ถ้าให้พูดถึงรหัสที่เป็น Original ตลอดกาลของ Levi’s แน่นอนมันคือ 501® ที่ใครหลายๆ คนก็คงพอทราบกันอยู่แล้ว เนื่องจากรหัสนี้เป็นรหัสที่บ่งบอกถึงความแข็งแรงของตัวกางเกงยีนส์ที่ผลิตด้วยความใส่ใจในรายละเอียดมาตั้งแต่ปี 1873 ซึ่งไลน์การผลิตที่ตอบโจทย์ของความ Original มากที่สุดคือ Levi’s Vintage Clothing นี่แหละครับ เนื่องจากเป็นไลน์การผลิตที่หยิบเอารายละเอียดของกางเกงยีนส์เก่าแต่ละปีมาทำการ Reproduction แบบทุกรายละเอียดให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด แม้กระทั้งโครงสร้างผ้ายีนส์เองก็ตาม วันนี้เราหยิบเอา LVC ปียอดนิยมอย่าง 1947 มา รีวิว ให้ทุกท่านได้ดูกันครับ ส่วนใครที่อยากอ่านรายละเอียดของปี 1954 ก็สามารถคลิ๊กไปอ่านได้เลย
LVC ปี 1947 คือยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับกางเกงยีนส์ยุคสงครามโลกนั้นต้องยกให้ปี 1944 ครับ ดีเทลต่างๆ จะถูกปรับเปลี่ยนไปเยอะเนื่องจากในสมัยสงครามนั้น ทางกองทัพต้องการวัสดุอย่างโลหะหรือด้ายเย็บไปใช้ผลิตเสื้อผ้าให้ทหารแทนการค้าขายเสื้อผ้า พอสงครามโลกยุติลง Levi’s จึงกลับมาใส่รายละเอียดอย่างหมุดยึดต่างๆ ได้เหมือนเดิม และถือเป็นกางเกงยีนส์สำหรับคนรุ่นใหม่โดยแท้ เพราะหลังจากสงครามโลก ทุกคนกลับบ้านเกิด จะมีอะไรดีไปกว่าการซื้อกางเกงยีนส์ดีๆ สักตัวจริงมั้ยครับ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ระบบการตัดเย็บกางเกงก็ดีขึ้น Levi’s เองก็หยิบเอาเครื่องเย็บแบบ Double-Needle Technology มาเย็บลายกระเป๋าด้านหลังแทนการอาศัยฝีมือการเย็บแบบ Single-Needle ให้ออกมาเป็นลาย Double-Arch Stitch “Arcuates” ที่แม่นยำขึ้น รวมถึงการกลับมาของกระดุมเหล็กแบบตัน (ในปี 1944 ทาง Levi’s เลือกใช้กระดุมโดนัทแทนเพื่อประหยัดวัสุด) และ Hidden Rivets บริเวณกระเป๋าหลังและกระเป๋าใส่นาฬิกาเพื่อความแข็งแรงของตัวกางเกง
-Big ‘E’ และ Hidden Rivets-
ทรงของปี 1947 นั้น ออกมาเพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
คนรุ่นใหม่ในยุคนั้นนิยมและชื่นชอบทรงแบบ Slim-Fit มากกว่าทรงขาตรงปกติ ทำให้ Levi’s ตัดสินใจผลิตรหัส 501® ทรง Slim-Fit และลดทอนรายละเอียดต่างๆ จากต้นฉบับให้ดู Modern ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นกางเกงยีนส์ตัวสำคัญที่เปลี่ยนแปลงมุมมองของ Levi’s ไปจากเดิมค่อนข้างมาก ทรงนี้จึงเป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นไทยที่เริ่มต้นหันมาเล่นกางเกงยีนส์สาย Vintage กันมากที่สุดครับ
เมื่อ Cone Mills North Carolina ประกาศปิดตัว นี่จึงเป็น Lot ที่ควรเก็บมากที่สุด
เมื่อปลายปี 2017 ทางบริษัท Cone Mills ได้ประกาศว่าโรงผลิตผ้ายีนส์ที่ North Carolina จะปิดตัวลงในไม่ช้านี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจไม่ยากเลยกับการซื้อกางเกงยีนส์ LVC มาใส่ เนื่องจาก Lot ที่วางขายในไทยตอนนี้ยังเป็นผ้าที่ผลิตจาก Cone Mills North Carolina โรงผลิตผ้ายีนส์ให้กับแบรนด์ Levi’s มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น คิดดูเล่นๆ ครับว่า ถ้าคุณจะมี LVC สักตัว แล้วผ้าที่นำมาผลิตดันไม่ได้มาจากแหล่งผลิตต้นกำเนิด คงเรียกว่า Levi’s Vintage Clothing ยากขึ้นจริงมั้ยครับ
สำหรับเราแล้ว ถ้าอยากได้กางเกงยีนส์แบบ Reproduction จริงๆ ก็ต้อง Lot นี่แหละครับ ซึ่งคุณยังสามารถหาซื้อได้ที่ Levi’s Shop สาขา Siam Discovery ที่เดียวในประเทศไทย (ไม่ต้องบินไปซื้อต่างประเทศครับ) ได้ความ Vintage เต็มๆ แน่นอน
