Series ‘MDs’ Style Icons’ ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ ‘Icons of Men’s Style’ โดย Josh Sims ที่รวบรวมประวัติความเป็นมาของเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษฉบับคลาสสิกตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เครื่องแต่งกายเหล่านี้ก็จะยังคงความคลาสสิกอยู่คู่กับสไตล์ของผู้ชายไปได้อีกนานแสนนาน
เสื้อแจ็กเก็ตสุดคลาสสิก และเป็นอีกหนึ่งใน Gentlemen’s Style Icons สำหรับผู้ชาย ที่ดูแลรักษาง่ายที่สุด เพราะคำแนะนำก็คือ “ห้ามซักทำความสะอาดโดยเด็ดขาด” นั่นก็คือ ‘The Waxed Jacket’ วันนี้ MenDetails จะขอมาแนะนำเสื้อที่ผู้ชายไทยยังรู้จักกันน้อยมาก เว้นแต่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายที่สนใจในเรื่องการแต่งกาย และเคยได้ผ่านการร่ำเรียนที่ประเทศอังกฤษมาก่อน จึงจะมีโอกาสได้รู้จักเสื้อชนิดนี้ครับ
The Waxed Jacket
แรกเริ่มเดิมที “The Waxed Jacket” หรือ “เสื้อแจ็กเก็ตเคลือบแว็กซ์” ผลิตขึ้นเป็นเสื้อโค้ทตัวยาวถึงหน้าแข้งโดยแบรนด์เสื้อผ้าที่มีชื่อว่า ‘John Barbour & Sons’ ก่อตั้งโดยชายชาวสก๊อตแลนด์นามว่า นายจอห์น บาร์เบอร์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 ด้วยจุดประสงค์แรกสุดเพื่อเป็นเสื้อโค้ทกันน้ำสำหรับชาวประมง, ช่างต่อเรือ และคนงานที่ทำงานตามท่าเรือมาตั้งแต่ปี 1908 เพราะตัวแว็กซ์ที่ทำจากน้ำมัน Sylkoil Wax ซึ่งเคลือบอยู่บนตัวเสื้อนั้นสามารถกันน้ำได้ดีเยี่ยม ทำให้น้ำทะเลและน้ำฝนไม่สามารถเกาะอยู่บนตัว Waxed Jacket ได้เลย เสื้อโค้ทตัวยาวแบบนี้จึงมีประโยชน์มาก และเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายที่ต้องทำงานผจญกับ “น้ำ” ตลอดเวลา
ภาพโฆษณาขายเสื้อ Sylkoil Waxed Coat ตัวยาวถึงหน้าแข้งของ Barbour ในยุคแรก
ได้รับความนิยมในฐานะ Biker Jacket อยู่ช่วงหนึ่ง
แบรนด์ Barbour ผลิตเสื้อ Waxed Jacket ออกขายมาอย่างยาวนานหลายสิบปี แต่ก็ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น จนกระทั่งมาถึงปี ค.ศ. 1980 เมื่อ Barbour ตีพิมพ์แคตตาล็อกเสื้อ Waxed Jacket ของตัวเอง เป็นภาพคู่ของชายหญิงที่กำลังเดินเล่นพร้อมกับสุนัข Jack Russel คู่ใจ ในบรรยากาศชนบทของอังกฤษตามสไตล์ British Countryside ซึ่งแคตตาล็อกเสื้อแจ็กเก็ตเคลือบแว็กซ์ของ Barbour ในปี 1980 นี่เอง ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของ The Waxed Jacket เปลี่ยนไปตลอดกาล จากเสื้อผ้ากันน้ำบึกบึนของชาวประมง และสิงห์นักบิด กลายเป็นเสื้อสำหรับ British Countryman ที่เหมาะกับการเดินป่า หรือท่องเที่ยวชื่นชมธรรมชาติในชนบทของผู้ชายที่มีสไตล์และรสนิยมที่ดี
