซีรีส์ 5
BMW ซีรีส์ 5 เป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมาตลอดเวลากว่าครึ่งศตวรรษของแบรนด์ ด้วยเทคโนโลยีระดับไฮคลาส ประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือชั้น และรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยวหรูหรา พร้อมมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมบนท้องถนน และการเปิดตัว BMW i5 ก็นับเป็นก้าวแรกของซีรีส์ 5 สู่ยุคของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยที่ยังรักษาความลงตัวจากการผสมผสานสมรรถนะเข้ากับความหรูหรา ครบครันด้วยเทคโนโลยี BMW eDrive รุ่นที่ 5 นวัตกรรมดิจิทัลมากมาย พละกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าและความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูโอ่อ่าและปราดเปรียวบนทุกเส้นทาง นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญเพื่อการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนทั้งการลดมลภาวะขณะขับขี่และในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน พร้อมด้วยบริการสุดพิเศษอย่าง Proactive Care ที่เสริมความอุ่นใจให้ผู้ขับขี่
และในการเปิดตัวครั้งนี้ ตัวรถก็มาพร้อมกับรถย่อยให้เลือกสองรุ่น คือ eDrive40 M Sport ที่พร้อมนำเสนอประสบการณ์การขับขี่อันยืดหยุ่น รองรับทุกสถานการณ์ ในราคา 4,999,000.- และ M60 xDrive ที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพการขับขี่ระดับแนวหน้า ผสานความแรงจากตระกูล M เข้ากับนวัตกรรมล้ำยุคจากตระกูล i เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ในราคา 5,599,000.-
BMW i5 มาพร้อมกับการออกแบบส่วนหน้ารถที่เติมความสดใหม่ให้กับกระจังหน้าทรงไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ด้วยรูปทรงที่ยื่นออกมาเด่นชัดมากขึ้นจากด้านหน้า ล้อมด้วยกรอบที่กว้างกว่าในรุ่นก่อน และตกแต่งด้วยระบบไฟ BMW Iconic Glow บริเวณกรอบ ส่วนไฟหน้าทั้งสองดวง มีหลอด LED จัดเรียงเป็นแถบในแนวตั้งเพื่อทำหน้าที่เป็นทั้งไฟเลี้ยวและไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่ในเวลากลางวัน ส่วนด้านข้างของตัวรถ ดูโฉบเฉี่ยวและทรงพลังด้วยแนวเส้นสายที่สูงเด่น เสริมรายละเอียดด้วยลูกเล่นอย่างสเกิร์ตข้างสีดำ มือจับประตูที่เรียบสนิทไปกับพื้นผิวของประตูรถ ขณะที่ส่วนท้ายรถก็เตะตาไม่แพ้กันด้วยไฟท้ายดีไซน์เรียบหรู
BMW i5 ทั้งสองรุ่นย่อย มาพร้อมกับชุดแต่งสไตล์สปอร์ตที่เติมความเข้มในสไตล์ M แบบรอบคัน เช่น
สปอยเลอร์หลังดีไซน์ M สำหรับ eDrive40 M Sport และสปอยเลอร์สีดำเงาแบบ high-gloss สำหรับ M60 xDrive
รถยนต์ทั้งสองรุ่นย่อยมาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จไฟฟ้าที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพสูงสุด ด้วยหัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC กำลังไฟ 22 กิโลวัตต์ และการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุดที่ 205 กิโลวัตต์ ทำให้สามารถชาร์จไฟจาก 10% ถึง 80% ในเวลาแค่ 30 นาที
ภายในของทั้งสองรุ่นย่อย ไม่ต่างกันมากเท่ากันภายนอก โดยยังคงความสปอร์ตด้วยพวงมาลัยหนังสไตล์ M เบาะนั่งด้านหน้าแบบ Comfort พร้อมระบบปรับด้วยไฟฟ้า ขณะที่ระบบไฟส่องสว่างทั้งภายในและภายนอกห้องโดยสาร ม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารที่เบาะหลัง และชุดอุปกรณ์ Travel & Comfort เสริมความหรูหราและสะดวกสบายให้ทุกการเดินทาง โดยสิ่งที่ต่างจริง ๆ จะเป็นสีภายในของห้องโดยสารเสียมากกว่า
สำหรับที่นั่งคนขับด้านหน้า ยังเน้นที่ความสบายและมั่นใจของผู้ขับขี่ ด้วยระบบหน้าจอโค้ง BMW Curved Display ที่แบ่งออกเป็นจอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงระบบควบคุม Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว บนระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ QuickSelect ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ง่ายขึ้น ลดระยะเวลาในการใช้งานเมนูย่อยก่อนการเปิดใช้ฟีเจอร์นั้น ๆ นอกจากนี้ หน้าจอแสดงผลแบบโค้ง BMW Curved Display ยังทำงานควบคู่ไปกับระบบ BMW iDrive เพื่อการควบคุมที่ง่ายดายผ่านระบบหน้าจอสัมผัส ปุ่มคำสั่งบนพวงมาลัย และอุปกรณ์ควบคุม BMW iDrive Controller ที่บริเวณกลางคอนโซล
