ถ้านึกถึงกางเกงยีนส์คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Levi’s เป็นแน่ ด้วยเอกลักษณ์กระเป๋าหลังรูปโค้งตัดกันเป็นรูปเพชรตรงกลาง และป้าย tag สีแดงด้านข้างของกระเป๋าหลังข้างขวา พร้อมประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ถือเป็นบริษัทแรกของโลกใบนี้ที่เริ่มต้นผลิตกางเกงยีนส์เลยก็ว่าได้
บริษัท Levi Strauss & Co. ก่อตั้งขึ้นในปี 1853 และเป็นบริษัทแรกที่ใช้วิธีการตอกหมุดเพื่อยืดชิ้นส่วนของกางเกงเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับกางเกง โดยผู้คิดค้นวิธีการนี้คือ Jacob Davis หนึ่งในลูกค้าที่หลงไหลในกางเกงของ Levi’s เป็นอย่างยิ่ง และได้กลายเป็นช่างออกแบบตัดเย็บให้กับ Levi’s ในเวลาต่อมา ซึ่งทั้งสองได้นำวิธีการตัดเย็บอันเป็นเอกลักษณ์นี้ไปขึ้นทะเบียนสิทธิบัตร ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 1873 (ถือเอาวันนี้เป็นวันกำเนิดของ Blue Jeans) ทั้งนี้ก่อนหน้ายุค Baby Boomers กางเกงยีนส์ถูกขนานนามว่า “Waist overalls” หรือ “Overalls” นั่นเอง
หลายคนคงมีคำถามว่า “แล้วทำไมต้อง 501?” อันนี้ตอบได้ทันทีเลยครับ เพราะว่า 501 คือเลขรหัสของทรงกางเกงยีนส์ที่ Levi’s ผลิตออกมาในปี 1873 หรือขึ้นชื่อได้ว่าเป็นต้นแบบของยีนส์ทั่วโลก ณ ปัจจุบันเลยก็ว่าได้ โดยกางเกงตัวแรกในทรง 501 นั้นผลิตด้วยผ้าที่มีความหนา 9o ออนซ์ และถักทอมาจากโรงงาน Amoskeag Mill ในเขต Manchester รัฐ New Hampshire นั่นหมายความว่า “ถ้าคุณได้ใส่ 501 เท่ากับคุณใส่ต้นฉบับความเป็นยีนส์นั่นเอง”
มาวันนี้ MenDetails.com ได้รับเกียรติจาก Levi’s ประจำประเทศไทย ให้ได้มีโอกาสทำหน้าที่รีวิวกางเกงยีนส์ในตำนานตัวนี้ และยิ่งกว่านั้น เราได้ทำการรีวิวรุ่น STF หรือที่เรียกกันว่า Shrink to Fit แล้ว STF คืออะไร? STF หมายถึงตัวผ้าที่ยังไม่ได้ผ่านกรรมวิธีลดการหดตัวของเนื้อผ้ายีนส์หรือที่เรียกว่า Sanforization ซึ่งคิดค้นโดย Sanford Lockwood Cluett ในปี 1930 โดยปกติผ้ายีนส์จะมีการยืดและหดตัวอยู่แล้วเนื่องจากการทอผ้าแบบลาย Twill แต่หากไม่มีการ Sanforization จะทำให้ผ้าเกิดการหดตัวถึง 10% ทำให้เวลาซื้อและใช้งานจริงๆ อาจทำให้ไม่สามารถใส่ได้อีกเมื่อผ่านกระบวนการซัก ทั้งนี้ STF คือตัวผ้ายีนส์ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการ Sanforization มานั่นเอง ทำให้ผ้าหดตัวได้ถึง 10% และนี่คือลักษณะเฉพาะตัวของรุ่นนี้ อ้อ! ต้องขอบอกไว้ก่อนนะครับว่า เจ้าผ้าที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการ Sanforization นั้น จะมีราคาแพงกว่าผ้ายีนส์ทั่วๆไปด้วยนะครับ
ทาง MenDetails ได้ Sample ตัวนี้ที่ไซส์ 32/34 ซึ่งเป็นไซส์ที่ขนาดตรงกับเอวของทีมงานเลยครับ เพราะทาง Levi’s เองได้ให้ข้อมูลว่าควรเลือกไซส์ที่เท่าเอวจริง เพราะกางเกงยีนส์แบบ STF จะหดลง 10% หรือพูดแบบให้นึกภาพง่ายๆก็คือขนาดของกางเกงจะหดลงไป 1-2 นิ้วเลยทีเดียว
