เคยสงสัยหรือไม่ว่า มันมีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้เกิดความแตกต่างกันระหว่างผู้ชายที่สามารถทำตัวสบายๆ ด้วยความมั่นใจได้ทุกครั้งเวลาที่พูดคุยกับผู้หญิง กับผู้ชายอีกแบบหนึ่งที่มักจะเกิดอาการประหม่า ไม่กล้าพูดกล้าคุย เหนียมอายจนนึกอะไรคุยไม่ออก ทำไมทั้งสองคนนี้จึงแตกต่างกัน และผู้ชายที่มีความประหม่าจะสามารถพัฒนาตัวเองให้ประหม่าน้อยลง และมีความมั่นใจที่จะพูดคุยกับเพศตรงข้ามมากขึ้นได้หรือไม่
MenDetails เชื่อว่าผู้ชายทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองไปในแนวทางดังกล่าวได้ถ้าคุณต้องการครับ (ส่วนผู้ชายท่านใดที่ Happy กับสถานการณ์ของตัวเอง ณ ตอนนี้อยู่แล้ว เราก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ) สิ่งสำคัญคือการรู้จักเคล็ดลับในการเติมเสน่ห์ลงไปกิริยาท่าทางและบทสนทนาระหว่างคุณกับเธอ เพื่อทำในสิ่งที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Flirting” (เฟลิ้ททิ่ง) ที่ถือเป็นประตูบานแรกสู่การพูดคุยที่ยกระดับขึ้นไปมากกว่าแค่คำว่า “เพื่อนกัน” นั่นเองครับ
‘Flirting’ คืออะไร?
หากจะหาคำภาษาไทยที่ให้ความหมายของคำนี้ได้ชัดเจน MenDetails คงนึกได้ถึงคำว่า “ให้ท่า” หรือ “อ่อย” นั่นแหละครับ ฟังดูแล้วเป็นคำในแง่ที่ออกจะติดลบนิดหน่อย แต่ความเป็นจริงแล้ว Flirting มีประโยชน์มากในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง ฝ่ายผู้ชายอย่างเราเองก็สามารถ “ให้ท่า” ด้วยการเติมเสน่ห์ในการพูดคุยกับผู้หญิงได้เช่นกัน การทำความรู้จักกับเทคนิคการ “ให้ท่า” ฉบับสุภาพบุรุษ จึงเป็นสิ่งที่ผู้ชายควรรู้ไว้บ้างนั่นเองครับ
ดูกาลเทศะให้ดีเสียก่อน
ไม่ใช่ว่าผู้ชายจะ Flirt ใส่คนอื่นเมื่อไหร่ก็ได้นะครับ พวกเราควรพิจารณาเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมเสียด้วย บางสถานที่ก็เหมาะที่จะให้เราพูดคุยแบบ Flirting กับผู้อื่น อย่างเช่น ระหว่างมื้อเย็นในร้านอาหารดีๆ หรือขณะที่จิบค็อกเทลและนั่งฟังเพลงใน Jazz Bar เป็นต้น แต่ในบางจังหวะเวลาก็ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะให้คุณ Flirt แบบพร่ำเพรื่อ เช่น พยายามพูดคุยแบบนี้กับเพื่อนร่วมงานในระหว่างเวลาทำงาน (เพี้ยนรึเปล่าเนี่ย?) หรือขณะที่เธอกำลังออกกำลังกาย หรือกำลังรีบไปทำธุระ เป็นต้น การดูจังหวะเวลาและกาลเทศะที่เหมาะสม คือขั้นแรกที่คุณควรพิจารณาและฝึกฝนจนรู้ว่าจังหวะไหนควรทำ และจังหวะไหนไม่ควรทำ
ในวัดคงไม่เหมาะนัก แต่ในบาร์ หรือร้านอาหารดีๆ คือกาลเทศะที่เหมาะสมสำหรับการ Flirting ครับ
ใช้ประโยชน์จากลักษณะเด่นของตัวเอง
ผู้ชายหลายคนเชื่อว่าตัวเองต้องหล่อและรวยเท่านั้น ผู้หญิงถึงจะเหลียวแลมอง แต่ถามหน่อยเถอะว่าในช่วงแรกๆของการทำความรู้จักกันนั้น มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ถามคุณตรงๆว่า “คุณมีทรัพย์สินทั้งหมดเท่าไหร่? สิ่งที่ผู้หญิงจะเห็นได้จากครั้งแรกที่ทำความรู้จักก็มีเพียงแค่ รูปร่างหน้าตา บุคลิกภาพ และบทสนทนาระหว่างคุณกับเธอเท่านั้นเอง ผู้ชายจึงควรรู้จักการพัฒนาการแต่งกายและบุคลิกภาพของตัวเอง ยิ่งผู้ชายที่รู้ตัวเองว่าไม่ได้หน้าตาดีเป็นเทพบุตร ยิ่งต้องรู้จักปรับปรุงสไตล์การแต่งกาย และบุคลิกภาพมากขึ้นกว่าคนอื่นอีก ไม่ใช่เพียงแค่บอกว่าตัวเองไม่หล่อ คนอื่นหล่อกว่าเลยได้เปรียบ แบบนั้นไม่ช่วยพัฒนาอะไรได้เลยแม้แต่น้อย