รูปจาก Catalogue ของ Barbour ในปี 1980 ที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปโดยสิ้นเชิง
งานออกแบบของเสื้อ Waxed Jacket จาก Barbour ในยุคดังกล่าวก็เปลี่ยนไปจากยุคดั้งเดิม โดยปรับให้ตัวเสื้อนั้นสั้นลง และมีน้ำหนักเบาขึ้นอีก (แต่ยังเคลือบด้วยน้ำมันแว็กซ์ ที่มีชื่อว่า Sylkoil Wax เช่นเดิม) ทั้งนี้เพื่อให้เข้ากับความนิยมที่มีมากขึ้นในหมู่ชาวไร่ชนบท, ผู้ชื่นชอบการล่าสัตว์ รวมถึงสุภาพบุรุษที่ออกเดินทางท่องเที่ยวตามชนบทมากขึ้น ‘The Bedale Jacket’ เปิดตัวในปี 1980 ออกแบบโดยทายาทของ John Barbour โดยตรงอย่าง Margaret Barbour เพื่อให้เป็นแจ็กเก็ตสำหรับขี่ม้า (Equestrian Jacket) ส่วนประกอบต่างๆของ The Bedale Jacket ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ของ The Waxed Jacket ที่ผลิตโดย Barbour ในเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเสื้อขนาดใหญ่, ปกเสื้อที่ทำจากผ้า Corduroy รวมถึงซิปและห่วงรูดซิปที่ทำจากทองเหลือง (Brass)
Barbour’s Waxed Jacket รุ่น Bedale
‘The Beaufort Jacket’ คือเสื้อ Waxed Jacket อีกรุ่นหนึ่งที่ออกแบบโดย Margaret Barbour เช่นกัน โดยผลิตออกมาเป็นเสื้อแจ็กเก็ตสำหรับล่าสัตว์ และผลิตออกมาเป็นสี Sage (สีเขียวเข้มอมเทา) เท่านั้น เสื้อแจ็กเก็ตโบฟอร์ท หรือ “โบฟอร์” รุ่นนี้ ได้รับความนิยมอย่างมาก จนทำให้สี Sage กลายเป็นสีที่เป็น Signature หรือเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Waxed Jacket ไปโดยปริยาย
Barbour’s Waxed Jacket รุ่น Beaufort กับการนำมาผสมผสานกับเสื้อเชิ้ต, Sport Coat และเนกไทได้อย่างลงตัว
ถึงแม้ The Waxed Jacket จะหลุดจากวงแคบๆ ของชาวประมงและช่างต่อเรือตามท่าเรือมาสู่สาธารณชนได้บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปอยู่ในสไตล์การแต่งกายของผู้ชายชาวเมืองได้อย่างชัดเจนเหมือน เสื้อแจ็กเก็ตซาฟารี หรือเสื้อแจ็กเก็ตทหารยอดฮิตอย่าง Field Jacket M65 แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของ The Waxed Jacket จาก Barbour ก็คือการได้รับตรา ‘Royal Warrants’ อันเป็นเครื่องหมายที่รับรองว่าผลิตภัณฑ์จาก Barbour เป็น “ของใช้ประจำพระองค์” จากราชวงศ์อังกฤษถึง 3 ตรา ได้แก่จากสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 และ เจ้าชายฟิลลิปหรือดยุคแห่งเอดินเบอระห์ ผู้เป็นพระสวามี ในปี 1982 และอีกครั้งจาก เจ้าฟ้าชายชาร์ลส ในปี 1987 ดังนั้นถ้าจะเรียกว่า Barbour’s Waxed Jacket ถือเป็นเสื้อแจ็กเก็ตที่มีเชื้อสายเจ้าขุนมูลนายอยู่ในตัวก็คงจะไม่ผิดนัก และต่อให้จะมีแบรนด์อื่นๆ ทำ Waxed Jacket ออกมาจำหน่ายด้วยก็ตาม แต่ถ้าพูดถึง “ที่สุดของ Waxed Jacket” ก็คงต้องยกให้แบรนด์ Barbour เขาล่ะครับ
