Vans คือรองเท้าที่อยู่คู่กับวงการ Skateboard มาช้านาน (อ่านประวัติ Vans ได้ที่นี่) และถึงแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปนานเท่าไร ด้วยความที่ Vans มีรูปลักษณ์ที่อมตะ Classic ในแบบของ Vans จึงทำให้ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา รองเท้าหลากหลายรุ่นที่เคยผลิตมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ก็ยังคงขายได้ดีแบบเทน้ำเทท่าอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็น Authentic / Era / Slip-On / Old Skool รวมไปถึงรองเท้าที่เรากำลังจะพูดถึงอย่าง Sk8-Hi
จุดเริ่มต้นของรองเท้าทรง Sk8-Hi เกิดขึ้นเมื่อปี 1978 ในนาม Style 38 (เนื่องจากสมัยก่อน Vans มักเรียกรองเท้าของตนเป็นรหัสคล้าย New Balance ในปัจจุบัน) โดยพัฒนาต่อยอดจากลาย Sidestripe (หรือเรียกกันว่า Jazz Stripe) ที่อยู่ใน Old Skool มาอยู่ในทรงหุ้มข้อทรงเท่ เนื่องจากรองเท้าอย่าง Authentic ได้รับความนิยมจากนักเล่น Skateboard อย่างมาก แต่ไม่มีตัว Support ช่วงข้อเท้าเลย
“นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นจอง Sk8-Hi” Van Doren กล่าว “นัก Skateboard ชอบส่วน Support ที่เราตั้งใจผลิตขึ้นโดยขายแยกกันในอดีต เราเลยจับมันมามัดรวมกันกล่าวเป็นทรงหุ้มข้ออย่างที่เห็น”
ก้าวเข้าสู่ช่วงปี 1980s ไอเดียของ Steve Van Doren ที่เปิดให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะลงไปบนรองเท้าได้ยิ่งทำให้ Sk8-Hi เป็นที่หมายตาจากคนทั่วไปมากขึ้น เพราะด้วยทรงที่หุ้มข้อทำให้มีพื้นที่ใส่ลวดลายได้มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะออกแบบกับทางแบรนด์ คนส่วนมากก็เริ่มหยิบเอาปากกามาขีดเขียนเองด้วยเช่นกัน สร้างสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เรียกว่าเป็นไอเดียสุด Creative เลยก็ว่าได้
หนึ่งในหลากหลายวิธีเช็คว่ารองเท้าแบรนด์ไหนทรงไหนโด่งดังมากเป็นพิเศษ ดูได้จากการร่วมงานอย่างการ Collaboration กับแบรนด์เสื้อผ้าอื่นๆ ซึ่งถ้าแบรนด์ใหญ่ๆ ลงมา Collaboration ด้วยแล้วเลือกทรงไหนไปผลิต แปลว่าทรงนั้นมีแนวโน้มว่าจะโด่งดังและขายได้ดี ซึ่ง Sk8-Hi ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกต้นๆ ของการ Collaboration กับแบรนด์ใหญ่อย่าง Marc Jacobs / Niagara / Pendleton / Supreme และ Stüssy และถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้เอาไปตั้งในร้าน Boutiques ดังๆ ทั่วโลก
ยังไม่รวมถึงบรรดา Celebrities ที่เลือกใส่ Vans Sk8-Hi อย่าง Steve Nash / Kanye West / Wiz Khalifa / Jared Leto และ Paul Walker ทำให้ทรงรองเท้า Sk8-Hi เป็นที่สนใจในสายตาคนส่วนใหญ่มากขึ้นๆ จนปัจจุบันทาง Vans ได้มีการเพิ่มเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการอย่างรุ่น Mountain Edition ที่สามารถใส่ในสภาพอากาศหนาวได้ดีมากยิ่งขึ้น และเชื่อว่า Vans จะยังคงพัฒนารุ่น Sk8-Hi ต่อไปอย่างไม่หยุดยังแน่นอน