สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ในยุคนี้ คงพูดได้ว่าอัตราความสำเร็จในการคบกันไปถึงขั้นแต่งงานลดลงกว่าสมัยก่อนพอสมควร อาจไม่ได้แต่งงาน เพราะเลือกเองหรือไม่เจอคนที่เหมาะกับมากพอ หรือบางคนแต่งแล้วหย่าร้าง ซึ่งกว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะตัดสินใจอยากแต่งงานกับผู้ชายสักคนนั้น เธอต้องมั่นใจในตัวคนรักมากพอ และยังมีแนวโน้มว่า บางที ผู้หญิงเลือกเป็นโสด มากกว่าแต่งงานในยุคนี้ด้วยครับ วันนี้ MenDetails.com จึงจะมาวิเคราะห์เหตุผล 4 ข้อว่า ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้หญิงหลายคนถึงเลือกเป็นโสดกันมากขึ้น
รู้จักกับ Marriage Strike กันก่อน
ปัจจัยในการที่จะทำให้คนเราตัดสินใจที่จะแต่งงานมีอยู่เยอะมากครับ เราอาจรู้มุมมองของผู้ชายว่าในช่วงที่ยังไม่พร้อมแต่งงาน คือ ช่วงที่ยังต้องทุ่มเทเวลาให้กับอนาคต การสร้างตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือว่าอาจเป็นความรู้สึกส่วนตัวที่ยังไม่พร้อมจะมี commitment อย่างเต็มรูปแบบ
แล้วทราบหรือไม่ครับว่าฝ่ายหญิงก็มีเหตุการณ์คล้าย ๆ กันเกิดขึ้น และดูจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในยุคหลัง กับปรากฏการณ์ Marriage Strike เข้าใจอย่างง่ายว่าเป็นการชะลอการแต่งงานครับ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับสาวไทย ชาติอื่นในเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ก็เกิดขึ้นด้วยเช่นกันครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่สำเร็จการศึกษาสูง ระดับปริญญาตรีขึ้นไป กลายเป็นว่า ผู้หญิงเลือกเป็นโสด กันมากขึ้น
ความสำเร็จทางการศึกษา ส่งผลต่อการเลือกคู่
เหตุผลข้อแรกที่ทำให้ ผู้หญิงเลือกเป็น โสดในสมัยนี้ เกิดจากการที่ผู้หญิงจบการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับสมัยหลายสิบปีก่อนครับ ข้อนี้อ้างอิงจากงานวิจัย “Gold Miss” or “Earthy Mom”? Evidence from Thailand ครับ เป็นงานวิจัยที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษาที่สูงขึ้นของผู้หญิงไทยกับการตัดสินใจแต่งงานและมีลูก ผลพบว่า ร้อยละ 50-60 ของผู้หญิงที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไปอยู่เป็นโสด ไม่แต่งงานครับ
ในอดีต หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียนสูง เราเข้าใจว่าความคิดแบบนี้เกิดขึ้นจาก culture ของทางฝั่งเอเชียที่คาดหวังให้ภรรยาเป็นแม่บ้านแม่เรือน ทำงานบ้าน คอยทำกับข้าวต้อนรับสามี เลี้ยงลูกให้ดีและไม่ต้องทำงานก็ได้ ไม่ใช่แค่ประเทศไทยครับ ประเทศญี่ปุ่น จีน หรือเกาหลีใต้ก็มีแนวคิดในลักษณะเดียวกัน
ซึ่งแนวคิดนี้ขัดแย้งกับวิถีชีวิตและการศึกษาในยุคปัจจุบันพอสมควร เพราะทุก ๆ คน ไม่ว่าชายหรือหญิงย่อมอยากจะเรียนในระดับการศึกษาสูงเพื่อจะได้ต่อยอดการทำงาน สร้างอนาคต ฉะนั้น ผู้หญิงสมัยนี้ จึงมองเรื่องการทำงานหาเงินเช่นกันครับ เมื่อจบการศึกษาสูง สามารถยืนด้วยตัวเองได้ ก็ย่อมมองเส้นทางความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มากกว่าการอยู่บ้านเฉย ๆ พึ่งแค่แรงสามีในการทำงานหาเงิน นั่นเอง
ฉะนั้นผู้หญิงฉลาดที่ให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าในเรื่องงาน มักมีแนวคิดว่า ‘ถ้ามีแฟนต้องมีแล้วดีกว่าเดิมเท่านั้น หากมีแฟนแล้วชีวิตแย่ลง ไม่มีเลยยังดีกว่า’
ไม่อยากมีลูก มุมมองเรื่องการมีลูกในสังคมปัจจุบัน
เดิมที ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ผู้หญิงอยากแต่งงาน มักจะมีความรู้สึก อยากมีลูก เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ แต่ปัจจุบันคนจำนวนมากเริ่มรู้สึกไม่อยากมีลูก จึงส่งผลให้การแต่งงานถูกชะลอให้ช้าลงไปนั่นเอง
จำนวนคนไม่อยากมีลูกนั้นเพิ่มสูงขึ้น ด้วยปัจจัยของสภาพสังคมยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านคน สังคมที่ลูกจะต้องเผชิญ ด้านเศรษฐกิจการเงิน ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูก หรือความเป็นปัจเจกบุคคลที่มีความเป็นอิสระทางความคิดมากขึ้น ฉะนั้น การมีลูก อาจไม่เท่ากับ สูตรสำเร็จว่าว่าเป็นความสมบูรณ์พร้อมของครอบครัวเสมอไป