ด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 ทำให้ระบบความบันเทิงภายในรถก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการให้ผู้ใช้เข้าถึงคอนเทนท์ดิจิทัลได้หลากหลายรูปแบบยิ่งกว่าทุกครั้ง รวมทั้งยังมีการอัพเดทที่รวดเร็วฉับไวยิ่งกว่าเดิม หนึ่งในไฮไลท์สำคัญก็คือแพลตฟอร์ม AirConsole ที่ให้ผู้ขับและผู้โดยสารสามารถเล่นเกมได้อย่างสนุกสนาน ในขณะที่ยานพาหนะจอดอยู่กับที่ ในขณะที่ระบบช่วยขับขี่และความปลอดภัย ตัวรถก็มาพร้อมกับระบบ Driving Assistant Professional ที่รวมทั้งระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยและการเปลี่ยนเลน (Steering and Lane Change Assist) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (Active Cruise Control with Stop & Go function) ที่ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง เอาไว้ด้วยกัน ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ ระบบช่วยถอยรถ Reversing Assistant ระบบเตือนระยะห่าง Active Park Distance Control ระบบการช่วยจอดแบบ Lateral Parking Aid และอีกมากมาย
BMW i5 eDrive40 M Sport รุ่นเริ่มต้น ที่แรงไม่หยอก
รถรุ่นเริ่มต้นนี้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ให้พละกำลัง 340 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร และสามารถส่งแรงบิดได้สูงสุดถึง 430 นิวตันเมตรเมื่อเปิดใช้งานระบบ Sport Boost หรือ Launch Control และแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงชุดเดียวกับรุ่น i5 M60 xDrive จึงมอบอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 6 วินาที และมีระยะการขับขี่อยู่ที่ 497-582 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 501 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC
BMW i5 M60 xDrive ตัวแรง หรูหราและเร้าใจ
ส่วนตัวท็อปอย่าง M60 xDrive พร้อมมอบความแรงด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพลังงานไฟฟ้า BMW xDrive Electric กับชุดมอเตอร์ที่ให้กำลังขับถึง 601 แรงม้า ทำให้ M60 xDrive ทั้งเร็วและแรงด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพียง 3.8 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีระยะการขับขี่ถึง 455-516 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 466 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC
BMW Proactive Care บริการที่จะมอบความอุ่นใจให้ผู้ขับขี่
นอกจากการเปิดตัวรถใหม่แล้ว ทาง BMW ยังเปิดตัวระบบบริการใหม่ล่าสุดให้กับลูกค้าในประเทศไทย อย่าง Proactive Care ที่นำข้อมูลและนวัตกรรม AI มายกระดับการดูแลลูกค้าไปอีกขั้น โดยระบบจะตรวจสอบและคาดการณ์ความจำเป็นในการเข้ารับบริการ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ขับขี่ และให้ข้อเสนอแนะก่อนนำรถยนต์เข้ารับบริการ ทำให้ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้สะดวกสบายหายห่วงมากยิ่งขึ้นครับ
BMW i5 ถือเป็นหนึ่งในก้าวใหม่ของ BMW ที่จะมามอบความหลากหลายให้กับผู้บริโภคในประเทศไทยได้มีตัวเลือกมากขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีแบรนด์ต่าง ๆ ตบเท้าเข้ามามากมาย และไม่ใช่แค่การเปิดตัวรถใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริการที่ต้องสะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันของผู้บริโภคยุคใหม่ด้วย สุดท้ายหากใครสนใจรถยนต์รุ่นนี้ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ตัวแทนจำหน่ายของ BMW ทั่วประเทศครับ