นี่คือ Studio ของคุณนิ รุ่งโรจน์ จันทร์กระจ่าง ผู้ชายที่สร้างทุกอย่างมาจากความหลงไหล ตั้งแต่การขายเสื้อผ้ามือสอง ยาวไม่จนถึงการหยิบสิ่งของเหลือใช้มาทำใหม่ให้กลายเป็นทอง
เพราะหัวใจหลักของแต่ละธุรกิจนั้นไม่เหมือนกัน หลากหลายธุรกิจเริ่มต้นด้วย Cutting ที่ยอดเยี่ยม บ้างเริ่มต้นด้วยวัสดุที่ราคาถูก ขายได้ในราคาต่ำ แต่สำหรับ La Rocca แล้วนั้น หลายสิ่งที่กล่าวมา อาจไม่ใช่อย่างที่คุณคิดแน่นอน เนื่องจากพี่นิ เลือกทำทุกอย่างจากความรักและหลงไหลในวัสดุเป็นที่ตั้ง “ซื้อก่อน ทำทีหลัง” เหมือนจะเป็นวิธีการจัดการงานออกแบบของเขาในมุมที่คุณคาดไม่ถึง
“ผ้าทุกชิ้นที่ผมเลือก มันมีเรื่องราว” พี่นิกล่าวก่อนเสริมว่า “มันเป็นมากกว่าผ้า และผมซื้อมันเพราะเรื่องราวหลังผืนผ้าเหล่านั้น”
หลังจากได้วัสดุที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ Levi’s Big E / เสื้อ Ralph Lauren หรือผ้า Bandana เก่าๆ เจ๋งๆ แล้ว สิ่งแรกที่เขาคิดเลยก็คือ “หยิบมันมาต่อกัน” ต่อในมุมที่เราเองก็คาดไม่ถึง ซึ่งผ้าทุกผืนที่พี่นิทำนั้น จะต้องผ่านมือของเขาทั้งสิ้น “นี่คือหัวใจเลยนะ” พี่นิเล่า “เพราะถ้าเราลืมขั้นตอนนี้ ส่งต่อไปให้คนอื่นทำ มันก็จะไม่มีวันเป็นเราอีกต่อไป” ซึ่งในจุดแข็งก็เป็นจุดอ่อนในเวลาเดียวกัน
“เรายังหาวิธีที่ทำให้ตัวแบรนด์ ขยายกว่านี้ได้ยาก” พี่นิพูดขึ้น “เนื่องจาก ผ้าทุกผืน เราเองเป็นคนตัดต่อเอง เราจับแต่ละชิ้นมาต่อจนกลายเป็นผ้าผืนใหญ่ แล้วนำไปผลิตต่อเป็นเสื้อผ้า ซึ่งมันมีข้อจำกัดหลายๆ อย่างที่ทำให้เราผลิตจำนวนเยอะมากๆ ไม่ได้”
อย่างตอนนี้ ถ้าคุณต้องการซื้อเสื้อผ้าของ La Rocca คุณยังซื้อไม่ได้นะครับ แต่เนื่องจากแบรนด์นั้น ผลิตได้ไม่ทันต่อความต้องการเลยสักนิดเดียว “เราเองก็ไม่อยากไปเร่งช่างนะ” พี่นิกล่าว ก่อนพูดเสริมว่า “เราอยากได้งานดีๆ งานที่เน้นคุณภาพ ถ้าไปเร่ง งานก็ไม่ดี ไม่ได้ดั่งใจ เราก็ไม่อยากขาย” เพราะแบรนด์อยู่ได้ด้วยคุณภาพตั้งแต่วัสดุยาวไปจนถึงสินค้าที่ผลิตเป็นชิ้นแล้วด้วยเช่นกัน
ไม่ได้หยิ่ง แต่ทำเสร็จแล้ว “ยังไม่อยากขาย”
สิ่งนี้ไม่ใช่การตลาดแต่อย่างใดนะครับ เพราะลึกๆ แล้ว พี่นินั้นไม่อยากให้สินค้าเป็นเพียงกระแสเท่านั้น “ผลิตเสร็จปุ๊บ เราก็ให้ช่างของเราใส่ถ่ายรูปลง IG” พี่นิบอก “พอลงปุ๊บ ก็มีคนส่งข้อความมาถามเลยว่า ขายมั้ย เราก็ตอบตรงๆ เลยว่า ไม่ขาย” ฟังแล้วอาจดูเหมือนหยิ่ง แต่จริงๆ คือพี่นิต้องการให้ความต้องการซื้อสินค้าของเขานั้นไม่ได้มาจากกระแส แต่เป็นความต้องการซื้อจริงๆ “หลังจากนั้นสัก 1-2 เดือน เราค่อยผลิต ซึ่งผลตอบรับช่วงนั้นแหละที่เรียกว่า ของจริง”
