เสื้อผ้าเป็นเหมือนเครื่องแสดงความเป็นตนตัว รสนิยม ความชอบของผู้สวมใส่ เราทุกคนล้วนมีเสื้อผ้าตัวโปรด ตัวที่ใช่ ที่เรามักใส่ออกงาน หรือสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเรา และเพื่อการนั้นแล้วการ ดูแลเสื้อผ้า จึงเป็นสิ่งสำคัญ
นอกจากการ ดูแลเสื้อผ้า จะทำให้เสื้อผ้าตัวเก่งของคุณ สามารถยืดอายุให้ใช้งานได้นานแล้ว ยังเป็นผลดีต่อสภาพคล่องทางการเงินของเราด้วย เพราะการซื้อเสื้อผ้าดี ๆ สักตัว เป็นเหมือนการลงทุน เราคาดหวังให้มันสามารถใช้ได้นานอยู่แล้ว การซื้อเสื้อผ้าใหม่บ่อย ๆ คงไม่ใช่เรื่องที่สนุกนัก ทว่าในบางครั้งเราไม่ทราบวิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าให้ถูกต้อง ในวันนี้ MenDetails จึงขอแนะนำการดูแลเสื้อผ้า สำหรับเหล่าสุภาพบุรุษครับ
ผ้า Denim แม้ดูไม่มีอะไร แต่ก็มีความละเอียดอ่อนในการดูแล
ผ้า Denim หรือที่เรามักเรียกกันว่า กางเกงยีนส์ เห็นเเบบนี้ ก็มีความละเอียดอ่อนในการดูแลอยู่ไม่น้อย หากต้องการให้กางเกงยีสต์ตัวโปรดสามารถใส่ได้นาน โดยสีไม่ตก และไม่ทำลายเนื้อผ้า
อย่างแรก หลายคนมีความเชื่อผิด ๆ ว่า กางเกงยีนส์นั้น ไม่จำเป็นต้องซักก็ได้ หรือ หลาย ๆ เดือนค่อยซักครั้งนึง นั้นจะทำให้กางเกงยีนส์เเข็ง และฝุ่น สิ่งสกปรกต่าง ๆ ทำการกัดกินเนื้อผ้าทำให้กางเกงยีนส์นั้นเสียหายได้ง่าย หากคุณเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยซักยีนส์เลย เราขอแนะนำว่า ซักเถอะครับ ถ้าหากอยากให้มันอยู่กับเราไปนาน ๆ
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ให้ซักทุกครั้งหลังใส่นะครับ ถ้าหากมันไม่เปื้อนหรือเลอะมากจนเกินไป ในการใส่ปกติสัก 10 – 15 ครั้ง ซักครั้งนึงก็เพียงพอแล้ว และที่สำคัญ ต้องใช้น้ำยาซักผ้าให้ถูกกับประเภทของเนื้อผ้าด้วยนะครับ เพื่อไม่ให้กางเกงของเราเปลี่ยนสีโดยไม่ตั้งใจ
สำหรับกางเกงยีนส์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ การซักโดยการกลับด้านในออกมาด้านนอกก่อน น่าจะเป็นทริคพื้นฐานที่สุดที่ควรรู้ รวมถึงการใช้น้ำเย็นในการซัก เพื่อหลีกเลี่ยงรอยด่างบนกางเกงตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มใส่ อีกสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการซักก็คือ การใช้เครื่องปั่นผ้าที่ปั่นแรง เพราะจะทำให้กางเกงเสียรูปทรงครับ
หลังจากที่ซักเสร็จแล้ว การตากกางเกงก็สำคัญนะครับ ปกติเราจะตากโดยเอาขากางเกงลง แต่ในการตากกางเกงยีนส์ เราขอแนะนำให้ตากโดยเอาขากางเกงทั้งสองขึ้นครับ โดยที่ขาทั้งสองแยกจากกัน จะทำให้กางเกงแห้งไวขึ้นและคงรูปเดิม ส่วนใครที่คิดจะนำไปเข้าเครื่องอบหลังซักเสร็จ เราขอแนะนำว่า อย่าทำอย่างนั้นจะดีกว่า เพราะนั้นจะทำให้เนื้อผ้าหดตัวและเสียหายได้ครับ
