หากมีใครสักคน หรือร้านเสื้อผ้าร้านไหนมาบอกกับคุณว่า “ตัดสูทนั้นง่ายนิดเดียว” แค่วัดๆ เลือกๆ ตัดๆ ก็จบแล้ว รับรองใส่แล้วหล่อเป็น James Bond เท่แบบ David Beckham แถมดูสมาร์ทราวกับหลุดออกมาจากหนังเรื่อง Kingsman ได้ในพริบตาแล้วล่ะก็ MenDetails อยากให้คุณลองหยุดคิดพิจารณาดูสักนิดก่อนว่ามันจริงไหม เพราะถ้าคุณติดตามพวกเรามาตลอด คงจะพอรู้ว่าเราเองก็เขียนบทความที่เกี่ยวกับสูทมาหลายบทความพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง มารยาทการใส่สูทยังไงให้ดูดี, การเลือก “ไหล่” ของเสื้อสูท, การเลือกร้านสูท ฯลฯ แต่ทว่ารายละเอียดทั้งหมดนั้นก็ยังแตะไม่ถึง 10% ของรายละเอียดการเลือกซื้อและเลือกใส่สูทให้ดูดีและถูกต้องครบถ้วนสำหรับสุภาพบุรุษเลยนะครับ
และวันนี้ก็มาถึงคิวของอีกหนึ่งรายละเอียดในการเลือกซื้อและใส่สูท ที่ MenDetails เชื่อว่าผู้ชายไทยน้อยคนนักที่จะให้ความสนใจกับเรื่องนี้ นั่นก็คือ ‘Suit Linings’ หรือที่ภาษาไทยเราเรียกว่า “ซับในของเสื้อสูท” นี่แหละครับ โดยเราจะมาดูกันว่า ซับในของสูทที่นิยมใช้กันนั้นมีกี่แบบ และแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างนะครับ
ประเภทของซับในเสื้อสูท
ซับในของเสื้อสูทโดยหลักๆ แล้วจะมีทั้งหมด 3 แบบ ตามขนาดบริเวณที่เย็บซับในติดลงไป ได้แก่ Full Lined, Half Lined และ Unlined ครับ
ภาพเปรียบเทียบซับในเสื้อสูทแบบต่างๆ
credit | dailysimplicities.com
1. ซับในแบบ Full Lined
ลักษณะของซับในสูทแบบ Full Lined ก็ตรงตัวตามชื่อเลยนั่นก็คือ เป็นซับในแบบเต็มตัวครับ สูทแบบนี้จะมีผ้าซับในเย็บปิดเต็มทั้งแผ่นหลัง อ้อมมาถึงด้านหน้าตัวเสื้อสูททั้งข้างซ้ายและขวา เมื่อกางสูทออกเราก็จะเห็นผ้าซับในแบบเต็มๆภายในเสื้อสูทเลยครับ สูทที่มีซับในแบบ Full Lined นั้นมีข้อดีคือ สูทจะมีน้ำหนักและอยู่ทรงได้ดีกว่า, ด้านในสูทจะดูเรียบร้อย เพราะมีผ้าซับในปกปิดพวกรอยเย็บไว้ทั้งหมด อีกทั้งยังมีราคาประหยัด เพราะการมีซับในทั้งตัวหมายความว่าช่างตัดสูทไม่จำเป็นต้องพิถีพิถันกับรอยเย็บบนตัวเสื้อสูทจริงๆก็ได้ เพราะยังไงก็มีผ้าซับในคอยบังอยู่อีกชั้นหนึ่ง ต้นทุนการตัดเย็บก็จะต่ำลงครับ ข้อเสียของมันก็คือ “ใส่แล้วร้อนกว่า” เพราะการใส่สูทที่มีซับในเต็มตัวหมายถึงการมีชั้นของผ้าเพิ่มขึ้น เสื้อสูทจะทึบขึ้น ใส่แล้วก็จะร้อนมากกว่าซับในแบบอื่นๆครับ
ซับในแบบ Full Lined จะเย็บซับในเต็มตัวสูทด้านในทั้งหมด จนสามารถใส่ลูกเล่นเป็นลวดลายภาพขนาดใหญ่แบบนี้ได้ แต่มีข้อเสียคือ “ใส่แล้วร้อน” | credit : asuitthatfits.com
ซับในแบบ Full Lined สีสด ตัดกับสูทสีเข้ม สร้างเอกลักษณ์เฉพาะให้สูทของคุณได้
2. ซับในแบบ Half Lined