Project ล่าสุดเกิดจากการซื้อถุงผ้าเก่ามาเก็บเพียงแค่ชอบ “เรื่องราว” เท่านั้น
ถือเป็น Project ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตั้งแต่เรารู้จักนักออกแบบคนไทยมาเลยก็ว่าได้ กับการหยิบเอาถุงผ้าเก่ามาผลิตเป็นเสื้อผ้าใหม่ อาจจะฟังเหมือนมีพื้นฐานความคิดอันยิ่งใหญ่ แต่จุดเริ่มต้นจริงๆ เลยคือ ไปเห็นถุงผ้าเก่าจากต่างประเทศแล้วชอบ จึงซื้อเก็บไว้ “ตอนนั้นที่ซื้อมาก็ไม่รู้หรอกว่าจะเอามาทำอะไร” พี่นิพูดถึง Project ล่าสุดที่พึ่งทำไป “รู้แค่ว่า ถุงผ้าเก่ามันดูมีสเน่ห์ มันมีเรื่องราวดี และระหว่างทางมันก็คือขยะที่ย้อนแย้งที่สุดของการรณรงค์เรื่องขยะพลาสติกด้วย” มันช่างเจ็บปวดแต่ก็เป็นความจริงที่เราเถียงไม่ออก
“เราคิดกันแค่ว่า ใช้ถุงผ้าแล้วจะลดขยะลง” พี่นิพูดพร้อมโชว์ผ้าผืนหนึ่งที่ตัดต่อด้วยตัวเองจนกลายเป็นผืนใหญ่ “แต่รู้มั้ยว่าพี่ใช้ถุงผ้ามาแล้วกว่า 50,000 ถุงนะ มันคือขยะดีๆ นี่เอง ที่ใช้แล้วคุณก็ทิ้ง”
ของดีไม่จำเป็นต้อง “ใหม่” แค่คุณหลงไหล ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ก็คือ “ของดี” เสมอ
นี่น่าจะเป็นจุดสำคัญของมุมมองที่เราอยากให้ทุกท่านได้ปรับเลี่ยนทัศนคติไปพร้อมๆ กับแบรนด์ เนื่องจากเสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกายที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นของใหม่หรือของ Hype แต่อย่างใด กลับกัน ของเก่าที่มีเรื่องราวก็เป็นเสื้อผ้าที่ยอดเยี่ยมได้ รวมถึงรูปแบบเสื้อผ้าที่ Timeless ซื้อวันนี้แต่อีก 5-10 ปี คุณก็ยังหยิบมาใส่ได้อยู่ดี นี่แหละ Ideal เลยนะ “แบรนด์ผมผลิตแต่เสื้อผ้าที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คุณก็ยังหยิบมาใส่ได้ มันคงจะดีนะครับ ถ้าในอีก 5 ปีข้างหน้า ลูกค้าของผมยังเอาเสื้อจากถุงผ้ามาใส่”
อะไรที่มัน Classic ด้วยวิถีของตัวมันเอง ดีเสมอครับ ขอแค่คุณเข้าใจมันและรักมันให้เข้าเส้นอย่างคุณนิ รุ่งโรจน์ จันทร์กระจ่าง เมื่อนั้นคุณจะเข้าใจว่า “ของที่เจ๋ง” ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน
หากคุณสนใจแบรนด์ La Rocca สามารถเข้าไปดูรายละเอียดสินค้าต่างๆ ได้ที่ Facebook : La Rocca และ IG: La Rocca_Stuidoได้เลยครับ หรือเดินไปดูที่หน้าร้าน La Rocca ที่ตลาดนัดสวนจัตุจักรและ Upperground สาขา Central World ได้เลย