สุดท้ายสำหรับกางเกงยีนส์ตัวโปรดของคุณ การใส่มันบ่อย ๆ จะทำให้มันดูดีขึ้น และเข้ากับคุณมากขึ้นด้วย แต่ก็ไม่ได้แนะนำว่าควรใส่ติดกันทุกครั้ง ทุกวันนะครับ เปลี่ยนไปใส่กางเกงตัวอื่นเพื่อให้กางเกงยีนส์ตัวนั้นได้มีโอกาสพักบ้างก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
ชุดสูท อาวุธสำคัญสำหรับออกงานต่าง ๆ
สำหรับผู้ชาย การมีชุดสูทคู่ใจสักตัวสองตัว ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะสูทแบบสั่งตัด ที่เป็นเหมือนการลงทุนระยะยาว การดูแลรักษามันให้ใช้ได้นานจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
ในการดูแล สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชุดสูท คือการทำความสะอาดครับ สูทนั้นเราไม่ควรซักแห้งมันบ่อย โดยเฉพาะสูทสั่งตัด เพราะสารเคมีจากการซักแห้งจะไปทำลายเส้นใยผ้า ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ในการทำความสะอาด เราแนะนำให้ใช้วิธีการอบและรีดไอน้ำครับ หรือที่บางร้านจะมีบริการที่เรียกว่า “sponge and press” แทนการซักแห้ง หากต้องซักแห้ง ก็ขอให้ซักพร้อมกันทั้งชุด เพื่อให้สีของชุดไม่ต่างกัน
ชุดสูทไม่เหมือนกางเกงยีนส์ สูทต้องการเวลาพัก การใส่สูทตัวเดิมซ้ำ ๆ จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง หากทำได้ พยายามอย่าใส่สูทชุดเดียวติดกันเกิน 2 วันครับ
ในการเก็บรักษาชุดสูทก็สำคัญนะครับ การเเขวนชุดสูทสำคัญไม่แพ้การทำความสะอาดเลย หากเราใช้ไม้แขวนเสื้อทั่ว ๆ ไป รับรองได้ว่าสูทเสียทรงแน่นอนครับ เราต้องใช้ ไม้แขวนเสื้อสูทที่ขนาดไม้ยาวพอดีกับช่วงบ่า มันจะช่วยรองรับส่วนบ่า ทำให้สูทไม่เสียทรงและรองรับน้ำหนักของสูทครับ และใครที่ชอบพาดเสื้อสูทไว้กับเก้าอี้ อันนี้ก็ไม่ควรครับ เพราะทำให้สูทเสียทรงได้เช่นกัน
นอกจากแขวนแล้ว หากเรามีถุงคลุมสูท ก็สามารถใช้ถุงคลุมเพื่อกันฝุ่นต่าง ๆ ได้ครับ มันจะช่วยรักษาความสะอาดของสูทได้อีกชั้น
เนคไท ช่วยเสริมลุคและความมั่นใจ
เนคไท เป็นอีกสิ่งที่ช่วยเสริมความเป็นทางการและลุคของเราได้ การมีเนคไทที่เข้ากับชุดสูทคู่ใจเป็นเรื่องปกติ หรือบางคนอาจจะมีเนคไทหลายสี หลายแบบ ที่ใช้ต่างกันตามโอกาส
การดูแลเนคไท อาจไม่ได้มีขั้นตอนซับซ้อนยุ่งยากเท่าชุดสูท แต่ก็ไม่ควรละเลยเด็ดขาด เพราะนั่นหมายถึงการที่คุณจะต้องเสียเนคไทเส้นโปรดไปไวกว่าที่ควร
สิ่งที่ควรรู้อย่างแรก คือ เนคไทไม่ต่างจากสูท ตัวมันเองก็ต้องการเวลาพัก ดังนั้นอย่าใส่มันติดๆ กันจนเกินไป และหากเราใช้เนคไทแบบเส้น ไม่ใช่เนคไทสำเร็จรูปเเบบที่สวมแล้วรูดขึ้นได้เลย เวลาถอดเนคไทแล้วต้องคลายปมทุกครั้ง การที่เราขี้เกียจแล้วแขวนเอาไว้ทั้งปมแบบนั้น จะทำให้เนคไทเสีย และมีรอยยับที่แก้ไม่หายครับ
ในการทำความสะอาดเนคไท เราจะไม่ซักเนคไทครับ จะซักน้ำซักแห้ง ก็ไม่ครับ การซักจะทำให้เนคไทหดตัว การทำความสะอาดเนคไทนั้น ใช้แค่ ไอเตารีดไอน้ำ ก็เพียงพอแล้วครับ การรีดเนคไทโดยตรง อาจทำให้เนคไทแบนราบจนเกิดไป เอาจริง ๆ แล้ว หากเราอาบน้ำอุ่น (หรือจะน้ำอุณภูมิปกติ ในวันที่ร้อนสุด ๆ ตามแบบฉบับอากาศเมืองไทย) เวลาอาบน้ำ เอาเนคไทแขวนไว้ในห้องน้ำด้วยก็ทำได้ครับ ไอน้ำจะช่วยให้ผ้าคลายความตึงจากการผูกปมและใช้งานในแต่ละวัน
