MenDetails ได้เคยพูดถึงชุดสูทในสไตล์ Neapolitan ซึ่งเป็นรูปแบบที่ช่างตัดสูทในอิตาลี่นิยมใช้กัน เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์สไตล์สูทของพวกเขาซึ่งแตกต่างจากสูทสไตล์อังกฤษและอเมริกันอยู่พอสมควร ซึ่งอันที่จริงโดยส่วนตัว MenDetails มองว่าสูทแบบนี้ดูจะเหมาะกับสไตล์ของคนไทยมากกว่าสูทแบบอังกฤษอย่างที่เราเห็นในหนังเรื่อง Kingsman แบบนั้นนะครับ
แต่ปัญหาที่สำคัญของสูทสไตล์ Neapolitan สำหรับผู้ชายไทยนั่นก็คือ “หาช่างตัดเย็บยากมาก” นั่นเพราะช่างตัดเสื้อสูทในไทยมักได้รับอิทธิพลจากสไตล์ของอังกฤษและอเมริกัน ที่นิยมการเสริมฟองน้ำที่ไหล่ และความเชื่อที่ว่าสูทควรทำให้ผู้ชายดู “อกผายไหล่ผึ่ง” มากกว่าปกติ จึงจะภูมิฐานและดูดีในชุดสูท ทำให้ไม่ว่าเราจะไปตัดสูทที่ร้านสูทประเภทใดก็ตามในไทย เราก็มักจะเจอแต่ช่างที่ถนัดทำสูทเป็น Pattern เหมือนๆกันไปหมด และนี่เองจึงทำให้ไม่มีร้านตัดสูทที่ถนัดในการตัดเย็บสูทที่เป็นธรรมชาติในสไตล์ Neapolitan ในไทยสักที ส่วนลูกค้าคนไทยที่อยากจะตัดสูทในสไตล์นี้ ก็ต้องใช้บริการห้องเสื้อจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น หรือบางคนก็ต้องไปถึงอิตาลี่ ดินแดนแห่งต้นกำเนิดกันเลยทีเดียว
โชคดีที่ช่องว่างตรงนี้ในปัจจุบันดูเหมือนจะมีคนที่พยายามเข้ามาเติมเต็ม กับร้านที่เป็นศูนย์รวมเสื้อผ้าผู้ชายแนว Tailoring และ Sartorialist ชั้นดีอย่าง The Decorum ที่ประกาศตัวว่าจะทำให้สูท House Cut ในสไตล์ Neapolitan ของตัวเองนั้นเป็นที่รู้จักในวงกว้างสำหรับผู้ชายไทยให้ได้
ในเมื่อสูทสไตล์ Neapolitan สามารถหาได้ในไทยโดยไม่ต้องบินไปเมืองนอกแล้ว MenDetails จึงไม่รอช้า ขอพิสูจน์ด้วยตัวเองและนำมารีวิวให้กับผู้อ่านได้เห็นว่า สูทสไตล์ Neapolitan ที่เราตัดกับทาง The Decorum นั้น จะดูดีและสวยงามแค่ไหน และคุ้มค่าหรือไม่ กับการลงทุนกับสูทดีๆ แบบนี้สักชุดนะครับ
Grey Double Breasted Suit
แม้ชุดสูทในสไตล์ Neapolitan มักนิยมตัดเย็บแบบ Single Breasted และมีการวางตำแหน่งกระดุมแบบ ‘3 Roll 2’ แต่ MenDetails ขอเอาแต่ใจเล็กน้อยด้วยการเลือกตัดสูทแบบกระดุมสองแถวหรือ Double-Breasted แทน นั่นเพราะสูทในสไตล์นี้หาร้านตัดสูทที่จะตัดเย็บให้ดูดีและสวยงามนั้นยากเช่นกัน ดังนั้นเราจึงอยากพิสูจน์ในเรื่องนี้ควบคู่กันไปด้วย จากนั้นเราเลือกสูทสีเทาแบบ Mid-Grey ที่ไม่เข้มหรือว่าอ่อนเกินไป เพื่อความหลากหลายในการใช้งาน และเราเองคิดเผื่อถึงการนำเสื้อสูทตัวนี้ไปสวมใส่ควบคู่กับกางเกงสีอื่น หรือสไตล์อื่นอย่างกางเกงยีนส์ Raw Denim สีเข้ม เมื่อยามที่ต้องการความลำลองมากขึ้นอีกด้วย สีเทากลางๆแบบนี้จึงดูลงตัวในความต้องการของ MenDetails ครับ
ชนิดของผ้าที่ The Decorum เลือกใช้นั้น เป็น ผ้าวูล Super 110s จาก Vitale Barberis Conanico ซึ่งเป็นโรงงานทอผ้าวูลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปีในประเทศอิตาลี่ ถือเป็นยี่ห้อผ้าที่เป็น “พิมพ์นิยม” สำหรับสูทชั้นดีในระดับกลางขึ้นไป ด้วยคุณภาพที่มีมาตรฐานที่สูง และมีราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้ได้รับความนิยมสำหรับร้านตัดสูททั่วโลกครับ
