-แนะนำให้เลื่อนอ่านทีละนิด เพื่อความตื่นเต้น-
-รองเท้า Alden Fullstrap Penny Loafers Color 8 “มือสอง”-
ในขณะที่รองเท้าหนังคุณภาพหลากหลายยี่ห้อ ต่างโฆษณากันว่า “หากดูแลดีๆ จะอยู่กับคุณได้เกิน 10 ปีแน่นอน” ทำให้หลายๆ ท่านเริ่มสนใจอยากจะลงทุนซื้อหารองเท้าหนังคุณภาพเหล่านั้นมาสวมใส่ แต่ในทางกลับกัน หากผลิตได้คุณภาพตามที่กล่าว “การเลือกซื้อรองเท้ามือสอง” ก็ดูจะเป็นวิถีที่น่าสนใจไปอีกแบบ ด้วยราคาที่ถูกกว่า แต่ปัญหาจะอยู่ที่ “คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า รองเท้าที่คุณซื้อ เจ้าของคนเก่าเขาดูแลดีจริงๆ?”
-คุณมองเห็นความแปลกหรือไม่ครับ?-
เราจึงทดลองด้วยการเลือกซื้อรองเท้าหนังมือสองแบรนด์ Alden มาครับ โดยเลือกเป็น “Fullstrap Penny Loafers Color 8 Shell Cordovan Aberdeen Last” โดยเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องนำมาซ่อมแซมต่อ แต่ไม่นึกครับว่ามันจะหนักหนาขนาดนี้ [PART 1]
ใช่ครับ ดูจากสภาพภายนอก ตัวรองเท้าช่วง Upper ถือว่าอยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว แต่ช่วงพื้นหนังนั้น มีความแปลกและเหมือนซ่อมมาแล้วหลายครั้ง แต่เราก็ไม่มีทางรู้หรอกครับว่า “รองเท้ามีสภาพเป็นแบบใด” หากไม่ได้หยิบเอารองเท้าคู่ดังกล่าวมาให้ช่างดูจริงๆ ไม่รอช้าครับ หลังจากได้รองเท้ามาแล้วก็รีบเดินทางไปยัง RESH Thailand เพื่อให้ทางร้านเช็คสภาพสักหน่อย
เมื่อให้ ร้านซ่อมรองเท้า RESH ตรวจดู จึงรู้ว่า “ปัญหามันลึกมากกว่าที่เห็น”
พอไปถึง ร้านซ่อมรองเท้า RESH Thailand ซึ่งตั้งอยู่ที่ Siam Square ซอย 2 (ชั้นบนของร้าน Selektiv) และให้ช่างลองตรวจดู จึงพอจะทราบคร่าวๆ ในช่วงแรกว่า เจ้าของคนเก่านั้น เลือกซ่อมรองเท้าแบบไม่ถูกวิธี โดยเลือกที่จะซ่อมแบบตัดหนังช่วงครึ่งหน้าออกแล้วเย็บหนังแผ่นใหม่ติดลงแทน และน่าจะทำแบบนี้มามากกว่า 1 ครั้งแล้วด้วย เนื่องจากระยะห่างของรอยเย็บ Welt นั้นชิดกับตัวหนังมากกว่าปกติ อันเกิดจากการขัดให้ชิ้นหนังแผ่นใหม่เรียบเสมอกับชิ้นหนังเดิมนั่นเอง
ฟังแบบนี้แล้ว เราก็เริ่มพอจะทราบครับว่า “รองเท้าคู่นี้น่าจะอาการหนัก” แต่ก็ยังลองถามกับทางร้านว่า หากติดยางที่พื้นไปก่อน จะช่วยได้มั้ย? ทางร้าน RESH กลับชี้ให้เห็นถึงปัญหาอันหนักหน่วงที่หลายคนอาจมองไม่เห็นแม้แต่น้อย นั่นก็คือ “รองเท้าคู่นี้ Welt ได้ขาดออกจากกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