เสื้อสูทที่มีซับในแบบครึ่งตัวหรือ Half Lined นั้นเมื่อกางเสื้อสูทออกมาเราจะเห็นซับในตรงบริเวณด้านหน้าของตัวเสื้อทั้งซ้ายและขวา แต่ตรงส่วนที่เป็นด้านหลังของเสื้อสูทนั้นจะมีผ้าซับในลอยอยู่แค่ครึ่งท่อนบนเท่านั้น ในขณะที่ท่อนล่างจะปล่อยโล่งให้เป็นเนื้อผ้าสูทตามปกติครับ ซับในแบบ Half Lined จะยังคงทำให้เสื้อสูทมีน้ำหนักและอยู่ทรงดีตรงส่วนด้านหน้าของตัวเสื้อ ในขณะที่ด้านหลังที่ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ทรงมากเท่าไหร่ ก็จะไม่มีซับในเสริมขึ้นมา จึงทำให้เสื้อสูทระบายอากาศได้ดีกว่า ใส่แล้วไม่ร้อนเท่าเสื้อสูทที่มีซับในแบบ Full Lined ครับ ทว่าซับในแบบ Half Lined นั้นต้องใช้ความประณีตมากกว่า นั่นเพราะมันจะโชว์ให้เห็นรอยเย็บด้านในของตัวเสื้อสูทที่ไม่มีซับในคอยบังไว้ การเก็บรายละเอียดจึงต้องพิถีพิถันมากขึ้นครับ
ซับในแบบครึ่งตัว Half Lined | thesavillerowtailor.co.uk
ด้านหลังของข้างในตัวเสื้อแบบ Half Lined จะเปิดโล่งแบบนี้
credit | thesavillerowtailor.co.uk
นอกจาก Half Lined แล้ว ลักษณะของซับในแบบนี้ยังมีแยกย่อยที่แตกต่างออกไปอีกเล็กน้อยอย่างเช่น Quarter Lined ที่จะใส่ซับในเพียง 1/3 หรือ 1/4 ของตัวเสื้อ ซึ่งทำให้เสื้อสูทมีบริเวณที่เป็นซับในน้อยลงไปอีก แต่ยังไม่ถึงขั้นไม่มีซับในเลยแบบ Unlined นะครับ
ซับในสูทแบบ Quarter Lined ที่จะมีบริเวณที่มีซับในน้อยลงกว่า Half Lined อีกเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขั้น Unlined | credit : thetweedpig.com
3. เสื้อสูทแบบไม่มีซับใน หรือ Unlined
เสื้อสูทบางแบบจะไม่มีซับในเลยแม้แต่นิดเดียว หรือที่เราเรียกว่า Unlined ส่วนใหญ่มักจะเป็นเสื้อสูทที่เน้นใส่แบบลำลอง เช่น Blazer หรือ Sport Jacket และเป็นเสื้อสูทที่เน้นความเบาสบายมากกว่าที่จะเป็นเสื้อสูทสำหรับใส่ออกงานพิธีการเต็มรูปแบบครับ สูทที่ไม่มีซับในจะใส่แล้วเบาสบายและระบายอากาศได้ดีมากๆ แต่ก็มีข้อเสียคือสูทจะไม่ค่อยอยู่ทรง พลิ้วไปพลิ้วมาได้ง่ายเพราะไม่มีน้ำหนักมากเท่าไหร่นัก และความเป็นทางการก็จะต่ำกว่าครับ แต่ถ้าใครชอบใส่สูทแบบสบายเป็นหลัก ไม่เน้นพิธีการอะไรนัก สูทแบบ Unlined เหมาะมากสำหรับการใส่ในชีวิตประจำวันในภูมิอากาศร้อนๆ แบบเมืองไทยครับ
เสื้อสูทแบบไม่มีซับใน หรือ Unlined | thesavillerowtailor.co.uk
ไม่มีตัวผ้าที่เป็นซับในเลบแม้แต่นิดเดียว | thesavillerowtailor.co.uk
ผ้าสำหรับนำมาทำเป็นซับในเสื้อสูท
ซับในของเสื้อสูททำมาจากผ้าหลายแบบหลายสไตล์ แล้วแต่ความชอบ, ความทนทาน, ความสบายในการสวมใส่ รวมถึงราคาที่แตกต่างกันออกไปด้วยครับ ซึ่งผ้าที่นิยมนำมาเย็บเป็นซับในของเสื้อสูทก็มีตัวอย่างเช่น ผ้าไหม ซึ่งใส่สบาย เรียบลื่น ใส่แล้วไม่คันตัว แต่ก็มีราคาที่แพงครับ ถัดมาอย่างผ้าวูลสังเคราะห์ และผ้าเรยอนก็จะมีราคาที่ประหยัดลงมาตามลำดับ ส่วนผ้าชนิดอื่นอย่างผ้าโพลีเอสเตอร์จะเป็นผ้าที่ทนทานมากกว่า และมีราคาถูก แต่จะทำให้เราใส่สูทได้ไม่ค่อยสบายตัวนัก และระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ
ผ้าซับในสูทแบบเรียบๆ ไม่มีลวดลาย
การเลือกสีและลวดลายของผ้าซับในก็มีความสำคัญเช่นกันครับ เพราะสีและลวดลายของผ้าซับในจะช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเสื้อสูทของเราได้ โดยปกติแล้วไม่ได้มีกฎเกณฑ์ในการเลือกสี หรือจับคู่สีผ้าซับในกับเสื้อสูทอย่างเด่นชัดนัก แต่ถ้าอยากจะให้ดูโดดเด่นลองจับคู่สีสันสดใสเข้ากับสีพื้นของเสื้อสูทอย่างเช่น ซับในสีนำ้เงินหรือสีม่วงภายในเสื้อสูทสีเทา หรือซับในสีแดงภายในเสื้อสูทสีกรมท่าก็น่าสนใจครับผม
ซับในแบบมีลวดลายด้านในตัวเสื้อสูท | hespokestyle.com
บทสรุป
การทำความรู้จักกับ “ซับในเสื้อสูท” ทำให้ผู้ชายสามารถแยกสูทที่มีคุณภาพ ออกจากสูทที่ตัดเย็บแบบชุ่ยๆ ได้ครับ สูทที่คุณภาพจะมีซับในที่เรียบร้อย รอบเย็บเป็นระเบียบเรียบสนิทกับตัวสูท ซับในที่เย็บมาแบบไม่มีคุณภาพจะไม่ราบเรียบแนบกับตัวเสื้อ แต่จะพองตัวและยับย่นอยู่ภายในครับ อย่าได้ไปซื้อสูทที่มีซับในแบบนั้นมาเด็ดขาดนะครับ
โดยปกติแล้วสูทในเมืองไทยมักจะตัดเย็บแบบ Full Lined หรือมีซับในแบบเต็มตัว นั่นเพราะสูทที่มีซับในแบบนี้นั้น ร้านตัดสูทสามารถ “ลักไก่” ด้วยการไม่เน้นความประณีตในการตัดเย็บตัวเสื้อสูทข้างใน เพราะจะอาศัยซับในเป็นตัวปิดบังร่องรอยการเย็บอีกชั้นหนึ่ง ส่งผลให้ต้นทุนต่ำลงและขายสูทได้ถูกลงครับ ทว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน การใส่สูทที่มีซับในแบบ Full Lined นั้นมันไม่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราเท่าไหร่นัก ดังนั้น MenDetails ขอแนะนำให้คุณเลือกสูทที่เป็นแบบ Half Lined มากกว่าแบบ Full Lined และสุดท้ายถ้าคุณอยากได้สูทที่ใส่ได้ทุกวันไม่ต้องกลัวร้อน และไม่ได้ต้องการความเป็นทางการเท่าไหร่นัก เสื้อเบลเซอร์แบบ Unlined จะทำให้คุณใส่สูทแบบสบายๆได้ทั้งวันแน่นอนครับ แต่ต้องไม่ลืมว่าควรเลือกเนื้อผ้าของสูทที่เหมาะกับเสื้อสูทสำหรับเมืองร้อน รวมถึงใส่สูทแบบที่มี Canvas เพื่อทรงที่สวยงามและการระบายอากาศที่ดียิ่งขึ้นครับ
ซับในสีสันสดใส ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้สูทของเราเองได้
credit | theidleman.com
เรื่องของสูทสำหรับผู้ชาย ถ้าจะเน้นแบบง่ายๆ อย่างไรก็ได้ ไม่ต้องสนใจรายละเอียดอะไรก็สามารถทำได้ครับ แต่ถ้าหากคุณเป็นผู้ชายที่ใส่ใจในบุคลิกภาพของตัวเอง และอยากที่จะใส่สูทได้ดูดีและถูกต้องเหมาะสมกับกาลเทศะและสภาพอากาศของเมืองไทยแล้วล่ะก็ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้นี่แหละครับ คือสิ่งที่จะตัดสินความแตกต่างระหว่าง “ผู้ชายใส่สูท” กับ “ผู้ชายที่ใส่สูทแล้วดูดี” ในท้ายที่สุดครับ