การก้าวไปคว้าความสำเร็จระดับประเทศไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ก่อนอื่นเราขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาฟันดาบสากล ประเภทเซเบอร์ทีมหญิง ที่คว้าเหรียญทอง SEA Games 2019 มาให้ประเทศไทยได้ เพราะการแข่งขันนั้นต้องผ่านความกดดันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร่างกายของตัวเอง ความคาดหวังจากคนรอบข้าง และวันนี้ MenDetails อยู่กับแชมป์เหรียญทองฟันดาบเซเบอร์ น้องพลอย บัณฑิตา ศรีนวลนัด ที่จะมาแชร์ประสบการณ์การแข่งขันที่ฟิลิปปินส์ และวิธีการ รับมือแรงกดดัน การจัดการความเครียดในแบบฉบับของเธอครับ
จากดาราเด็กชื่อดัง สู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย
มองน้องพลอยให้นานสักหน่อย อาจมีหลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาครับ น้องพลอยเป็นอดีตดาราเด็กที่ฝากผลงานละครเอาไว้มากทีเดียว เช่น ราชินีหมอลำ, เพื่อนรัก, ใยเสน่หา
“สวัสดีค่ะ พลอย บัณฑิตา ศรีนวลนัด นักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย เป็นรัฐศาสตรบัณฑิตจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ค่ะ” น้องพลอยแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้มครับ
เราพูดคุยกันถึงจุดเปลี่ยนจากดารากลายเป็นนักกีฬา “พอถึงช่วงที่เป็นวัยรุ่น ละครตรงแก๊ปอายุช่วงนั้นมันหายไป หาบทบาทได้ที่เหมาะกับตัวเองได้ยากค่ะ พลอยเลยใช้เวลาหลังเลิกเรียนทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน ไปลองเล่นกีฬามาหลายอย่างมาก” น้องพลอยบอกกับทีม MDs ว่าช่วงอายุราว 12 ปี เธอไปเล่นมาทั้งไอซ์สเก็ต ขี่ม้า แบตมินตัน เทควันโด
จนกระทั่งช่วงม.2 มีลูกเพื่อนพ่อเล่นกีฬาฟันดาบประเภทเซเบอร์เลยไปลองเล่นด้วย “เล่นแค่ 3 เดือนเข้าแข่งขันจริงเลยค่ะ ตอนนั้นเป็นการแข่งกีฬาเยาวชน รุ่นเด็กอายุไม่เกิน 17 ปี พลอยว่ามันสนุกตรงที่เราต้องแก้เกมตลอด” หลังจากเล่นไป 2 ปี ด้วยการซ้อมเข้มข้นเลยทำให้ติดเยาวชนทีมชาติตอนอายุ 16 ปี
การเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน SEA Games 2019
นักกีฬาหลายคนอาจตั้งใจเป็นนักกีฬาอาชีพตั้งแต่ต้น แต่น้องพลอยไม่ใช่แบบนั้นครับ เธอเริ่มจากความสนุก และชอบที่ได้ฝึกวินัยในตนเอง
“แรก ๆ ที่เริ่มเล่นฟันดาบ พลอยไม่เคยมองปลายทางเลยว่าอยู่ตรงไหน คิดแค่ทำให้เต็มที่ที่สุดในทุกการฝึกซ้อมหรือการแข่ง” ซึ่งน้องพลอยเล่นฟันดาบมาเรื่อย ๆ จนถึงช่วงอายุ 19 ถึงเริ่มอยากติดทีมชาติครับ น้องพลอยพยายามจะไปให้ถึงซีเกมส์ตั้งแต่ 2 ปีก่อน จนมาสำเร็จในปีนี้นั่นเอง
“มาคิดเรื่องเหรียญทองตอนที่ได้เป็นตัวแทนประเทศแล้วค่ะ ตั้งใจว่าถ้าคัดเลือกผ่านจะเอาเหรียญทองมาให้ได้”
น้องพลอยใช้เวลาเตรียมตัว 6 เดือนก่อนการแข่งขัน ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอให้แรงกายไม่ตกครับ สิ่งสำคัญ คือ นักกีฬาต้องมีวินัยในตัวเองให้มาก ช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนแข่ง จะซ้อมทุกวัน วันละ 2 เวลา ช่วงเช้า-เย็น (ยกเว้นวันอาทิตย์) “เรามีอิสระในการเลือกเวลาซ้อมได้เอง ภายใต้กรอบของโค้ชค่ะ ไปซ้อมก็จะมีการทำกายภาพ ล่อเป้า ลง bounce งี้”
เหตุการณ์ที่ทำให้กดดันในการแข่งขันที่ฟิลิปปินส์
น้องพลอยบอกว่าเธอเปลี่ยนเสียงเชียร์จากฟิลิปปินส์ให้เป็นเสียงเชียร์ทีมไทยในหัว เมื่อหันไปฝั่งกองเชียร์ก็จะเจอครอบครัว รวมถึงเพื่อนในทีมเอาใจช่วยอยู่ตลอด
“แรงเชียร์ค่ะ” เมื่อเราถามว่าอะไรทำให้รู้สึกกดดัน น้องพลอยตอบแบบนั้นครับ เสียงเชียร์กึกก้องของเจ้าบ้านที่ฟิลิปปินส์ รวมถึงความกดดันจากตัวเอง “ที่ผ่านมาตลอดหลายเดือนที่ซ้อมพลอยไม่เคยกังวลเลยนะ ไม่เคยประหม่าเลยจนจะต้องลงแข่งจริง ๆ เพิ่งจะมารู้สึกก่อนแข่งจริง 1 วัน” เป็นความตื่นเต้นและกังวลปะปนกันครับ