ผู้ชายบางคนขี้อาย และรู้สึกประหม่าเวลาที่คุยกับผู้หญิง จึงคิดว่าเขาไม่สามารถที่จะ Flirt กับผู้หญิงได้ แต่ความเป็นจริงอาจตรงกันข้ามเลยด้วยซ้ำไป เพราะผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่รู้สึกหลงใหลในเสน่ห์และความน่ารักของ “หนุ่มขี้อาย” ผู้ชายเพียงแค่ต้องรู้จักใช้ความขี้อายให้เกิดประโยชน์ แม้อาจต้องรวบรวมความกล้าในตอนแรก แต่ถ้าคุณสามารถดึงเสน่ห์ของผู้ชายขี้อายออกมาได้ คุณจะเป็นผู้ชายที่น่ารักในแบบที่ผู้หญิงหลายคนชื่นชอบครับ
เลือกหัวข้อการพูดคุยที่ดี และพยายามให้เธอพูดมากกว่าคุณให้ได้
เทคนิคที่ดีที่สุดที่จะทำให้เธอพูดมากกว่าคุณก็คือ “การตั้งคำถามปลายเปิด” เพื่อให้เธอได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวของเธอให้ได้มากที่สุด พยายามหาให้เจอว่าเธอสนใจในเรื่องอะไร และถามความเห็นของเธอในเรื่องนั้น หรือถ้าใครนึกไม่ออก ลองจำหัวข้อสนทนาในการชวนผู้หญิงคุณจากบทความที่ MenDetails เคยเสนอไปแล้วดูได้ครับ
แม้เราจะแนะนำให้พยายามทำให้เธอพูดให้ได้มากกว่าคุณ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า MenDetails อยากให้คุณนั่งเงียบเป็นเป่าสากแต่อย่างใด กลับกันเราแนะนำให้คุณแสดงความคิดเห็นของตัวเองบ้าง และที่สำคัญ “ลองขัดใจเธอในแบบทีเล่นทีจริง” เป็นเทคนิคที่น่าสนใจมาก เพราะผู้หญิงน่ารักๆมักจะเจอผู้ชายเข้ามาจีบหลายคน และแต่ละคนก็มักจะตามใจพวกเธอเสมอ ประเภท “ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้” ไม่ค่อยมีใครกล้าขัดใจเธอ หรือกล้าบอกว่าเธอคิดผิด แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายที่กล้าทำสิ่งเหล่านี้ เธอจะจดจำคุณได้ และจะรู้สึกว่าคุณเป็นผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่และมีความมั่นใจในตัวเอง แต่สิ่งที่ผู้ชายอย่างเราควรจำก็คือ “อย่าขัดใจเธอแบบจริงจัง ชนิดเถียงคอเป็นเอ็น” นะครับ แต่ให้ใช้วิธีขัดใจแบบน่ารักๆ หรือแซวเธอเล่น เช่น “ไม่อะ ผมไม่เชื่อ” หรือ “ไม่จริงหรอก คุณโม้แน่ๆ จะมีใครทำอะไรแบบนั้นกัน ขี้โม้!” ยิ้มแย้มไปด้วยในขณะที่พูด เธอจะรู้ว่าคุณกำลังแซว และเธอจะหาทางอธิบายต่อเพื่อให้คุณยอมจำนน นั่นแหละครับคือศิลปะของการ Flirting ที่ผู้ชายทำได้
Body Language คือกุญแจสำคัญ
สิ่งที่อาจจะสำคัญกว่าบทสนทนาและวิธีการที่เราพูดไปทั้งหมดเลยนั่นก็คือ “ภาษากาย” หรือ Body Language ที่คุณและเธอแสดงออกมาขณะที่อยู่ด้วยกันและพูดคุยกันนั่นแหละครับ เพราะ Body Language คือสิ่งที่จะทำให้เธอรู้สึกว่าคุณไม่ใช่แค่ “เพื่อนผู้ชายที่คุยสนุก” และจะทำให้เกิดบรรยากาศที่เป็นความรู้สึก intimate หรือความหลงใหลมากยิ่งขึ้นระหว่างคุณทั้งคู่ โดยที่เธออาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวเลยก็ได้ ศิลปะของการ Flirting จึงมีเรื่องของ Body Language ที่น่าสนใจมากมายครับ ลองดูตัวอย่างคลิบด้านล่างจาก Series เรื่อง Mad Men เมื่อตัวละครเอกสองคน Flirt ใส่กัน พวกเขาคุยกันไม่เยอะนัก แต่สายตา น้ำเสียงและ Body Language ที่ส่งออกมาทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าพวกเขากำลังโปรยเสน่ห์ใส่กันอยู่ครับ
