ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนครับว่า คุณสามารถแต่งตัวแบบไหนก็ได้ครับ ไม่มีความจำเป็นต้องทำตามที่เราเขียนด้านล่าง แต่สิ่งที่เรากำลังอยากสื่อสารคือ “สิ่งที่ช่วยให้คุณแต่งตัวได้อย่างลงตัวมากขึ้น” อาจมีบางข้อที่คุณคิดว่า “เอ๊ะ! มันไม่เห็นเกี่ยวกันเลยนะ” แต่เราอยากให้เปิดใจครับ บางสิ่งอาจไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป แต่นี่คือภาพรวมที่เรายกตัวอย่างมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน ถ้าพร้อมแล้ว ก็เริ่มอ่านข้อแรกกันได้เลย
ใส่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่เกินหรือเล็กเกินไป
จริงๆ แล้วคำว่า Oversized นั้น เหมือนจะเป็นเทรนด์ที่โด่งดังมากในช่วงปีที่ผ่านมา หลากหลายแบรนด์ต่างทำเสื้อผ้าแนว Oversized ออกวางขายกันยกใหญ่ ซึ่งผู้นำเทรนด์ก็เป็นกระแสของ Streetwear ยุค 90s ที่เราพอจะทราบกันดี แต่พอเอามาแต่งตัวจริงๆ แล้ว อาจต้องระมัดระวังนิดหน่อยครับ เนื่องจาก Oversized Shirt อาจไม่เหมาะกับบางคน ส่วนใส่เสื้อผ้าที่เล็กเกินพอดีนั้นก็ไม่ควรอย่างยิ่งครับ ถ้าข้ออ้างคือคุณอ้วนขึ้น เราแนะนำให้คุณลดหุ่นก่อนหยิบเสื้อเชิ้ตตัวนั้นๆ มาใส่จะดีเสียกว่า
สิ่งที่ควรทำเลยคือ แนะนำเลือกซื้อเสื้อเชิ้ตที่พอดีตัวเป็นหลักครับ ไม่แน่นไป ไม่หลวมเกิน จุดสังเกตที่ดีคือช่วงไหล่และช่วงวงแขนครับ ถ้าไหล่เสื้อเชิ้ตตกเกินไป แปลว่าคุณใส่หลวม และถ้าแขนคุณขยับไม่ได้ดั่งใจ แปลว่าคุณใส่เสื้อเชิ้ตตัวเล็กเกินไป ทั้ง 2 อย่างควรถูกโยนออกจากตู้เสื้อผ้าจะดีที่สุดครับ (หรือนำเสื้อตัวใหญ่ไปแก้ทรง)
ใส่เสื้อสูทหรือ Blazer แล้วติดกระดุมทุกเม็ด
อันนี้เรามักจะเห็นได้บ่อยเวลาไปงานต่างๆ เนื่องจากเสื้อสูทหรือ Blazer นั้นเป็นของวัฒนธรรมจากชาติตะวันตกครับ และทางฝั่งนั้นก็มีกฏอยู่อย่างหนึ่งด้วยประโยคที่ว่า “Sometimes, Always, Never” กล่าวถึงเสื้อสูทหรือ Blazer ที่มีทั้งหมด 3 กระดุมครับ โดยเรียงลำดับจากสูงไปต่ำ “ซึ่งหมายความว่าเม็ดกลางควรกลัดตลอดเวลา” และถ้าเป็นเสื้อแบบกระดุม 2 เม็ด ก็มักจะปล่อยเม็ดล่างไปกลัดดังประโยคข้างต้นนั่นเอง ซึ่งเจ้าประวัติการกลัดกระดุมดังกล่าว MDs เคยเขียนรายละเอียดไว้แล้วครับ (ตามลิงค์นี้เลย)
ดังนั้น ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จำไว้อย่างเดียวครับว่า กระดุมเม็ดล่างของเสื้อสูทและ Blazer ห้ามกลัด น่าจะปลอดภัยกับภาพลักษณ์ของตัวเองมากที่สุดครับ
