เครื่องประดับเวลาใส่สูทของผู้ชายนั้น หลายคนอาจจะมองว่ามีแค่ไม่กี่ชิ้น อย่างเนกไท นาฬิกาข้อมือ เข็มขัด หรือลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่า สีของชุด สีของเนกไท น้ำหอมที่เลือกฉีด แต่มีอย่างหนึ่งที่ผู้ชายไทยหลายคนมองข้ามไป นั่นคือผ้าผืนเล็ก ๆ ในกระเป๋าเสื้อสูท หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Pocket Square ครับ
เจ้าผ้าผืนเล็กผืนนี้ ช่วยทำให้เราดูดีขึ้นได้อย่างไร มันช่วยบอกอะไร แตกต่างจากผ้าเช็ดหน้าปกติอย่างไร และทำไมเราถึงอยากให้ผู้ชายแต่ละคนมีของตัวเองไว้ MenDetails ขอเชิญทุกคนมาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้น
Pocket Square คืออะไร
ผ้าผืนบาง มีขนาดเล็กที่ใส่ไว้ตรงกระเป๋าเสื้อสูทของผู้ชาย โดยจะมีการพับผ้าให้เป็นรูปต่าง ๆ ก่อนใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้อสูท แต่ไม่ใส่เข้าไปทั้งหมด เหลือชายผ้าให้โผล่ออกจากกระเป๋าพอสมควร เพื่อสร้างลูกเล่นและบ่งบอกสไตล์ ของผู้ชายแต่ละคนครับ ทำให้การแต่งกายของเรามีรายละเอียดที่น่าค้นหามากขึ้น
แม้จะเป็นเพียงแค่จุดเล็ก ๆ แต่ถือเป็นรายละเอียดที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันทำให้เราดูเป็นคนใส่ใจในรายละเอียด รูปร่างที่พับกับสีและลายผ้า ยังช่วยบอกความชอบ และสไตล์ได้อย่างเนียน ๆ เรียกง่ายว่าเป็น “ลายเซ็น” ที่ยากจะเลียนแบบ ทำให้เราโดดเด่นขึ้นมาจากผู้ชายคนอื่น ๆ ที่ใส่ชุดสูทเหมือน ๆ กัน
แม้ผู้ชายไทยจะมองข้ามผ้าผืนน้อยนี้ แล้วให้ความสำคัญกับเนกไทมากกว่า แต่ถ้าเราลองดูนักแสดงฝั่งตะวันตกหรือตัวละครที่เป็นไอคอนในการแต่งกายของผู้ชาย เช่น Jay Gatsby จาก The Great Gatsby หรือ Don Draper จาก Mad Men มาจนถึงสายลับอังกฤษ James Bond ที่เวลาใส่สูท เราจะเห็นผ้าผืนน้อยโผล่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของพวกเขาอยู่เสมอ
แต่ก่อนที่จะเอาผ้าเช็ดหน้าอะไรก็ได้ที่มีมาใส่กระเป๋าเสื้อสูท เราต้องบอกว่า ผ้าทั้งสองอย่างนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะทั้งขนาด จุดประสงค์ของการใช้งาน เนื้อผ้า ล้วนมีความต่างกัน เพราะ Pocket Square มีจุดประสงค์เพื่อบอกสไตล์ เป็นเครื่องประดับ ใช้เช็ดหรือซับได้ไม่ดีนัก ในขณะที่ผ้าเช็ดหน้าเน้นใช้งาน จึงไม่ควรเอามาใช้แทนกัน
การเดินทางของผ้าผืนน้อยในกระเป๋าเสื้อสูท
กว่าที่ผ้าผืนน้อยนี้ จะมาเป็นเครื่องประดับในการแต่งชุดสูทที่เหล่าผู้ชายที่ใส่ใจในการแต่งตัวทั้งหลายขาดไม่ได้เวลาใส่สูท และแยกออกมาจากผ้าเช็ดหน้าที่เป็นต้นตระกูลของมัน ก็ใช้เวลาเกือบ 100 ปี เลยทีเดียวครับ เพราะการใส่ผ้าในกระเป๋าเสื้อสูทแบบนี้ เพิ่งมีในช่วงศตวรรษที่ 19 แต่ยังไม่ใช่ในเชิงแฟชั่นเสียทีเดียว หลังจากนั้นถึงค่อย ๆ พัฒนามาเป็นเครื่องประดับแบบในปัจจุบัน
แต่ถ้าเราจะพูดถึงการใช้งานผ้าเช็ดหน้า เราคงจะย้อนไปได้ไกลถึงยุคอียิปต์โบราณเลยครับ คนในสมัยนั้นเริ่มมีการย้อมผ้าเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับบ่งบอกฐานะ แต่การใช้งานผ้าเช็ดหน้าเพื่อใช้เช็ด ใช้ซับจริง ๆ คาดเดากันว่ามาเริ่มในยุคกลางช่วงศตวรรษที่ 14 ครับ และผ้าเช็ดหน้าในสมัยนั้น ด้วยความที่ผ้าคุณภาพดี หายากและราคาแพง ผ้าเช็ดหน้าจึงกลายเป็นของล้ำค่า มีราคาไป เหล่าชนชั้นสูงทั้งขุนนาง กษัตริย์ จะมีผ้าเช็ดหน้าประจำตัว บางตระกูลถึงกับมีผ้าเช็ดหน้าที่ตกทอดมารุ่นสู่รุ่นเลยทีเดียว
เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 Two piece suit กลายเป็นชุดประจำในแฟชั่นผู้ชาย และผู้ชายในยุคนั้นไม่อยากให้ผ้าเช็ดหน้าอันล้ำค่าของตัวเอง ไปอยู่ในกระเป๋ากางเกงรวมกับของอื่น ๆ จึงทำการย้ายมันมาอยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทแทน การใส่ผ้าเช็ดหน้าไว้ในกระเป๋าเสื้อเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเข้าสู่ต้นศตวรรษที่ 20 และเป็นช่วงเวลานั้น วิธีการพับผ้าเช็ดหน้าแบบต่าง ๆ เริ่มแพร่หลาย ผ้าเช็ดหน้าจึงกลายเป็นของที่ผู้ชายแต่งตัวดีจากฝั่งตะวันตกใช้เป็นเครื่องประดับไปด้วย
เมื่อกระดาษทิชชู่ที่มีราคาถูกกว่า หาง่ายกว่า ถูกคิดค้นขึ้นมา ผ้าเช็ดหน้าจึงเริ่มเสื่อมความนิยมลง แต่เมื่อเหล่าแฟชั่นไอคอนของผู้ชายแต่งตัวดีในยุคนั้นหลายต่อหลายคน ใช้มันในฐานะเครื่องประดับบอกสไตล์ล้วน ๆ Pocket Square จึงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และในปัจจุบันมันก็เป็นเครื่องประดับที่ช่วยบ่งบอกสไตล์และตัวตน ที่ผู้ชายแต่งตัวดีหลายคนขาดไม่ได้
รายละเอียดเล็ก ๆ ที่อยากให้ผู้ชายมีติดตัวไว้
แม้มันจะเป็นเพียงผ้าผืนเล็ก ที่หลายคนอาจคิดว่ามันดูไม่โดดเด่น แต่เชื่อเถอะ มันทำให้คุณดูมีสไตล์และเสน่ห์เพิ่มมากขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่คนส่วนใหญ่มองข้ามมันไป การที่เรามีไว้ จะทำให้เราดูโดดเด่นจากคนอื่นขึ้นมาเลยครับ
อย่างที่เรากล่าวว่ามันช่วยบ่งบอกสไตล์และตัวตน นั่นก็เพราะว่า วิธีในการพับไม่มีตายตัว จริงอยู่ที่หากลองหาข้อมูลดู เราจะพบคำแนะนำในการพับเต็มไปหมด ไม่ว่าจะพับแบบปกติ ไปจนถึงวิธีการพับที่ทำให้ผ้าออกมามีรูปร่างสวยงามอลังการ หรือวิธีการพับแบบนักแสดงสักคน แต่ถ้าให้ดี ผ้าผืนนี้ควรเป็นลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เราดูแตกต่าง การลองหาวิธีพับของตัวเองที่สะท้อนตัวตนของเราในแต่ละโอกาสออกมาได้ ก็เป็นความท้าทายที่น่าสนุกไม่น้อย แต่ใครที่เพิ่งจะเริ่มพก การพับพื้นฐานแบบสี่เหลี่ยมที่ให้ขอบผ้าโผล่ออกมาจากกระเป๋าเล็กน้อยก็เป็นการ play safe ที่วางใจได้
นอกจากเรื่องการพับแล้ว สีและลวดลาย ของผ้า ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเพิ่มเสน่ห์ของแต่ละคนครับ ถ้าจะเอาให้ปลอดภัยที่สุดสำหรับมือใหม่ ก็ควรเลือกสีพื้นเป็นสีขาว แต่ถ้าคล่องขึ้นมาอีกนิด แนะนำว่าให้ใช้ผ้าที่สีโทนเดียวกับชุดหรือเนกไก แต่ไม่ใช่เหมือนกันทั้งหมดครับ
เลือกผ้าที่มีลวดลายบางส่วนเป็นสีโทนเดียวกันเพื่อเชื่อมชุดให้ไปในทิศทางเดียวกัน แต่ห้ามเป็นสีเดียวกันทั้งหมด เช่น ถ้าใส่เนกไทลายทางน้ำเงินสลับเขียว แล้วจะใช้ผ้าใส่กระเป๋าเป็นสีขาวก็ควรเลือกแบบที่มีขอบน้ำเงินหรือเขียว แต่ไม่ใช่สีน้ำเงินทั้งผืนหรือเขียวทั้งผืน
แต่นั่นไม่จำเป็นเสมอไป เพราะผ้านี้ สามารถโดดเด่นดึงดูดสายตาได้ด้วยตัวมันเอง ถือเป็นลูกเล่น และความสนุกเล็กน้อยของผู้ชายเวลาใส่สูท นอกจากสีแล้ว ลวดลายของผ้าก็เป็นตัวช่วยบอกสไตล์เช่นกันครับ ไม่จำเป็นว่าผ้าที่เราเลือกจะต้องมีลายสวยงาม แต่ให้ลองพับดูก่อนว่า พอพับแล้ว ลวดลายที่โผล่พ้นกระเป๋าเสื้อเป็นอย่างไร จะช่วยให้เราออกแบบ “ลายเซ็น” ของเราได้ดียิ่งขึ้น
เพราะเป็นลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เราจึงอยากให้ผู้ชายได้รู้จัก และไม่มองข้ามมันครับ ครั้งหน้าหากมีโอกาสใส่สูทไปงาน ลองพับใส่ไปในกระเป๋าเสื้อด้วยก็ไม่เสียหายครับ
นี่คือเรื่องของเจ้าผ้าผืนเล็กที่ผู้ชายหลายคนมองข้าม แต่หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว เชื่อว่าตอนนี้เราน่าจะรู้จักมันมากขึ้นแล้ว และเราหวังว่าผ้าผืนน้อยผืนนี้ จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องประดับ ที่สามารถช่วยเสริมลุคของคุณให้ดูดีขึ้นได้ครับ ถือเป็นลายเซ็นที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ในการออกงานครั้งต่อ ๆ ไป