Her Majesty The Queen Elizabeth II (at Windsor, 1990) wearing her Barbour Waxed Jacket
ตรา Royal Warrants จากพระราชินีอลิซาเบธที่ 2, เจ้าชายฟิลลิป ดยุคแห่งเอดินเบอระห์ และ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส เจ้าชายแห่งเวลส์ที่จะปรากฎอยู่บนเสื้อ waxed jacket ทุกตัวของ Barbour
How to wear Barbour’s Waxed Jacket
เสื้อแจ็กเก็ตเคลือบแว็กซ์จากแบรนด์ Barbour ถือเป็นหนึ่งใน “ไอเท็มชั้นอ๋อง” ที่ MenDetails แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ชายที่เน้นการใช้ชีวิตแบบลุยได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะลุยป่า, ทำฟาร์ม, ลงสวน, ผจญฝน ฯลฯ เสื้อประเภทนี้สามารถรับมือได้ทั้งสิ้น หรือถึงแม้คุณไม่ใช่ผู้ชายสายลุย แต่ชื่นชอบการแต่งกายสไตล์ Vintage Casual ที่เน้นความคลาสสิกของเสื้อผ้าเป็นหลัก ก็สามารถสวมใส่ Waxed Jacket คู่กับยีนส์ และรองเท้าหนังหรือรองเท้าบู๊ทได้อย่างมีสไตล์เช่นกัน และถึงแม้เสื้อ Waxed Jacket จะไม่ได้มีรากเหง้ามาจากกองทัพทหารโดยตรงก็ตาม แต่ลักษณะภายนอก รวมถึงสี Sage ก็ใกล้เคียงกับเสื้อแจ็กเก็ตทหารแบบอื่นๆ ไม่น้อย เราจึงสามารถนำเสื้อ Waxed Jacket มาแต่งกายทดแทนเสื้อแจ็กเก็ตทหารอย่าง M65 หรือ M59 ได้อย่างไม่เคอะเขินอีกด้วยครับ
Alex Turner จากวง Arctic Monkeys กับเสื้อ Barbour’s Waxed Jacket ที่เขาใส่คู่กับยีนส์ได้มีสไตล์จริงๆ
หากคุณชอบความคลาสสิกดั้งเดิม ควรเลือกรุ่น Bedale หรือ Beaufort เป็นหลัก แต่ถ้าคุณมี James Bond 007 เป็นไอดอลในใจ ขอให้เลือกรุ่น Beacon Heritage ที่เป็นทรงเดียวกับที่ James Bond สวมใส่ในภาค Skyfall (2012) แต่เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าคิดจะใส่เสื้อ Waxed Jacket จาก Barbour ขอให้ระลึกเสมอว่าเสื้อแจ็กเก็ตเคลือบแว็กซ์นั้น “ห้ามซักโดยเด็ดขาด” ไม่ว่าจะซักมือซักเครื่องก็ไม่ได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ตัวแว็กซ์ที่เคลือบอยู่นั้นหลุดออกนั่นเอง วิธีการทำความสะอาดทำได้แค่เอาผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำบิดให้แห้งๆ แล้วเช็ดเบาๆ ตามจุดที่มีรอยเปื้อนเท่านั้นครับ และในโอกาสหน้า MenDetails จะนำไอเท็มสุดคลาสสิกที่ผู้ชายควรรู้มาฝากกันอีกใน Series ‘MDs’ Style Icons’ โปรดติดตามกันต่อไปด้วยนะครับผม
เสื้อ Barbour x Tokihito Yoshida Beacon Heritage Limited Edition กับฉากในภาพยนตร์ James Bond 007 ‘Skyfall’ (2012)