จากที่คาดเดากันจากผลลัพธ์ที่เห็นก็คือ เจ้าของคนเก่านั้นน่าจะใส่รองเท้าคู่นี้หนักมาก และไม่ได้ดูแลรักษาอย่างที่พึงกระทำ โดยสันนิษฐานว่า ตัวพื้นหนังชิ้นล่าง Welt น่าจะขาดไปรอบหนึ่งแล้ว และน่าจะเดินจนพื้นชิ้นล่างทะลุ จึงต้องตัดหนังทิ้งแล้วเย็บอีกรอบหนึ่งด้วยหนังชิ้นใหม่ ซึ่งเป็นวิธีการซ่อมที่ไม่เหมาะสม แทนที่จะเลือก Resole ใหม่ไปเลยนั่นเอง
-ภาพนี้คือสภาพของด้ายเย็บที่เราเรียกกันว่า Welt นั้น ขาดจากพื้นชิ้นล่าง-
ถ้าให้ตีอาการของรองเท้าคู่นี้ เราคิดว่าน่าจะเทียบเท่า “มะเร็งระยะที่ 4” เพราะมองไม่เห็นจากภายนอกเลยครับ แต่มันแอบซ่อนอยู่ภายใน โดยที่เราไม่รู้ตัว แถมเป็นอาการที่หนักหนาสาหัสมากจริงๆ หากไม่ได้มาส่งให้ทาง ร้านซ่อมรองเท้า RESH Thailand เจียขอบดูอาการโดยรวม จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการส่งซ่อมทั้งคู่ ซึ่งรายละเอียดการซ่อมนั้นค่อนข้างเยอะมากพอตัวครับ
-จุดขาวๆ ด้านซ้ายมือของภาพ คือสัญลักษณ์ของ Welt ที่ขาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว-
รองเท้าคู่นี้จบลงด้วยการส่งซ่อมแบบ Resole คือเปลี่ยนพื้นใหม่ทั้งหมด โดยทาง ร้านซ่อมรองเท้า RESH Thailand จะนำหนังจากอิตาลีมาเปลี่ยนให้ใหม่ และมาในความหนาเท่าเดิมที่มาจากโรงงาน พร้อมกับทำ Rewelt ใหม่เป็น Goodyear Welted บวกการทำดีเทลต่างๆ ให้เหมือนพื้น Alden แบบแท้ๆ (ต่างกันนิดหน่อยตรงที่จะไม่มีตราประทับ Logo Alden ที่พื้น)
-หากคุณสังเกตดีพอ จะเห็นว่ารองเท้าคู่นี้มีรอย Welt ทับซ้อนกัน 2 ครั้ง เรื่องนี้ต้องอาศัยความชำนาญขั้นสูงเท่านั้น จึงจะมองออกว่ารองเท้าคู่นี้โดน ‘สอดไส้’ มา-
ต้องยอมรับครับว่า การเลือกซื้อรองเท้ามือสอง ก็มีความคล้ายกับการเลือกซื้อรถมือสอง หรือโทรศัพท์มือถือมือสอง เช่นกัน ตรงที่ “คุณไม่รู้หรอกครับว่า เจ้าของคนเก่าเขาทำอะไรกับของชิ้นนั้นๆ มาแล้วบ้าง” ต่อเมื่อได้มาเจอกับช่างผู้มีประสบการณ์ในการซ่อมรองเท้าหนังมาเป็นเวลานานอย่าง RESH Thailand ที่น่าจะผ่านการซ่อมรองเท้ามาจำนวนมากมายมหาศาล เขาจึงจะสามารถบอกให้เราทราบเป็นฉากๆ ได้อย่างผู้เชี่ยวชาญจริงๆ
“รองเท้าคู่นี้ต้องถูกส่งไปซ่อมและ Rewelt ใหม่ที่ญี่ปุ่นครับ” เรื่องราวการผจญภัยของ รองเท้า Alden คู่นี้ของเราจะเป็นอย่างไร ไปติดตามต่อได้ที่ Review Part 2 ของเราได้เลยนะครับ!