Suit Shops Series by ‘Huddersfield Textile’ | บทความซีรี่ส์ในการแนะนำร้านสูทสำหรับผู้ชายไทยที่นำเสนอโดยแบรนด์ผ้าสำหรับตัดเย็บสูทชื่อดังสั่งตรงจากเมืองฮัดเดอร์สฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ‘Huddersfield Textiles’ พบกับร้านสูทที่ทาง Huddersfield รวบรวมมาให้เราได้รู้จักกันได้แก่
‘612 Twelve’ กับ Classic Menswear ที่เป็นตัวเอง
‘Forchong’ ตำนาน Inhouse Tailor ที่หายากในร้านสูทของเมืองไทย
‘RAMS’ เพราะสูทที่ดี ควรตัดกับคนที่เรา “ไว้ใจ”
‘Sprezzatura Eleganza’ เพราะคำว่า ‘Suit’ คือความเหมาะสมของผู้ชาย
‘The Somchai’ ความสง่างามของสูท Bespoke ที่ตัดขึ้นเพื่อคุณคนเดียว
‘VVON SUGUNNASIL’ เข้าถึงและเข้าใจ ในสิ่งที่ผู้ชายไทยต้องการ
และ บทสัมภาษณ์พิเศษของ Jai Sachdev จาก Huddersfield Textiles ปิดท้าย Series นี้ครับ
ร้านสูท Sprezzatura Eleganza เริ่มต้นจากมิตรภาพของชายหนุ่ม 2 คน ที่หลงใหลและรักในการแต่งกายในสไตล์ Sartorial และ Classic Menswear ได้แก่ “คุณตั้ม” ชนิพล กุศลชาติธรรม และ “คุณเต้” นนทวิทย์ วิทยาวรากรณ์ จนตัดสินใจที่จะทำร้านสูทร้านนี้ขึ้นในปี 2015 ด้วยจุดมุ่งหมายที่อยากจะสร้างมาตรฐานใหม่ของชุดสูทที่ “ตอบโจทย์การใส่ในอากาศร้อนๆ ของเมืองไทย” เพื่อให้ผู้ชายไทยได้เข้าใจว่าชุดสูทที่ตัดเย็บด้วยเนื้อผ้าและกรรมวิธีที่เหมาะสม ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการแต่งตัวสำหรับเมืองไทยแต่อย่างใด
“ผู้ชายไทยความจริงแต่งตัวแบบ Layering กันเก่งนะครับ” คุณตั้มแสดงความคิดเห็นในเรื่องการแต่งกายของผู้ชายไทย “บางคนชอบเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์ บางคนก็ชอบแจ็กเก็ตทหาร สวมทับเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตสักตัว เท่านี้ก็ออกมาดูดีได้แล้ว แถมก็ไม่ได้ร้อนอะไรมากมายนักอีกด้วย” ทางด้านคุณเต้จึงเสริมเรื่องนี้ขึ้นว่า “เสื้อแจ็กเก็ตสูท หรือเสื้อเบลเซอร์ ก็สามารถทำหน้าที่นั้นได้เช่นกัน และ Sprezzatura Eleganza ก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ชายไทยมอง “สูท” เป็นเรื่องของ “ความเหมาะสม” มากกว่าจะเป็นการแต่งตัวโอเวอร์ หรือ “เยอะเกินไป” แบบที่ยังมีหลายคนมองกันอยู่ในปัจจุบันนี้”
คลับของคนชอบ “สูท”
หากเทียบกับร้านตัดสูททั่วไปที่อยากจะรีบวัด รีบตัดให้เสร็จทันที เพื่อที่จะได้เก็บตังค์เราไวขึ้น เปรียบไปก็เหมือนการซื้อข้าวกล่องไมโครเวฟตามร้านสะดวกซื้อ แต่ประสบการณ์ตัดสูทกับร้าน Sprezzatura Eleganza อาจไม่ใช่อะไรที่รวดเร็วได้แบบนั้น “พวกเราจะใช้เวลานานมากๆ สำหรับการสัมภาษณ์คนที่จะเข้ามาตัดสูทกับเราสักคนหนึ่ง บางครั้งเราแทบจะปิดร้านเพื่อนั่งคุยกับเขาเลยด้วยซ้ำไป” คุณตั้มย้ำเรื่องความเอาใจใส่กับการศึกษาสไตล์ส่วนตัวของผู้ชายที่จะเข้ามาตัดสูทกับเขา “เราจะเก็บข้อมูลแทบทุกอย่าง ตั้งแต่สไตล์ส่วนตัว อาหารที่เขาชอบกิน ถิ่นที่อยู่ เครื่องดื่มที่ชอบ แล้วจะกลั่นข้อมูลทั้งหมดจนออกมาเป็นสไตล์สูทที่เราทั้งหมดเห็นตรงกันว่าน่าจะเหมาะสมกับเขาที่สุด บางครั้งเราชวนเขากินข้าวเย็นด้วยกันเลยก็มี”
