คำว่า “Camouflage” มีที่มาจากคำกริยาในภาษาฝรั่งเศส ‘Camoufler’ อ่านออกเสียงว่า กา-มู-แฟลร์ค ซึ่งมีความหมายว่า “ซ่อนเร้น, อำพราง” เป็นลวดลายที่ใช้ในแวดวงการทหารอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่หากจะย้อนไปถึงประวัติศาสตร์ของลายพรางนั้น เริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อกองทัพฝรั่งเศสได้จัดตั้งหน่วยทหารที่มีชื่อว่า Camoufleurs ในช่วงราวปี 1914 โดยมีภารกิจที่สำคัญคือ ทาสียานพาหนะ, ยุทโธปกรณ์ รวมถึงอาคารฐานทัพทางการทหาร ให้มีสีสันที่กลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศ เพื่อการพรางตาจากข้าศึกในระยะไกล อีกทั้งยังมีหน้าที่ลบร่องรอยต่างๆ ทั้งรอยยางรถยนต์ ปลอกกระสุน ฯลฯ เพื่อไม่ให้ข้าศึกสะกดรอยตามได้ง่ายๆ เรียกได้ว่าเป็นหน่วยพรางตัวโดยเฉพาะเลยทีเดียว
ผลงานลวดลาย Camouflage ของหน่วยทหาร ‘Camoufleurs’ สังกัดกองทัพฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 | historyextra.com
เทคนิคการพรางตัวด้วยลวดลาย Camouflage ได้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายโดยกองทัพต่างๆทั่วโลก เช่น กองทัพอังกฤษเอาลาย Camouflage ไปทาที่เรือรบเพราะเชื่อว่าจะทำให้เรืออู ของเยอรมนี คาดเดาขนาดและตำแหน่งของเรือได้ยากลำบากขึ้น อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของลายพราง Camouflage นั้น ไม่เคยได้รับการพิสูจน์อย่างจริงจังสักทีว่า “มันช่วยพรางตัวได้จริงหรือ?”
Dazzle Camouflage Ship แนวคิดการทาสีเป็นลายพรางบนตัวเรือรบของฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลก
ในปัจจุบัน ‘ลายพราง’ หรือ Camouflage ไม่ได้จำกัดการใช้งานอยู่เพียงแค่แวดวงทางการทหารอีกต่อไป แต่ Camouflage ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งกายในสไตล์ลำลองอย่างมีนัยสำคัญไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยลวดลายที่โดดเด่นตัดกับเสื้อผ้าสีพื้นที่ทุกคนมีได้ลงตัวอย่างน่าอัศจรรย์เสมอ ทำให้ลายพราง Camouflage จะอยู่รับใช้สไตล์ของผู้ชายที่มีจิตวิญญาณของชายชาติทหารไปได้อีกนานเลยทีเดียว
แม้แต่สายนาฬิกา ก็มีการเติมลายพราง หรือ Camouflage ลงไปเช่นกัน
แต่ทว่าความโดดเด่นของ ‘ลายพราง Camouflage’ ก็สามารถเป็น “ดาบสองคม” ได้เช่นกัน แง่หนึ่งมันคือเอกลักษณ์ที่สร้างสไตล์ที่แตกต่างให้กับผู้ที่สวมใส่ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ‘Camouflage’ เองสามารถกลายเป็นการแต่งกายที่ ‘Too Much’ หรือดูแล้ว “เยอะเกินไป” หากเราใช้อย่างฟุ่มเฟือย วันนี้ MenDetails จึงขอเสนอเทคนิควิธีการใช้งานลายพราง Camouflage อย่างเหมาะสมสำหรับผู้ชายมีสไตล์มาฝากกันครับ
Don’t “Over Camo”
‘อย่าใส่ลายพรางจนท่วมตัว’ คือคำเตือนข้อแรกของการใช้ลายพรางเพื่อพัฒนาสไตล์ของตัวเอง เพราะเราไม่ใช่ทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ การใส่ลายพรางจนครบทั้งเสื้อและกางเกง รวมถึง accessories อื่นๆ ไปเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า จะทำให้เราดูเหมือนทหารเกณฑ์นอกแถวที่แอบหนีครูฝึกออกมาเที่ยว ดังนั้นเลือกเอาเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่งก็เพียงพอ หากรักจะใส่เสื้อแจ็กเก็ตลายพรางก็ควรหลีกเลี่ยง กางเกงที่มีลวดลายพรางแบบเดียวกัน เปลี่ยนไปใส่กางเกงสีพื้นอย่างยีนส์ผ้าดิบ หรือกางเกงชีโน่ก็จะดีกว่า ส่วน accesseories อย่างนาฬิกาก็ควรจะมีลวดลายให้น้อยลง แต่ยังคงอารมณ์ของทหาร อย่างเช่น Hamilton Khaki Field สายสีเขียวเรือนนี้นี่แหละครับ
เมื่อสวมเสื้อแจ็กเก็ตเป็นลาย Camouflage แล้ว ไม่ควรเติมอย่างอื่นเป็นลายพรางอีกให้ดูเยอะเกินไป
Camouflage Accessorizing