ผ้าริมแดง 12oz Slub นิดๆ เอวสูง แบบ Classic
-ด้านซ้ายคือก่อนแช่ ด้านขวาคือหลังแช่ จาก Ropedye-
ตัวผ้าอาจไม่ได้ดุดันอะไรมากครับ สวยแบบ Classic มีความ Slub อยู่ในตัวค่อนข้างมาก ที่เจ๋งคือตัวผ้าเป็นแบบ Shrink to Fit เอกลักษณ์เฉพาะของ 501® แถมท้ายด้วยเอวที่สูงพอประมาณ ได้ความ Classic แบบทันสมัยด้วยทรง Slim-Fit ซึ่งวิธีการในการเลือกซื้อนั้น ทาง Levi’s ก็ได้แจ้งมาในจดหมายที่แนบมากับตัวกางเกงซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
- KEEP ‘EM RIGID : กล่าวคือซื้อมาแล้วใส่เลย (แบบดิบๆ นี่แหละ) ทางแบรนด์แนะนำให้ซื้อเล็กกว่าเอวประมาณ 1 นิ้วครับ ใส่ไปเรื่อยๆ เอวจะขยายขึ้นมาเอง
- DIP IN THE ‘TUB : ถือเป็นวิธียอดนิยมมากที่สุดในบรรดาทั้งหมด คือการซื้อแบบตรงไซส์แล้วเอาไปแช่ในน้ำอุ่นโดยใส่ยีนส์ลงไปแช่ด้วย ตัวผ้าจะหดตัวลงจากน้ำหนัก 12oz จะกลายเป็น 14oz และเข้ากับรูปร่างคุณมากที่สุดนั่นเอง
- WASH ‘EM GOOD : เป็นวิถีของคนขี้เกียจครับ คือซักมันซะเลย เพราะวิธีแรกนั้นผ้าจะแข็งไป วิธีที่ 2 ก็ดูจะลำบากเกิน ก็เลือกซักมันซะเลยครับ อันนี้ผ้าจะหดตัวสูงที่สุดหากอบในเตาอบอีกต่อหนึ่ง
สำหรับ MDs เราเลือกซื้อด้วยวิธีที่ทำมาโดยตลอด นั่นก็คือซื้อไซส์เล็กที่สุดที่ติดกระดุมบนได้แบบอึดอัดเล็กน้อยเท่านั้นพอ แล้วเลือก DIP IN THE ‘TUB แต่เนื่องจากเราไม่มีอ่างอาบน้ำเลยประยุกต์ด้วยการแช่นำ้อุ่นในถังแล้วตาก แต่ขณะที่กางเกงยังหมาดๆ อยู่ก็หยิบมาใส่ให้เข้ากับตัวพอดีๆ ครับ
ลังเลระหว่างปี 1947 กับ 1954 ตัวไหนดี
-รีวิว LVC 1947 กับ Button Fly จำนวน 5 เม็ด เอวสูงนิดๆ-
ก่อนหน้านี้เราเคยเขียนรีวิว Levi’s Vintage Clothing ปี 1954 ไปแล้วครับ ถือเป็นทรงที่ใครหลายๆ คนบอกว่าปลายขาเล็กมากทีเดียว และเป็นรุ่นซิปรุ่นแรกของกางเกงในตระกูล LVC อีกด้วย ซึ่งเราขอตอบแบบนี้ละกันครับว่า ใครที่ชอบความ Classic แต่ได้ทรง Slim ดีๆ เอวสูงหน่อย 1947 คือปีที่คุณควรลองครับ เพราะได้ทุกอย่างที่คุณอยากได้จาก Levi’s 501® สักตัว แต่ถ้าคุณอยากได้ทรงแบบ Tapered ปลายขาแคบ 1954 น่าจะเป็นคำตอบ แต่ที่ต้องคิดนิดหน่อยคือตัว 1954 นั้นเป็น Zip-Fly ครับ ใช้งานง่ายแต่แข็งแรงไม่เท่า Button-Fly แน่นอน จะให้เราฟันธงก็คงยากครับ เพราะทั้ง 2 ปีนี้คือทรงแรกเริ่มของคนที่อยากก้าวข้ามจากทรง Skinny มาอยู่สาย Slim-Fit แต่ถ้าต้องเลือกให้สัก 1 ตัว LVC ปี 1947 น่าจะเป็นคำตอบแรกในหัวของเราครับ
-LVC ‘1954 กับ Zip-Fly กับเอกลักษณ์ 501zxx-
สำหรับ Levi’s Vintage Clothing นั้น คุณไม่มีวันตัดสินใจผิดครับถ้าคิดจะซื้อ ด้วยประวัติที่ยิ่งใหญ่ เป็นแบรนด์กางเกงยีนส์แบรนด์แรกของโลก และมีรายละเอียด Classic มากที่สุด มากกว่าแบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาด ต่อให้คุณเลือกซื้อปี 1954 / 1966 หรือปีไหนก็ตาม ความ Classic ก็ยังคงอยู่กับตัวแบรนด์ครับ แต่ต้องรีบหน่อยนะ เพราะอย่างที่แจ้งไปว่าโรงงาน Cone Mills ที่ North Carolina นั้นประกาศปิดตัวลงแล้ว ดังนั้นความ Original ก็อาจลดน้อยลงหากต้องใช้ผ้าที่ผลิตจากที่อื่น “มีสตางค์แล้วอยากลอง LVC สักครั้ง ครั้งนี้คือโอกาสสุดท้ายกับความ Classic แบบ Vintage แล้วนะครับ” สำหรับ LVC 1947 ตัวนี้ สนนราคาอยู่ที่ 12,990.- หาซื้อได้ที่ Levi’s Shop @ Siam Discovery เท่านั้น
Credit : Ropedye