เมื่อมองมุมนี้ ร้านสูทอย่าง Sprezzatura Elenganza จึงเป็นเหมือน “คลับของคนชอบสูท” สำหรับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง “คนใส่” กับ “คนตัด” เป็นสำคัญ “เพราะเราเองก็รู้ดีว่าสูทชุดหนึ่งไม่ได้มีราคาแค่บาทสองบาท เราจึงควรให้สูทที่ตัดออกมาตรงใจและตรงความต้องการให้ได้มากที่สุด เสียเวลาแชร์ความคิดเห็นกันสักนิด จิบเครื่องดื่มเย็นๆสักหน่อย ร้านอื่นอาจจะรีบ แต่ร้านเราไม่รีบกับเรื่องการทำความเข้าใจลูกค้าคนใส่สูทครับ”
Neapolitan at Heart
เมื่อถามถึง ‘House Cut’ หรือสไตล์ส่วนตัวของร้าน Sprezzatura Eleganza คุณตั้มและคุณเต้มีคำอธิบายโดยย้อนไปยังความหมายของชื่อร้าน “คำว่า Sprezzatura มาจากภาษาอิตาเลี่ยนที่ใช้เรียกบุคลิกของผู้ชายแบบ “Effortlessly Cool” หรือการที่ผู้ชายดูดีมีสไตล์โดยที่ไม่ได้พยายามสุดตัวที่จะดูดีมีสไตล์ ดังนั้นสูทที่เป็นสไตล์ของ Sprezzatura Eleganza จึงมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า ไม่ดูตั้งใจที่จะใส่ออกมาให้โอเว่อร์หรือเคร่งครัดเกินไป”
“สไตล์ของพวกเราจึงออกมาใกล้เคียงกับชุดสูทในสไตล์นาโปลีหรือ Neapolitan มากกว่าที่จะเป็นสูทโครงสร้างแข็งแบบ British หรือตัวโคร่งๆ หน่อยแบบ American” คุณตั้มเสริมขึ้นเพื่ออธิบายลักษณะสูทของ Sprezzatura Eleganza “ไหล่สูทที่ลาดลงแบบไม่มีฟองน้ำหนุน, กระดุมสูทแบบ 3 Roll 2, ปลายไหล่สูทแบบกลม หรือ Spalla Camicia รวมทั้งซับในที่น้อยลงกว่าสูททั่วไป คือสไตล์ Neapolitan ที่พวกเราชอบเป็นการส่วนตัว เหมาะกับอากาศร้อนๆ ของเมืองไทย และเหมาะกับอุปนิสัยของคนไทยที่ไม่อยากให้ “สูท” ดูเคร่งเครียดเกินไป”
ระดับราคาที่สมเหตุสมผล
“สูทของเราเริ่มต้นที่ 13,000 บาท สำหรับผ้าวูลผสมจากประเทศในเอเชีย และเราจะเริ่มที่โครงสร้าง Half Canvas ขึ้นไปเท่านั้น” ณ จุดนี้ MenDetails แอบคิดว่าตัวเองหูฝาด จึงหยุดฟังคุณตั้มและคุณเต้อีกครั้ง เพื่อหาคำยืนยัน “ใช่แล้วครับ ร้านเราไม่มี Fused Suit เลย มีแต่ Half Canvas และระดับ Full Canvas ไปเลยเท่านั้นจริงๆ” นี่ถือเป็นนิมิตหมายที่ดียิ่งสำหรับผู้ชายไทย เพราะร้านสูทอย่าง Sprezzatura Eleganza ได้สร้างมาตรฐานของการตั้งราคาที่น่าสนใจมากๆ
ข้อมูลที่ผู้ชายที่กำลังจะตัดสูทควรรู้ก็คือ ร้านสูทในไทยส่วนใหญ่ชอบขายสูทแบบอัดกาว หรือ Fused Suit เพราะว่าตัดเย็บง่าย, ทำเสร็จไว, ไม่ต้องใช้ฝีมือการตัดเย็บด้วยมือมากนัก และที่สำคัญคือต้นทุนถูกจึงทำให้ขายได้กำไรดี แต่ Sprezzatura Eleganza เองไม่อยากให้ผู้ชายไทยติดอยู่กับมาตรฐานการตัดสูทแบบเดิมๆ “ในความคิดของเรา สูทที่ดีมีคุณภาพ อย่างน้อยที่สุดควรเริ่มต้นที่ระดับ Half Canvas เราจึงรื้อทิ้งความคิดแบบเดิมๆ แล้วกำจัด Fused Suit ออกไปจนหมด การเริ่มต้นที่ Half Canvas ในราคา 13,000 บาทจึงเป็นราคาที่สมเหตุสมผล และอาจจะประหยัดกว่า Fused Suit ของร้านสูทหลายๆ ร้านด้วยซ้ำไป”
