Maison Kitsuné (เมซง คิทซึเนะ) คืออีกหนึ่งแบรนด์ที่ MenDetails ให้ความสนใจมาตลอด ด้วยลักษณะพิเศษของตราสินค้าที่มีภารกิจหลากหลาย และมีความเป็นศิลปิน (Artist) สูงมาก ทำให้เรามอง เมซง คิทซึเนะ เป็นเหมือน Lifestyle Brand มากกว่าเป็นเพียงธุรกิจแฟชั่นเครื่องแต่งกาย การเชื่อมโยงในเรื่องของดนตรีเข้ากับแฟชั่นเป็นสิ่งที่เรารู้กันดีว่าหลายแบรนด์พยายามอย่างหนักขนาดไหน แต่คงไม่มีใครที่สามารถเขย่าสองสิ่งนี้ให้เข้ากันได้ดีเท่า เมซง คิทซึเนะ อีกแล้ว วันนี้ MenDetails จึงขอหยิบเอา เมซง คิทซึเนะ มาแนะนำและเผยให้เห็นถึงเสน่ห์ที่น่าสนใจใน สไตล์ Minimal ที่เราสัมผัสได้จากแบรนด์นี้กันครับ
The Origin of Maison Kitsuné
ประวัติของ “เมซง คิทซึเนะ” เกิดขึ้นจากการจับมือกันของ 2 ศิลปินในสไตล์ดนตรีอิเล็คทรอนิคส์ Gildas Loaëc (จิลดาส์ โลแอ็ค) จากฝรั่งเศส และ Masaya Kuroki (มาซายะ คุโรกิ) จากญี่ปุ่น ร่วมกันก่อตั้งค่ายเพลงที่มีชื่อว่า Kitsuné ในปีค.ศ. 2002 โดยเน้นทำเพลงในแนวอิเล็คทรอนิคส์ และมีศิลปินในสังกัด Kitsuné มากมาย หนึ่งในนั้นที่คนไทยน่าจะรู้จักกันดีคือวงดนตรี Two Doors Cinema Club ที่มีเพลงดังอย่าง What You Know นั่นเอง
ด้วยความหลงใหลทั้งในการทำเพลงและเรื่องแฟชั่น ทำให้ Kitsuné แตกไลน์ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในปี ค.ศ.2005 โดยใช้ชื่อว่า “Maison Kitsuné” (เมซง คิทซึเนะ) เน้นการออกแบบเสื้อผ้าที่เรียบง่ายและมีกลิ่นอายความสำอางสไตล์หนุ่มฝรั่งเศส เจือด้วยไลฟ์สไตล์แบบ Minimalist ที่เห็นได้ชัดว่ารับอิทธิพลมาจากฝั่งญี่ปุ่นแบบเต็ม ๆ ทำให้ เมซง คิทซึเนะ กลายเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ซ่อนอยู่ภายใต้ความเรียบง่ายจาก 2 ซีกโลกในแบบที่แบรนด์อื่นคงจะลอกเลียนแบบได้ยากเหลือเกินจริง ๆ
นอกจากดนตรีและแฟชั่นแล้วนั้น Kitsuné ยังได้ขยายภารกิจของตัวเองไปสู่ธุรกิจคาเฟ่และร้านอาหาร โดยการเปิดตัว Café Kitsuné ในปี ค.ศ.2019 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จากนั้นจึงขยายสาขาออกไปแทบทุกมุมโลก ทั้งในญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, จีน, อินโดนีเซีย และอีกหนึ่งสาขาสำคัญที่รวมเอา Maison Kitsuné และ Café Kitsuné มาไว้รวมกันที่ The EmQuatier กรุงเทพมหานครของเรานั่นเอง ด้วยผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 อย่างที่ค่อย ๆ ครอบคลุม Lifestyle หรือ “วิถีชีวิต” มากขึ้นเรื่อย ๆ น่าสนใจเหมือนกันนะครับว่า ก้าวต่อไปของ Kitsuné จะเติมเต็มความเป็น Lifestyle Brand ของตัวเองด้วยสิ่งใดอีก เราก็คงต้องคอยติดตามกันต่อไปนะครับ
French x Japanese Minimalist
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ MenDetails ชื่นชอบในเครื่องแต่งกายของ Maison Kitsuné นั่นคือความเรียบง่ายในสไตล์ Minimalist ที่ไม่ต้องการการแต่งเติมลูกเล่นลวดลายให้โดดเด้งแทงลูกกะตา แต่เน้นที่คุณภาพของการตัดเย็บ และความคลาสสิคเรียบง่ายของสไตล์เสื้อผ้าแบบลำลอง (Casual) จึงทำให้เรามั่นใจว่าเสื้อผ้าจาก Maison Kitsuné ทุกชิ้นที่เราหยิบมาในวันนี้ จะเป็นชิ้นที่เราสามารถหยิบมาสวมใส่ได้เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม
กลิ่นอายของ Minimalist ในสไตล์ฝรั่งเศสและญี่ปุ่น ถูกนำมาผสมจนกลมกลืนกันใน Maison Kitsuné ได้อย่างลงตัวดีเลยทีเดียว เสื้อโปโล Polo Shirt ซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากฝรั่งเศส สวมใส่คู่กับกางเกงยีนส์ฟอกซีด ๆ สะพายด้วย Tote Bag ผ้าใบสีขาวสะอาดตา ให้ลุคที่คลาสสิคที่เราสามารถเอาไปใส่ที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ไม่ว่าจะปารีสหรือโตเกียว แฝงด้วยเอกลักษณ์โลโก้สุนัขจิ้งจอกที่มีประดับอยู่ประปรายอย่างพอดิบพอดี ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป
เสื้อคาร์ดิแกน (Cardigan) คือเสื้อนอกอีกตัวหนึ่งที่ MenDetails เชื่อว่ามีประโยชน์มากเลยทีเดียว เหมาะกับการนั่งทำงานในออฟฟิศที่เปิดเครื่องปรับอากาศให้เย็นพอสมควรแต่ยังไม่ถึงกับหนาวสั่น จะว่าไปเราชอบ Cardigan มากกว่า Sweater ด้วยซ้ำ เนื่องจากความสะดวกในการสวมใส่ ไม่ต้องดึงเข้าออกทางศีรษะให้ผมเสียทรงอีกด้วย เราหยิบ Cardigan สีน้ำตาลจาก Maison Kitsuné สวมทับเสื้อยืดและกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มตัดกับท่อนบนได้เป็นอย่างดี พ่วงกระเป๋า Tote Bag ผ้าใบพร้อมลวดลาย Maison Kitsuné ที่ให้ความรู้สึกร่วมสมัยเป็นอย่างดี
What does the Fox says?