สำหรับการเก็บเนคไท สามารถทำได้ทั้งการเเขวนเส้นเนคไท หรือจะม้วนเก็บก็ได้ ถ้ามีที่แขวนเราก็อยากให้แขวนครับ เพราะการแขวนทำให้เนคไทได้หายใจและคงรูปทรงเดิมของมัน แต่ที่ห้ามเด็ดขาด คือการขยุม ๆ แล้วโยนลงไปในลิ้นชักครับ
เสื้อเชิ้ต เสื้อพื้นฐานที่ทุกคนควรมี
เสื้อเชิ้ต น่าจะเป็นเสื้อพื้นฐานที่ทุกคนควรมี ไม่ต่างไปจากกางเกงยีนส์ เพราะสามารถใส่เล่นได้ ใส่ออกงานได้ สามารถ mix & match สร้างสไตล์ของแต่ละคนได้ การดูแลรักษาเสื้อเชิ้ตให้ดี จึงเหมือนเครื่องหมายที่บอกความใส่ใจของผู้ใส่แต่ละคน
เสื้อเชิ้ตสามารถซักได้ทั้งแบบมือ และแบบใช้เครื่องซักผ้า แต่ต้องใช้น้ำยาซักผ้าที่ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนแรง และต้องซักโดยใช้น้ำอุ่น เวลาซัก ต้องตรวจดูให้แน่ใจว่า กระดุมทุกเม็ด ทั้งตรงปกเสื้อและข้อมือ เราได้ปลดกระดุมออกหมดแล้ว ถ้าไม่ปลดออกรูกระดุมจะขยาย ทำให้เวลาติดกระดุม กระดุมจะหลุดได้ง่าย หากซักด้วยเครื่อง ก็ควรลดเวลาการปั่นลงจากเวลาปั่นผ้าปกติสักนิด เพราะเสื้อเชิ้ตจะเกิดรอยยับมาก
การรีดเสื้อเชิ้ตเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้คนที่เห็นเสื้อของเรารู้ว่า เราใส่ใจเสื้อเชิ้ตของเราขนาดไหน ถ้าหากเราใส่ทั้ง ๆ ที่มีรอยยับ หรือไม่ได้รีด คนก็จะมองว่าเราไม่ใส่ใจกับการดูแลเสื้อของเรา การสวมเสื้อเชิ้ตที่เรียบนอกจากจะทำให้เราดูดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มความประทับใจและบ่งบอกความใส่ใจของเราได้ครับ
การรีดเสื้อเชิ้ตให้เรียบนั้น เริ่มตั้งแต่การวางเสื้อเลยครับ เวลาวางเสื้อลงบนโต๊ะรีดผ้า ให้วางส่วนที่จะรีดออกให้ราบที่สุด อล้วกำหนดจุดเริ่มต้น ออกแรงรีดไปกลับ 1 รอบ และควรกำหนดทิศทางของเตารีดให้เคลื่อนตัวได้ง่ายที่สุด ไม่เช่นนั้นเสื้อจะย่นจนเกิดรอยยับครับ
ถ้าไม่รู้ว่าเริ่มรีดจากส่วนไหน เราแนะนำให้รีดจากพื้นที่ส่วนน้อยก่อน เพราะถ้าเริ่มจากส่วนที่มีพื้นที่มาก เราอาจจะต้องรีดหลายรอบ เพราะส่วนที่รีดไปแล้วจะเกิดการยับอีกเวลาเลื่อนเตารีด ดังนั้นควรเริ่มจาก ปกเสื้อ สาบกระดุม แขนเสื้อ (จากข้อมือเสื้อไปตัวแขนเสื้อ) ตัวเสื้อด้านหลัง แล้วจบที่ตัวเสื้อด้านหน้าครับ
การดูแลเสื้อผ้าของเราให้ดี จึงไม่ได้แค่ทำให้เสื้อผ้าที่ใช้ อยู่กับเราไปอีกนาน หรือประหยัดรายจ่ายในการซื้อเสื้อผ้าใหม่บ่อย ๆ เท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงความใส่ใจของเจ้าของด้วยครับ เสื้อผ้าที่ดูใหม่อยู่เสมอ แม้จะใช้มานานแล้ว ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าเจ้าของใส่ใจมากเพียงใด และยังทำให้ผู้เห็น เกิดความรู้สึกประทับใจด้วยครับ