เลือกจับคู่ปกเสื้อเชิ้ตกับ Necktie ผิดประเภท
อันนี้อาจจะ Tricky นิดหน่อยนะครับ เนื่องจากเสื้อเชิ้ตนั้นมีหลากหลายปกให้เลือกเยอะแยะมากมาย (อ่านได้ที่นี่) ยกตัวอย่างเช่นเสื้อเชิ้ตปกแบบ Spread-Collar นั้น ไม่ค่อยนิยมใส่คู่กับ Necktie เส้นเล็กๆ แนว Skinny ครับ ที่นี่เริ่มยากละว่าจะใส่ยังไงดี MDs ขอพูดแบบนี้ละครับครับว่า “ยิ่งปกเสื้อบานออกมากเท่าไร Necktie ยิ่งต้องเส้นใหญ่ขึ้นตาม Proportion” ถึงจะแลดูหล่อครับ
แต่ถ้าคุณจะใส่ให้ครบเซตแบบมีเสื้อสูททับด้วยแล้ว แนะนำ Trick ง่ายๆ แค่เลือก Necktie เส้นที่ส่วนที่กว้างที่สุดเท่ากับความกว้างของ Lapel เสื้อสูทตัวนั้น เท่านี้ก็รอดแล้วครับ
ดูความยาวของ Necktie ด้วย
เป็นจุดสำคัญอีกจุดครับ ถ้าคุณเลือกที่จะใส่เสื้อเชิ้ตแบบผูก Necktie แน่นอนว่าสั้นไปจะดูเด้อแน่ๆ และถ้ายาวไปก็จะทำให้ Proportion ของเสื้อเชิ้ตและอื่นๆ ผิดที่ผิดทาง ดังนั้น Necktie ที่ดีก็ย่อมต้องมีความยาวที่เหมาะสมเสมอครับ สิ่งที่ต้องจำเลยก็คือ ถ้าคุณใส่เข็มขัด “ส่วนปลาย Necktie ของคุณไม่ควรแตะโดนหัวเข็มขัด” เท่านั้นเป็นพอ จะทำยังไงก็ได้ครับ แต่แนะนำความยาวประมาณนี้เป็นดี ไม่ว่าคุณจะใส่กางเกงเอวสูงแค่ไหนก็ตาม นี่คือกฏที่ควรปฏิบัติ
แต่ถ้าคุณเลือกจับคู่กับกางเกงไร้หูเข็มขัด แนะนำให้ปลายของ Nectie แตะโดนพอดีขอบกางเกงครับ ง่ายๆ แค่นี้ก็ทำให้คุณดูดีขึ้นได้ทันที
ต้องรู้จักกาลเทศะ เลือกแต่งตัวให้ถูกเวลา
ข้อนี้น่าจะสำคัญสุดเลยครับ สิ่งที่ผู้ชายควรรู้มากกว่าข้ออื่นๆ เลยก็คือ “กาลเทศะ” ต่อให้คุณแต่งตัวผิดระเบียบนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดีกว่าการที่คุณแต่งตัวไม่เข้ากับสถานที่ ไม่ให้ความเคารพกับสภาพแวดล้อมที่คุณเดินทางไปร่วมงาน เราทราบครับว่า สไตล์การแต่งตัวนั้นมีความแตกต่างตามความชอบ แต่ถ้าคุณจะไปงานแต่งงาน จะให้ใส่กางเกง Jogger หรือขาสั้น พร้อมรองเท้า Sneakers ก็คงดูไม่ใช่เรื่องถูก จริงมั้ยครับ
ดังนั้นขอแนะนำให้คุณเรียนรู้วัฒนธรรม และ Dress Code ต่างๆ ของงานนั้นๆ ที่คุณจะเดินทางไปเข้าร่วมไว้ก่อน อาจทำรายละเอียดล่วงหน้า เพื่อถึงเวลาจริงแล้ว คุณจะได้เลือกแต่งตัวได้อย่างเหมาะสมมากที่สุดครับ
นี่คือ 5 ข้อผิดพลาดที่เราอยากให้คุณปรับเพื่อจะได้กลายเป็นผู้ชายที่แต่งตัวดูดี เหมาะกับสถานการณ์ต่างๆ และสนใจในรายละเอียด ดั่งชื่อเว็ปของเราครับ MenDetails หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