และในระดับขั้นสูงสุดคือ Full Canvas หรือสูทที่มีชั้นหางม้าเย็บแบบเต็มตัวนั้น ร้านสูท Sprezzatura Eleganza จะแนะนำให้ใช้ผ้าสูทที่มีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิม อย่างผ้าวูล 100% (Virgin Wool) ที่ทอในประเทศอังกฤษทั้งหมดอย่าง Huddersfield Textiles ซึ่งคุณตั้มและคุณเต้กล่าวว่า “ไหนๆ จะไปให้สุดถึงระดับ Full Canvas แล้ว เราแนะนำให้ใช้ผ้าที่ดีมีคุณภาพดีกว่า โดยราคาของสูทแบบ Full Canvas จากผ้า Huddersfield เริ่มต้นที่ 27,000 บาท ซึ่งหากพิจารณากันตามตรงก็เป็นราคาที่เข้าขั้น “ประหยัด” สำหรับงานฝีมือที่ได้กลับมาครับ”
ความหมายของ Suit คือ “เหมาะสม”
“คนไทยเรามักมองว่า “สูท” เป็นชุดที่ยาก ใส่ลำบาก ใส่แล้วดูโอเว่อร์เกินไป” คุณเต้แสดงความเห็นขึ้นเมื่อเราถามว่าอยากฝากอะไรถึงผู้อ่าน MenDetails ที่กำลังอยากจะตัดสูทสักชุดใส่เป็นของตัวเอง “แต่เราทั้งสองคนเชื่อในทางตรงข้าม ความจริงแล้ว “สูท” เป็นอะไรที่ง่ายมาก เพราะคำว่า Suit ในภาษาอังกฤษแปลตรงตัวก็คือคำว่า “เหมาะสม” ชุดสูทจึงเป็นเครื่องแต่งกายของผู้ชายที่ “ถูกกาลเทศะ” บ่อยครั้งที่สุด ไม่ว่าจะเป็นงานไหน แบบใดก็ตาม”
“สำหรับ Sprezzatura Eleganza แล้วนั้น เราอยากทำชุดสูทที่ผู้ชายใส่แล้วไม่รู้สึกเขิน ใส่ไปได้ทุกที่ แม้แต่การชวนสาวออกไปกินข้าวข้างทาง เราก็สามารถใส่เสื้อแจ็กเก็ตสูทดีๆ ออกไปได้ โดยไม่รู้สึกว่าเราแต่งตัวเยอะเกินไป” คุณตั้มเสริมความคิดเห็นของตัวเองขึ้นมา “เพราะเราเชื่อว่า การให้เกียรติหรือเคารพผู้อื่นนั้นไม่มีคำว่า “มากเกินไป” ดังนั้นเมื่อผู้ชายแต่งกายอย่างเหมาะสม ให้เกียรติงาน และให้เกียรติสถานที่ที่เราไป มันจึงไม่มีคำว่า Overdressed หรือ แต่งตัวเยอะเกินไปเช่นกัน การให้เกียรติผู้อื่นโดยสะท้อนผ่านการแต่งกายที่เราเลือกใส่อย่าง “เหมาะสม” จึงเป็นความหมายของ Gentlemen’s Style สำหรับพวกเราครับ“
ในขณะที่เราสัมภาษณ์พวกเขาช่วงเดือนมีนาคมของปี 2019 ร้านสูท Sprezzatura Eleganza รับบริการตัดสูทแบบ Made to Measure ด้วยการนัดหมายเป็นรายบุคคล โดยสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 081-4314888 หรือที่ facebook fanpage : Sprezzatura Eleganza และ Instagram : Spezzatura_Eleganza MenDetails เชื่อว่าด้วยอัธยาศัย และความตั้งใจจริงของคุณตั้มและคุณเต้จะสามารถเปิดใจ และช่วยให้คำแนะนำจนทำให้คุณได้รับสูทในสไตล์ Neapolitan ที่ถูกใจ และสวมใส่ได้บ่อยเท่าที่เราต้องการ สมความตั้งใจของเจ้าของร้านทั้งสองคนแน่นอนครับ