ตัวอย่างที่ MenDetails อยากจะยกมาให้ได้ลองใช้กัน เช่น เมื่อเวลาที่สนทนากัน ลองค่อยๆโน้มตัวไปข้างหน้าให้ใกล้กับหน้าเธอมากขึ้นทีละนิด โดยไม่ให้เธอรู้ตัว แต่ต้องระวังอย่าให้ใกล้จนเธอรู้สึกอึดอัด อีกเทคนิคหนึ่งคือเอียงคอเล็กน้อย อาจเป็นการเท้าคางในขณะที่คุยกับเธอ การเอียงคอมีผลทางจิตวิทยาตรงที่มันเหมือนเป็นการวาดภาพลางๆว่าคุณสองคนกำลังจะจูบกัน เพราะคนที่กำลังจะจูบกันนั้นมักจะต้องเอียงคอเล็กน้อยเข้าหากันเสมอ ลองดูคลิบด้านบนอีกครั้งเพื่อให้เห็นภาพเหล่านี้นะครับ
เวลาที่เธอเอียงคอนิดๆในขณะที่คุยกับเรา คุณจะรู้สึกได้ว่า ‘ผู้หญิงคนนี้น่ารักและเซ็กซี่จริงๆ’ ซึ่งกลับกันฝ่ายผู้หญิงเองเขาก็คิดไม่ต่างจากเราสักเท่าไหร่หรอกครับ
พยายามทำตัวสบายๆ อย่าเกร็งตัวเองด้วยการกอดอก หรือนั่งตัวตรงเกินไป เท้าคางได้ เอียงคอได้ และที่สำคัญคือการฝึก “แสยะยิ้ม” (Smirking) ให้ไม่ดูน่าเกลียดหรือน่าหมั่นไส้ แต่เป็นการยิ้มเล็กๆที่มุมปากในแบบที่คุณมักจะเห็นนักแสดงชายที่ได้รับบทบาทผู้ชายเจ้าเสน่ห์มักทำกันในภาพยนตร์นั่นแหละครับ การฝึก Smirking ที่ดี, สุภาพ และไม่น่าหมั่นไส้ เป็น Body Language อีกแบบหนึ่งที่บอกเป็นนัยให้กับฝ่ายหญิงได้ว่า คุณไม่ใช่แค่เพื่อนผู้ชายอีกคนของเธอ แต่คุณกำลัง Flirt กับเธออยู่ครับ
ตัวอย่างการทำตัวสบายๆระหว่างพูดคุยกัน และรอยยิ้มเล็กๆ หรือ Smirk ที่ผู้ชายควรฝึกทำให้ดูสุภาพและเป็นธรรมชาติ
บทสรุปส่งท้าย
MenDetails เชื่อว่า ผู้ชายทุกคนสามารถที่จะฝึกการ “ให้ท่า อย่างสุภาพ” หรือ Flirting กับผู้หญิงที่เราสนใจได้ แก่นหลักของเรื่องนี้คือความมั่นใจในตัวเอง และการทำให้บรรยากาศนั้นเป็นมิตร เป็นกันเอง และทำให้เธอรู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับคุณ ใช้วิธีการ “ขัดใจ” เธอบ้างเพื่อให้เกิดประเด็นโต้เถียงกันแบบขำๆ อย่าลืมว่าการ Flirt ที่ดี ไม่ใช่การตามใจฝ่ายหญิงทุกเรื่องทุกอย่าง แต่เป็นการใส่ความขี้เล่นลงไป แหย่ให้เธองอนเล็กๆน้อยๆบ้าง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การ Flirt ของเราได้ผลมากขึ้นครับ
ทิ้งท้ายคือเรื่องของ Body Language อย่าทำตัวเกร็งเกินไป ให้นึกว่าเธอคือผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น พูดจากับเธออย่างสุภาพให้เกียรติ และลองใช้เทคนิคที่ MenDetails แนะนำไปข้างต้น เราเชื่อว่าจะช่วยทำให้คุณดูมีเสน่ห์มากขึ้น และผู้หญิงเองก็จะรู้สึกได้ว่าคุณเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่และน่าดึงดูดใจมากขึ้นจากการ Flirt ของคุณครับ MenDetails หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ชายทุกท่านที่อยากจะ Upgrade บทสนทนาของเรากับผู้หญิงที่เราชอบให้ดียิ่งขึ้นนะครับ