เอาหล่ะหลังจากได้ยีนส์มาแล้วก็มาถึงขั้นตอนการทำให้ยีนส์เป็นยีนส์ที่เฉพาะตัวคุณกัน โดย Levi’s แนะนำให้ใส่ออกจากร้านเลย และใส่ติดต่อกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์จนทรงกางเกงเข้ากับตัวผู้สวมใส่ ก่อนจะนำไปแช่น้ำเพื่อให้กางเกงหดตัว โดยให้ใส่เกลือหรือน้ำส้มสายชูลงไปด้วยเพื่อรักษาสียีนส์ หลังจากนั้นให้ผื่งจนหมาดๆ และใส่จนแห้งคาตัวไปเลย ก็จะได้กางเกงเฉพาะตัวคุณทันที
แต่หลังจาก MenDetails พิจารณาและศึกษาจากข้อมูลต่างๆ เราก็เลือกที่จะแหกคอกออกไป โดยเราจะแช่น้ำทันทีด้วยน้ำที่ร้อนที่สุดเท่าที่หาได้ เพราะยิ่งร้อนเท่าไหร่ กางเกงยีนส์ก็จะยิ่งหดตัวลงมากเท่านั้น
ภาพ BEFORE (ก่อนแช่น้ำร้อน)
ซึ่งการแช่ก็ให้เปิดน้ำร้อนสุดให้พอท่วมกางเกงยีนส์ที่เราจะแช่ หากเปิดน้ำน้อยก็ให้เอาอะไรหนักมาวางทับเพื่อให้กางเกงจมน้ำทั้งตัว รอ 20-40 นาที
ขั้นตอนการแช่น้ำร้อนลองดูตามวีดีโอนี้ได้เลยครับผม
พอครบเวลาที่กำหนด น้ำในอ่างจะเปลี่ยนสีแบบนี้นะครับ แล้วให้ทำการแขวนเลย โดย MDs’ แนะนำให้แขวนกลับหัวกลับหางนะครับ คือเอาขากางเกงขึ้น เพื่อให้สียีนส์ไม่ไหลออก แต่ไหลลงกลับมาตรงช่วงเอว จะช่วยรักษาสี Indigo ได้มากครับ หลังจากตากจนหมาดๆ ก็ให้เอามาใส่ แล้วขยับให้ตัวกางเกงเข้ารูปมากขึ้น ก่อนจะปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ
ภาพ AFTER (หลังแช่น้ำร้อนเป็นเวลา 40 นาที)
จะเห็นได้ชัดครับว่ากางเกงหดตัวลงเยอะ ทั้งความยาวที่หดลงกว่า 2 นิ้ว และภาพรวมของกางเกงจะดู Slim ขึ้นมากทีเดียวครับ อีกทั้งสีกางเกงจะสวยขึ้นด้วยครับ
Pros.
– เป็นกางเกงรุ่นต้นกำเนิดผ้ายีนส์ รับประกันได้ถึงความ Classic
– ใส่สบาย ไม่แน่นจนอึดอัด
– ตัดเย็บดีมาก เก็บรายละเอียดทุกจุด
– ผ้าไม่หนา สามารถใส่ได้ตลอดทั้งปี
– ราคาย่อมเยามาก เมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์อันยาวนานและการตัดเย็บ
– มีไซส์ให้เลือกถึงเอว 38 เลยครับ
Cons.
– หากไม่ลดไซส์ลงเลย คือซื้อมาแบบขนาดพอดีเอวตั้งแต่เริ่ม หลังแช่น้ำร้อนแล้วก็จะยังรู้สึกใหญ่เกินไปบ้างในบางจุด
– ไม่สามารถเลือกความยาวของขากางเกงได้เหมือนแบบที่ขายในสหรัฐอเมริกา
– ไซส์เอวจะมาเป็นเลขคู่ เช่น 30 นิ้วแล้วกระโดดไป 32 นิ้วเลยโดยที่ไม่มีขนาด 31 นิ้ว
สำหรับทีมงาน MenDetails มองว่า Levi’s 501 STF เป็นกางเกงยีนส์ที่ “โคตรคุ้ม” เพราะการตัดเย็บที่ถือได้ว่าดีเยี่ยมในทุกจุด ทั้งการเย็บล็อคกระดุม, การใส่เชือกเข้าไปใน Belt Loop (ห่วงร้อยเข็มขัด) เพื่อความแข็งแรง, การเย็บลูกโซ่เกือบทั้งตัว, รังดุมที่ถือว่าเย็บได้แน่นมาก, หมุดต่างๆ ตอกมาแบบมาตรฐานที่ทำให้กางเกงตัวนี้อยู่กับคุณถึงรุ่นลูกรุ่นหลานแน่นอน แต่ขั้นตอนการเลือกต้องระวังดีๆ นะครับ เพราะไซส์ที่เลือกถึงแม้ว่าจะตรงตามเอวก็จริง แต่หลังจากกางเกงหด เอวก็จะยังหลวมนิดหน่อยอยู่ดี เพราะการตัดเย็บจะเผื่อขนาดเอวและส่วนอื่นๆ มาล่วงหน้าเผื่อการหดตัวเรียบร้อยแล้ว
“MenDetails จึงแนะนำอย่างยิ่งให้ซื้อกางเกงยีนส์ Levi’s 501 STF ลดไซส์ 2-4 ไซส์ไปเลย”
เพื่อผลลัพธ์ที่จะทำให้กางเกงยีนส์ตัวต่อไปของคุณในอนาคตก็จะยังคงเป็น Levi’s 501 STF แน่นอน