ปกใหญ่, ไหล่ลาด และ Spalla Camicia
จุดเด่นของสูทชุดนี้มีหลายเรื่องที่เราอยากจะนำมาชี้ให้เห็นกันครับ อย่างแรกคือ “ปกสูท” ที่ทาง The Decorum จัดมาให้ค่อนข้างใหญ่แต่กลับไม่รู้สึกว่าเทอะทะเพราะนี่เป็นสไตล์ของสูท Double Breasted แบบคลาสสิคที่ปกจะป้านออกและแนวตัดของปกชิ้นบนกับปกชิ้นล่างเกือบจะขนานกับพื้นเลยทีเดียว นี่จึงเป็นปกแบบ Peak Lapel ที่ดู “อ่อนโยนกำลังดี” โดยไม่ชี้ขึ้นฟ้ามากเกินไปในความคิดของเราครับ แนวของกระดุมที่ห่างกันพอสมควรทำให้ปกสูทพาดผ่านหน้าอกลงไปได้สวยงามดี อย่างต่อมาที่ MenDetails ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับสูททุกตัวนั่นก็คือ “ไหล่สูท” เนื่องจากมันเป็นจุดที่หากผิดแล้วจะแก้ไขได้ยากมาก อีกทั้งเรายังหวังว่าสูทจาก The Decorum ตัวนี้จะช่วยให้ไหล่ตั้งๆของเราดูลาดลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ “สักที”
คงต้องให้ผู้อ่านตัดสินด้วยตาตัวเองว่าไหล่ที่ลาดลงของสูทสีเทา กับไหล่ที่ตั้งขึ้นพร้อมฟองน้ำที่หนุนหัวไหล่ในสูทสีน้ำเงินของเรา แบบไหนที่ดูดีกว่ากัน แต่สำหรับเราโดยส่วนตัวแล้ว “ความเป็นธรรมชาติ” คือสิ่งที่เรามองหา นั่นเพราะเราไม่อยากใส่สูทแล้วดูไหล่ตั้งแบบฝืนๆตลอดเวลาครับ และเมื่อไล่ถึงปลายไหล่ของเสื้อสูท เราจะพบกับการเย็บแขนเสื้อด้วยมือให้มี “รอยจีบ” หรือที่ศัพท์ภาษาอิตาเลี่ยนเรียกว่า “Spalla Camicia” แรกๆผู้ใส่อาจรู้สึกแปลกๆ เพราะดูแล้วเหมือนกับว่าเสื้อสูทตัวนี้เย็บแขนเสื้อมาไม่ดี แต่นี่คือความตั้งใจที่จะใส่จิตวิญญาณของ Neapolitan Jacket ลงไปในสูทของ The Decorum ครับ
กางเกงจีบ เอวสูง ไร้รูเข็มขัด พร้อม Cuff ที่ปลายขา
กางเกงที่มาคู่กันในชุดสูทนี้เป็นรูปแบบคลาสสิคที่ขัดแย้งกับกางเกงแนว Skinny ทุกประการที่เรานึกได้ อย่างแรกคือเป็นกางเกงมีจีบเพื่อให้ช่วงต้นขามีช่องว่างที่มากขึ้น ให้คนใส่รู้สึกสบายมากขึ้นเวลาที่นั่งลง ต่อมาคือความเป็นกางเกงเอวสูงเกือบถึงสะดือซึ่งทำให้ช่วงขาดูยาวมากขึ้นกว่าเดิม และหากสังเกตให้ดีจะพบว่ากางเกงตัวนี้ไม่มีรูร้อยเข็มขัด แต่จะเย็บเข็มขัดผ้า “Side Tab”จำนวน 2 อันติดอยู่ที่ข้างเอวเพื่อให้ผู้ใส่สามารถปรับความพอดีเวลาที่ใส่กางเกงได้ครับ
มองไล่ลงไปจากต้นขาจะพบว่ากางเกงตัวนี้ “ทรงใหญ่” กว่ากางเกง Skinny ที่เป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน แต่ไม่ถึงขนาดที่จะเรียกว่า “Baggy” แต่อย่างใด ด้วยปลายขาที่มีความกว้าง 19 ซม. หรือราว 7.5 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าขากางเกงยีนส์อย่าง A.P.C รุ่น Petit Standard เพียงแค่ราวๆ 1 เซ็นติเมตรเท่านั้น ปลายขากางเกงจึงเป็นตัวกำหนดความ Slim ของกางเกงโดยรวมได้ดีพอสมควร ที่สำคัญคือ “Cuff” หรือ “ขาเบิ้ล” ในภาษาของช่างไทย ทำให้กางเกงตัวนี้ต้องตัดเย็บให้มีความยาวเกือบ N0 Break ช่วยทำให้ขากางเกงไม่กองบนรองเท้า และภาพโดยรวมของกางเกงดูแล้ว Slim แบบกำลังดีเมื่อเทียบกับเสื้อสูทตัวบน ไม่เล็กเกินไปจนดูเป็นขาตะเกียบ และไม่ใหญ่เกินไปจนดูเหมือนยืมอากงมาใส่ครับ
