เป็นธรรมดาของความรักเมื่อเริ่มคบกันใหม่ๆ อะไรๆ ก็ดูจะสมูทลื่นไหลลงตัวไปซะหมด แต่เมื่อใดที่รักเริ่มจืดจางลงผู้ชายหลายๆ คนเริ่มที่จะละเลยความใส่ใจที่เคยมีให้ เพราะคิดว่าผู้หญิงข้างตัวต้องเข้าใจ แต่รู้หรือไม่..ว่าผู้หญิงข้างตัวคุณบางคนเขาอาจจะไม่เข้าใจ และไม่ชอบสิ่งที่คุณเป็น ยิ่งถ้าการกระทำของคุณมันเข้าไปคุกคามความคิดและการใช้ชีวิตของพวกเธอด้วยแล้ว รับรองได้เลยว่างานนี้มี “เท” แน่นอน หากคุณกำลังสงสัยว่าทำไมผู้ชายที่รักผู้หญิงคนหนึ่งมากๆ ถึงถูกบอกเลิกไป วันนี้เราจะพาคุณไปไขข้อข้องใจนี้กันค่ะ
1. ยิ่งอยู่ยิ่งพาเครียด
ผู้ชายบางคนมีสภาวะที่ยิ่งอยู่ยิ่งถดถอย การถดถอยนี้คือความเอาใจใส่ต่อความสัมพันธ์ คนข้างตัว หรือแม้แต่ตัวเอง เมื่อคิดว่าความสัมพันธ์อยู่ตัวผู้ชายมักมีพฤติกรรมสบายๆ เช่น อยากจะถอดเสื้อผ้าทิ้งตรงไหนก็ทำ, อยากจะทานอาหารที่อยู่ในตู้เย็นก็ทานแบบไม่เคยถาม หรือนอนหลับยาวทั้งที่พูดกับคนรักไว้แล้วว่าจะออกไปข้างนอกด้วยกัน เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ถ้าไม่มากจนเกินไปเชื่อว่าผู้หญิงก็พอรับได้ แต่ถ้าเมื่อใดที่มันสะสมและมากขึ้นทุกวัน จนตัวคุณผู้ชายกลายเป็นคนไม่สนใจอะไรเลยและทำตัวถดถอยลงไปเรื่อยๆ ผู้หญิงที่อยู่ข้างตัวจะรู้สึกว่ายิ่งอยู่ก็ยิ่งเครียด! แบบนี้สักวันมีระเบิดและแยกทางแน่นอนค่ะ
2. เชื่อใจไม่เคยได้
ความเชื่อใจถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่มักทำให้คู่รักเลิกรา ไม่ว่าจะเป็นการแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมือที่สาม, การโกหกไปซะทุกเรื่อง, การไม่รักษาสัญญาที่เคยให้ไว้, การผัดวันประกันพรุ่ง หรือแม้แต่เรื่องการเงิน โดยเรื่องใหญ่ที่สุดแบบที่ผู้หญิงไม่อยากให้อภัยคือการแอบมีความสัมพันธ์ที่สามหรือการคบซ้อน แล้วหันมาหลอกคนข้างตัวด้วยการทำทุกอย่างเป็นปกติ และเมื่อโดนจับได้ก็ดีแต่รับปากแล้วสุดท้ายก็หันกลับไปแอบคบกันต่อ ผู้หญิบางคนอาจให้อภัยครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ได้ แต่สำผู้หญิงบางคนเพียงจับได้ครั้งแรกก็เลิกราเลยทันที ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพฤติกรรมของฝ่ายชายด้วยว่าจะร้ายแรงมากขนาดไหน
3. มีพฤติกรรมชอบใช้กำลังข่มขู่
อีกหนึ่งพฤติกรรมที่ดูแล้วไม่ดีเลยและไม่ควรเกิดขึ้นกับคนที่เรียกตัวเองว่าคนรัก คือ พฤติกรรมการใช้กำลังบังคับ ข่มขู่ และทำร้ายร่างกาย ผู้ชายประเภทนี้จะมองไม่เห็นคุณค่าของความรักที่แท้จริง และมองเห็นคนรักเป็นเพียงของส่วนตัวเท่านั้น เมื่อไม่พอใจ ไม่ได้ดั่งใจ หรือผู้หญิงเริ่มตีตัวออกห่าง ผู้ชายประเภทนี้จะเริ่มใช้กำลังในการข่มขู่ทันที แบบที่เราเห็นในข่าวเกือบทุกวัน มีผู้หญิงถูกทำร้ายอย่างรุนแรงจากคนรักเพราะเห็นพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจของฝ่ายชายแล้วต้องการเลิกรา ซึ่งผู้ชายที่มีพฤติกรรมเหล่านี้บางคนก็รู้ตัว บางคนก็ไม่รู้ตัว ดังนั้นคงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากจะอยู่กับคนที่มีพฤติกรรมจ้องจะทำร้ายพวกเธอไปตลอดแบบนี้แน่นอน
4. ชอบข่ม ชอบบังคับ
ผู้ชายบางคนมีนิสัยชอบข่มแฟนตัวเองต่อหน้าคนอื่น บางคนอาการหนักถึงขั้นทำให้แฟนตัวเองเสียหน้าจนแทบแทรกแผ่นดินหนี พูดยกตัวเองให้เหนือกว่า ทำให้สังคมของผู้หญิงมีปัญหา พฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้เรียกว่า “รัก” นะคะ แต่เป็นความอิจฉาและการดูถูก นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมชอบบังคับให้ทำตามใจตัวเอง ต้องทำแบบนั้น ต้องเดินไปทางนี้ หรือต้องทำตามแบบที่ตัวเองต้องการเท่านั้น ลองคิดกลับกันดูนะคะว่าถ้าคุณเจอผู้หญิงที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกันบ้าง คุณจะยังอยู่กับเธอต่อไหมคะ?