อย่างที่รู้กันแล้วว่า “ลายพราง” ไม่ได้จะอยู่แค่บนเสื้อหรือกางเกงของเราเท่านั้นเสมอไป เพราะบรรดาเครื่องประดับ หรือ accessories ชิ้นอื่นๆในการแต่งกาย ก็สามารถมีลายพรางเป็นองค์ประกอบสำคัญได้ด้วย ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ Accessories เหล่านี้มักเน้นประโยชน์ใช้สอยและมีความแข็งแรงทนทานมากกว่า ตัวอย่างเช่น นาฬิกาข้อมือของผู้ชายที่มีการใช้ลายพรางมาอยู่ในหน้าปัด หรือมีการโชว์ลวดลายโดดเด่นอยู่บนสายนาฬิกาข้อมืออย่าง Hamilton Khaki Field Military ‘Camouflage’ ที่มีหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัล กันรอยขีดข่วนดีเยี่ยม กับสายนาฬิกาลาย Camouflage ที่ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง แข็งแรงและทนทาน การสวมใส่เครื่องประดับที่มีลายพรางแบบนี้ สามารถทำให้สไตล์ของเราดูลำลองและบึกบึนขึ้นได้ในเวลาเดียวกัน ลองจับคู่สีทั่วๆ ไปอย่างเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์สีขาว คู่กับ กางเกง Gurkha สีเทา และจบด้วยนาฬิกาทหารที่มีลายพรางสวยงามบนสาย ช่วยส่งเสริมให้การแต่งกายธรรมดาๆ ดูไม่ธรรมดาขึ้นมาได้ทันที
ตัวเรือนขนาด 42 มม. ของ Hamilton Khaki Field Camouflage ขนาดกำลังดีกับข้อมือมาตรฐานของผู้ชาย
Stick with Military Vibe
เมื่อต้นกำเนิดของลายพราง มีที่มาชัดเจนจากทางการทหาร ดังนั้นคำแนะนำของเราสำหรับสไตล์การแต่งกายด้วยลายพราง นั่นคือให้ ‘Stick with Military Vibe’ หรืออ้างอิงกับการแต่งกายภายใต้แรงบันดาลใจทางการทหารเช่นกัน ถือเป็นการ ‘คุมโทน’ เพื่อไม่ให้ลาย Camouflage ของเครื่องแต่งกายที่เราใส่นั้นมันโดดเด้งออกมามากเกินไป ตัวอย่างเช่น นาฬิกา Hamilton Khaki Field Military ‘Camouflage’ ที่มีลายพรางชัดเจนอยู่บนสายนาฬิกา อีกทั้งมีความทนทาน แข็งแรง กันน้ำได้สบาย แถมเดินได้เที่ยงตรงตามมาตรฐานของกองทัพ เช่นนั้นก็ควรจะ “คุมโทน” ด้วยการใส่นาฬิการุ่นนี้คู่กับเสื้อแจ็กเก็ตสีเขียวทหารอย่าง M-65 Field Jacket หรือเสื้อแจ็กเก็ต MA-1 Bomber Jacket สีพื้นกรมท่า ที่มีที่มาจากกองทัพทหารเช่นเดียวกัน ย่อมจะดีกว่าการเอานาฬิกาสายลายพรางไปใส่คู่กับ ชุดสูท Double Breasted หรือ City Suit ที่คุณจะใส่ไปร่วมงานสำคัญนะครับ
Vintage Military Jacket M-65 เข้ากันได้ดีเยี่ยมกับนาฬิกาสาย Camouflage จาก Hamilton
Bomber Jacket MA-1 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ กับนาฬิกา Hamilton Khaki Field ‘Camouflage’
เสน่ห์ของลายพรางคือพื้นฐานที่มาจาก “กองทัพทหาร” สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแรง และประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะสมกับการรบพุ่งเยี่ยงชายชาตรี การดึงเอาเอกลักษณ์เหล่านั้นจากลาย Camouflage มาสู่แฟชั่นและสไตล์ของผู้ชายจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ บ่งบอกถึงบุคลิกของผู้ชายที่เป็นตัวของตัวเอง, กล้าแสดงออก และไม่ยึดติดอยู่กับสีพื้นแบบเดิมๆ หากใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของลายพราง Camouflage เราเชื่อว่าคุณคงจะมีเสื้อแจ็กเก็ต หรือ Hoodie ลายพรางอยู่ที่บ้านแล้ว ที่เหลือก็คงจะเป็น Accessorie สำคัญสำหรับผู้ชายอย่าง นาฬิกาข้อมือ Hamilton Khako Field Military ‘Camouflage’ เรือนนี้ ซึ่งจะช่วยเติมเต็มคอลเล็กชั่นการแต่งกายด้วยลายพรางของคุณให้สมบูรณ์แบบได้แน่นอนครับ
Hamilton Khaki Field Military ‘Camouflage’ มีวางจำหน่ายที่เคาท์เตอร์ของ Hamilton ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Hamiltonwatch.com หรือที่ Social Media ต่างของ Hamilton Watch
Facebook | facebook.com/hamiltonwatch
Twitter | twitter.com/hamiltonwatch
Instagram | @Hamiltonwatch
Pinterest | pinterest.com/hamiltonwatch