“เพื่อนในทีม best perform มาก ๆ ไทยคะแนนนำอยู่ตลอด เลยไม่กดดันมาก เพื่อนมองเราด้วยสายตาว่ามั่นใจในตัวเรา เชียร์อยู่ตลอด ช่วยกันในสนามตลอด ความเป็นทีมมันแน่นมาก ๆ “
น้องพลอยกลัวเพื่อนในทีมผิดหวัง และตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘ซ้อมมาพอแล้วหรือยัง?’ ซึ่งเกิดจากการที่ปกติในการแข่งขันดาบเซเบอร์ทีม จะมี 4 ผู้เล่น 3 คนเป็นผู้เล่นตัวจริง แล 1 คนเป็นผู้เล่นสำรอง น้องพลอยจะได้เป็นตัวสำรอง แต่การแข่งซีเกมส์ครั้งนี้มีเพื่อนหนึ่งคนบาดเจ็บ ต้องลงสนามแข่งจริงแน่นอน
วิธี รับมือแรงกดดัน และจัดการความเครียดในแบบน้องพลอย
วิธีการ รับมือแรงกดดัน ก่อนการแข่งขัน
น้องพลอยบอกเคล็ดลับว่าเธอทำสมาธิระหว่างแข่งด้วย อย่างตอนอยู่ข้างสนาม แนะนำให้ทุกคนลองฝึกสมาธิแบบ Transcendental Meditation ใช้เวลาราว 20 นาที
การกีฬาแห่งประเทศไทยจัดจิตแพทย์ทางการกีฬาให้นักกีฬาทีมชาติที่ Thai House น้องพลอยจึงได้เข้าไปปรึกษา “เขาบอกเราซ้อมมาหนักมากแล้ว ต้องเชื่อมั่นและมั่นใจว่าเราเป็นคนที่ได้รับเลือก มาถึงทีมชาติแล้วทุกคนเก่งแล้ว อย่าให้ ‘ผีอยาก’ มาสิง เพราะสิ่งที่จะกดดันเรา คือ ความคาดหวังของตัวเราเอง”
วิธี รับมือแรงกดดัน ที่ดี ต้องมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำมา อย่าเพิ่งไปกังวลกับอนาคต “การได้คุยกับคนที่เชื่อใจและฟัง positive thinking ทำให้พลอยผ่านความกังวลมาได้ค่ะ เขาไม่กดดันเราเพิ่ม” น้องพลอยบอกแบบนั้น และยังเล่าว่ามีคำพูดของโค้ชที่เธอประทับใจมาก โค้ชบอกว่าการที่ขยันและอดทนมาถึงขนาดนี้ เขาชนะใจตัวเองแล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรให้อยู่กับปัจจุบัน
วิธี รับมือแรงกดดัน ขณะแข่งขัน
โค้ชสอนให้ทุกคนมีอีโก้ของตัวเองระดับหนึ่ง มั่นใจในสไตล์การเล่น และ commit ในสิ่งนั้น แล้วก็ทำมัน 100 % ไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ในวันแข่ง น้องพลอยบอกทีมไทยเล่นด้วยคะแนนนำตลอด จะกดดันช่วงที่อีกฝ่ายคะแนนตาม “เรารู้สึกว่าต้องปิดเกม กังวลและกดดันหน่อยนึงว่าเขาจะตามมาและแซงเรารึเปล่า พลอยจะใช้วิธี break game เช่น ใส่หน้ากากช้า ๆ ก่อนจะอังกาด” น้องพลอยใช้เวลาระหว่างก่อนเริ่มแต้มต่อในการรวบรวมสติ รีเซ็ตตัวเองใหม่ทันที
การเริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่การนับหนึ่งใหม่เสมอไป
“การนึกถึงอดีตว่าเราทำอะไรพลาดไป หรืออนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่ส่งผลดีใด ๆ ฉะนั้นให้ลงมือทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ที่สุดและดีที่สุดก็พอค่ะ”
แชมป์เหรียญทองของเรามองว่าจากดารามาเป็นนักกีฬา ไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ครับ น้องพลอยบอกว่า “พลอยทำแต่ละสิ่งด้วยความรัก ไม่ได้คาดหวังว่าเราจะต้องได้อันนั้นอันนี้ ถ้าไปทำในสิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ ถึงจะมองว่ามันเป็นการนับหนึ่งใหม่ แต่นี่มันคือการพัฒนาตัวเองและต่อยอดไปเรื่อย ๆ มากกว่าค่ะ” เธอยังบอกอีกว่าถ้าเกิดครั้งนี้พลาดเหรียญทองก็ตั้งใจจะแข่งใหม่จนกว่าจะได้ เพราะฟันดาบเล่นได้ถึงอายุ 30 กว่า
ซึ่งน้องพลอยเรียนจบเป็นที่เรียบร้อย เข้าสู่วัยทำงานแล้วครับ แม้จะไม่ได้วางแผนจะเป็นนักกีฬาอาชีพ แต่ก็คงไม่เลิกเล่นฟันดาบอยู่ดี หากมีโอกาสได้ลงแข่งในสนามไหนแล้วไม่กระทบเวลางาน เธอก็ยังอยากลงสนามครับ สามารถติดตามน้องพลอยได้ใน Instagram : blingploy และ Facebook ชมรมฟันดาบกองทัพอากาศ “พลอยอยากฝากกีฬาฟันดาบไว้กับทุกคน ถึงมันจะดูเข้าใจยาก แต่ถ้าเข้าใจแล้วจะหลงรักในความสง่างามของมัน”