5.บ่ายเบี่ยงและหลีกเลี่ยง
เมื่อใดที่คุณเริ่มรู้สึกว่าฝ่ายหญิงถามเรื่องการพาไปพบครอบครัว หรือถามเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของคุณมากขึ้น แต่คุณเอาแต่บ่ายเบี่ยง หลีกเลี่ยง และเดินหนี ขอให้รู้ไว้เลยว่าไม่นานนักความสัมพันธ์ของคุณมีสิทธิ์แตกหักได้ อย่าคิดว่าผู้หญิงจะรักคุณถึงขนาดที่ยอมได้ทุกอย่าง บางคู่คบกันนานหลายปีหรือเป็นสิบปีแต่กลับเลิกรากันง่ายๆ ด้วยเรื่องเหล่านี้ก็มีให้เห็นบ่อย
6.ไม่สนใจความรู้สึกคนรอบข้าง
ผู้ชายที่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง รักอิสระ รักกิจกรรม และรักเพื่อน ชีวิตรักมักมีปัญหา ผู้ชายประเภทนี้เมื่อรักแล้วจะไม่ยอมปรับตัว คิดแค่ว่าผู้หญิงต้องยอมรับตัวตนของตัวเองได้ ดังนั้นจึงคิดจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วไม่กลับบ้าน ก็ไม่โทรบอก ไม่สนใจว่าจะมีคนเป็นห่วงหรือไม่, วันสำคัญที่ต้องไปพบกับครอบครัวฝ่ายหญิงคุณก็ไม่เคยมาแต่กลับไปกับเพื่อนแทน หรือทำให้ผู้หญิงต้องรอคุณเพราะเพื่อนและเรื่องส่วนตัวของคุณเองตลอดเวลา
7. เห็นแก่ตัว
เหตุผลสุดท้ายนี้เชื่อได้ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนอยู่ด้วยได้แน่นอน ผู้ชายเห็นแก่ตัวที่ไม่เคยคิดถึงใจคนรัก ไม่ใช่แค่เรื่องเงินแต่เป็นทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องการมีความสัมพันธ์ลับก็คิดว่าผู้หญิงต้องรับได้ มองเห็นคนรักเป็นเพียงแค่คนที่ทำให้ตัวเองมีความสุข เรียกร้องสิ่งต่างๆ ได้ จนในที่สุดคุณก็จะไม่ทำอะไรเลยแล้วก็นั่งรอให้คนรักหาสิ่งที่ตัวเองต้องการมาให้เท่านั้น โดยที่ตัวคุณกลับไม่เคยทำสิ่งดีๆ อะไรให้กับคนรักเลยแม้แต่น้อย เชื่อได้เลยว่าไม่นานนักผู้หญิงจะโบกมือลาขาดไปจากชีวิตคุณแน่นอนค่ะ
ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องอยู่ร่วมกัน ดังนั้นการทำให้ชีวิตรักสมดุล พึ่งพากัน เข้าใจซึ่งกันและกัน พร้อมที่จะปรับตัวเข้าหากันทั้งคู่ ไม่ผลักภาระไปให้ใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคุณสามารถทำได้แบบนี้รับรองได้เลยว่าคู่ของคุณต้องเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาที่สุดและไม่มีการเดินแยกทางกันให้เสียใจอย่างแน่นอน