เมื่อไม่อยากมีลูก ผู้หญิงหลายคนจึงไม่ได้ตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ว่าต้องแต่งงาน ปลายทางความสัมพันธ์อาจถูกเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการอยู่ด้วยกันแบบคู่รักแทน หากตั้งใจจะไม่มีลูกเลย จะเรียกว่า Double Income No Kids (DINKs) ครับ
หลาย ๆ ประเทศต่างพยายามแก้ไขปัญหาคนไม่อยากมีลูกครับ เช่น ประเทศไทยมีนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับครอบครัวที่มีบุตร สิงคโปร์มีนโยบายมีลูกช่วยชาติ หากมีลูกก็จะได้รับเงินโบนัสไป เนื่องจากอัตราการเกิดของเด็กที่ลดลงจะส่งผลต่อปัญหาขาดแคลนแรงงานในอนาคตได้
เป้าหมายในชีวิตเปลี่ยนไป แต่งงานเพราะอยาก ไม่ใช่เพราะจำเป็นต้องแต่ง
ขนมธรรมเนียมไทยแต่โบราณคือ การจะให้ลูกสาวออกเรือนต้องตบแต่งกันอย่างมีพิธีรีตรองเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะขายหน้าคนในครอบครัว เท่ากับว่าการแต่งงาน เป็นพิธีที่จำเป็นต้องทำ หากผู้หญิงคนหนึ่งอยากจะอยู่อาศัยกับคนที่เธอรัก
แต่ปัจจุบันนั้นสังคมไทยเปิดกว้างมากขึ้น หลาย ๆ บ้านก็ไม่ได้บังคับลูกว่าจัดพิธีแต่งงาน บางคนอาจไม่อยากแต่งเองเพราะไม่ชอบงานพิธี ไม่ชอบอะไรที่ทางการเกินไป ฉะนั้นการแต่งงานจึงกลายเป็นพิธีที่จะเกิดเมื่อคู่รักรู้สึกอยากแต่งเองครับ แต่ทั้งนี้ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ควรจะรู้สึกไปในทิศทางเดียวกัน
แต่ในอีกมุมก็มีสาว ๆ กระซิบบอกว่า หากเธอไม่อยากแต่งงานหรือสร้างครอบครัวด้วยความคิดของตัวเอง ควร respect her choice ครับ แต่ถ้าเธอเลือกคบผู้ชายสักคนเป็นแฟนแล้วคุณไม่ได้มองแต่เรื่องอนาคตไปกับเธอเลย เธอจะตัดสินใจจบด้วยการเลิกราในไม่ช้า
ในอีกคนมุมหนึ่ง สาว ๆ อาจเลือกอยู่เป็นโสด ไม่แต่งงานเพราะพวกเธอเลือกจะโฟกัสกับความสุขเรื่องอื่นในชีวิตแทน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวไปยังที่ต่าง ๆ ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของตัวเอง การสานฝันที่ตัวเองอยากทำในวัยเด็ก ได้ทำในสิ่งที่ต้องมีอิสระจึงจะทำได้ เรียกว่ายกให้เรื่องอื่นเป็นเป้าหมายที่สำคัญกว่าการแต่งงานนั่นเองครับ
อยู่คนเดียวอย่างมีความสุขดีกว่าคบผู้ชายแย่ ๆ
นอกจากเหตุผลที่ไม่แต่งงานเพราะไม่อยากมีลูก หรือไม่ได้มองเรื่องการแต่งงานเป็นความจำเป็นแล้ว สาว ๆ สมัยนี้อาจเลือกเป็นโสด เพราะยังไม่เจอผู้ชายที่มีคุณสมบัติทัดเทียมเธอก็เป็นได้ครับ ทั้งในแง่รายได้ ระดับการศึกษา ความชอบ ไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตต่าง ๆ ถ้าเธอยังมีความคิดว่าอยู่คนเดียวดีกว่าคบใครสักคน แปลว่าคุณจะต้องดีพอให้เธอมองข้ามผ่าน mind set นั้นของตัวเองให้ได้ก่อนครับ
หากเราเป็นผู้ชายที่ยังไม่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานในใจที่เธอตั้งไว้ อาจถูกปัดตกตั้งแต่ต้น หรือต่อให้ผ่านด่านขั้นที่จีบติด ได้คบเป็นแฟนแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าจะอยู่ยืดไปจนแต่งงานกันครับ ยิ่งเป็นผู้หญิงที่มีการศึกษาสูง รู้สึกว่าสามารถเลือกสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิตตัวเองได้ ก็มีสิทธิ์ที่เธอจะตัดคุณออกจากชีวิตหากคุณทำอะไรไม่ดีกับเธอลงไป หรือมองไม่เห็นอนาคตร่วมกัน
ผู้หญิงจำนวนมากเลือกเป็นโสดดีกว่าคบใครก็ได้ในชีวิต เพียงเพื่อให้มีคำว่าแฟนติดตัว พวกเธอให้ value กับความสุขและความสำเร็จมากกว่าครับ
ถึงแม้การแต่งงานจะไม่ใช่สูตรสำเร็จหรือปลายทางของความสัมพันธ์ แต่มันยังคงเป็นระหว่างทางของการสร้างครอบครัว หากผู้หญิงที่คุณรักมีมุมมองต่อเรื่องการแต่งงานแบบนี้ คุณต้องถามตัวเองแล้วครับว่าทำอย่างไรจึงจะเอาชนะใจผู้หญิงที่มีความสำเร็จสูงในหลาย ๆ ด้านได้ เราต้องยกระดับตัวเองให้ดีขึ้นไปในทุก ๆ ด้านนั่นแหละครับจะมีโอกาสที่สุด