ใส่ไปไหนได้บ้าง
ถ้าถามว่าผู้ชายไทยจะมีโอกาสใส่สูทเมื่อไหร่ MenDetails เชื่อว่า “งานแต่งงาน” คงจะเป็นคำตอบแรกๆที่แว่บเข้ามาในหัวของผู้ชายไทยแทบทุกคนอย่างแน่นอน และเราเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน ด้วยจำนวนงานแต่งงานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปี ตามจำนวนเพื่อนฝูงที่ตัดสินใจเป็นฝั่งเป็นฝา ทำให้เราเชื่อว่าสูทชุดนี้จะได้ใช้ประโยชน์อยู่เรื่อยๆแน่นอน นั่นเพราะเราไม่ได้ถือสาอะไรนักที่จะใส่สูทซ้ำในแต่ละงานครับ อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นสีเทา ทำให้ชุดสูทตัวนี้สามารถ “แยกร่าง” ไปใส่กับเครื่องแต่งกายอื่นได้อีกหลากหลาย เช่น เราอาจนำเสื้อสูทไปใส่คู่กับกางเกงยีนส์ Raw Denim สีเข้มๆสักตัว เพิ่มความ Casual มากขึ้น หรือนำกางเกงสีเทาตัวนี้ไปใส่กับเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อโปโลสีเข้มในวันทำงาน เหล่านี้ก็ถือเป็น Options ในการเลือกแต่งตัวด้วยชุดสูทแบบนี้ในสถานการณ์อื่นๆนอกเหนือจากแค่ไป “งานแต่งงาน” อย่างเดียวครับ
บทสรุป – เจ้าเดียวในไทยที่ทำแบบนี้ได้?
เราติดเครื่องหมายคำถามเอาไว้ด้านหลัง ด้วยความไม่แน่ใจว่าจริงหรือไม่ แต่จากการค้นคว้าอย่างหนักหน่วง เราเองก็ยังไม่พบว่าจะมีร้านสูทร้านไหนที่ “รู้จักและคุ้นเคย” กับสูทในสไตล์ Neapolitan เท่า The Decorum ร้านนี้ เพราะส่วนใหญ่เราจะพบกับร้านสูทที่ตัดสูทแบบเสริมฟองน้ำ – ไหล่ตั้ง – อัดกาวแบบ Fused Suit และเป็นเสื้อสูทแบบ Full Lining กันทั้งสิ้น แต่ MenDetails เชื่อว่าอีกไม่นานสูทแบบ Neapolitan เช่นนี้จะเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้ชายไทย ที่ไม่อยากให้ตัวเองใส่สูทแล้ว “ตัวใหญ่ไหล่ตั้งเป็นนักอเมริกันฟุตบอล” แต่อยากให้ลาดลงอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่านะครับ ส่วนใครที่พอจะทราบว่ายังมีร้านตัดสูทร้านอื่นที่ทำเช่นนี้ได้ ก็รบกวนช่วยส่ง e-mail หรือส่งข้อความมาบอกเราได้ที่ Facebook ของ MenDetails ด้วยนะครับ เผื่อว่าเราจะไปหยิบจับมารีวิวให้ดูกันในครั้งต่อไป
แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายที่ชักจะเริ่มสนใจสูทในสไตล์ Neapolitan แบบนี้ MenDetails ขอแนะนำให้ลองแวะไปชมและลองดูของจริงได้เลยวันนี้ที่ร้าน The Decorum ซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 เลี้ยวเข้าซอยจากถนนอารีย์สัมพันธ์แค่ 100 เมตร ร้านก็จะอยู่ซ้ายมือเลยครับ ที่นั่นนอกจากชุดสูทแล้ว ยังมีจำหน่ายเสื้อเชิ้ต Made in Japan อย่าง Kamakura Shirts, รองเท้า Sagan จาก Baudoin Lange และอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งมีงาน Trunkshow จากห้องเสื้อและร้านตัดสูทชั้นนำของโลก ที่แวะเวียนมาเปิด Event เป็นประจำ เรียกว่าเป็น “สวนสนุกดิสนี่ย์แลนด์ของผู้ชายชอบแต่งตัว” เลยก็ว่าได้ ลองไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองแล้วจะรู้ครับว่า MenDetails ไม่ได้พูดเกินจริงแต่อย่างใด