โลโก้ Kitsuné ที่แปลว่า “สุนัขจิ้งจอก” ในภาษาญี่ปุ่น คืออีกหนึ่งตัวแทนกลิ่นอายจากดินแดนอาทิตย์อุทัยที่สอดแทรกอยู่ในเครื่องแต่งกายของ Maison Kitsuné ซึ่งต้องขอชื่นชมดีไซน์เนอร์ที่ถึงแม้จะมีโลโก้ที่ชัดเจนเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ทางแบรนด์ก็ไม่ได้ยัดเยียดเจ้าจิ้งจอก Kitsuné มาไว้บนเสื้อผ้าของพวกเขาจนเยอะเกินไป การประดับโลโก้เล็ก ๆ ไว้บนหน้าอกเสื้อก็ถือว่าเกินพอที่จะให้ผู้คนที่พบเห็นได้ค้นหาและใคร่รู้ว่าเจ้าจิ้งจอกตัวนี้ต้องการจะบอกว่าตัวเองคือแบรนด์อะไรกันแน่
กระนั้นก็ดีเจ้าจิ้งจอก Kitsuné ก็ปรากฎกายขยายตัวใหญ่ขึ้นได้ในจุดที่ควรจะทำ เช่น บนกระเป๋าผ้า Tote Bag หรือบนหมวกแก๊บ ซึ่งถือเป็นเครื่องแต่งกายที่เปิดพื้นที่ให้กับความขี้เล่นแบบสบาย ๆ ของสุนัขจิ้งจอกแสนซนตัวนี้ กล่าวกันว่าในความเชื่อของชาวญี่ปุ่นนั้น สุนัขจิ้งจอก คือสัตว์ในเทพนิยายที่สามารถแปลงกายได้อย่างอิสระ และ Maison Kitsuné ได้นำโลโก้ดังกล่าวมาใช้บนเสื้อผ้าของพวกเขาเพื่อบันดาลใจให้เราหยิบมาสวมใส่และปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพได้อย่างอิสระหลากหลายไม่ต่างกัน
Feel good to be back to basic
ในบางจังหวะที่ MenDetails แนะนำเรื่องการแต่งกายที่เป็นทางการหรือกึ่งทางการ เราจะพบว่ามีพิธีรีตองและรายละเอียดความยุ่งยากซับซ้อนซ่อนอยู่มากมาย แน่นอนว่าเครื่องแต่งกายเหล่านั้นสามารถช่วยให้พวกเราดูดีและดูภูมิฐานขึ้นได้ แต่การแต่งกายทางการบ่อยครั้งก็อาจทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าและรู้สึกสูญเสียพลังงานไปไม่น้อยเช่นกัน
การกลับสู่การแต่งกายสไตล์ “น้อยแต่มาก” แบบ Minimalist ด้วยเสื้อผ้าที่ดูสบาย ๆ และแฝงความผ่อนคลายในตัวเองจาก Maison Kitsuné จึงกลายเป็นทางเลือกที่ MenDetails รู้สึก Feel good ไปกับมัน เหมือนได้กลับมาเจอเพื่อนเก่าที่พูดคุยถูกคอกันอีกครั้ง เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ หรือเสื้อเชิ้ตปก Button Down สุดแสนเรียบง่าย ใส่แบบพับแขนขึ้น พร้อมสะพายกระเป๋า Tote Bag จุของเยอะ ๆ สักใบ ช่วยให้เรารู้สึกเป็นอิสระจากโลกที่ซับซ้อนได้อย่างน่าประหลาดใจจริง ๆ
ใครที่เห็นด้วยกับพวกเรา และอยากกลับไปหาเพื่อนเก่าที่คบง่าย สบาย ๆ ไม่เรื่องมาก แต่แฝงด้วยชั้นเชิงและคุณภาพน่าสนใจของ Maison Kitsuné สามารถแวะไปเจอเจ้าจิ้งจอกตัวนี้ได้ที่ Flagship Store ภายในศูนย์การค้า The EmQuatier ซึ่งที่นั่นจะมีทั้งโซนจำหน่ายเสื้อผ้า หรือจะนั่งจิบกาแฟแบบสบาย ๆ ที่ Café Kitsuné ก็ได้เช่นกัน ถือเป็น Lifestyle ในวันหยุดสบาย ๆ ที่ MenDetails เชื่อว่าน่าจะโดนใจผู้ชายไทยยุคใหม่ที่ใส่ใจในบุคลิกภาพที่ดีของตัวเองอย่างแน่นอนครับ
สินค้า Maison Kitsuné พร้อมวางจำหน่ายที่ร้าน Maison Kitsuné ชั้น G ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ โทร 02-003-6696 / Line Official: @Maisonkitsue_TH / Website: Maison Kitsuné และ Line Official : Café Kitsuné