ถ้าคุณเป็นเด็กยุค 90s จริงๆ แบรนด์หนึ่งที่ต้องผ่านหูผ่านตาจากสุดยอดนักเตะชาวอิตาลีที่มีชื่อว่า Roberto Baggio ที่ได้รับการ Sponsor จากแบรนด์อย่าง Diadora จนกลายเป็นแบรนด์ที่โด่งดังในยุค 90s เรื่อยมาจนเปลี่ยนโฉมหน้าไปเป็น Francesco Totti หรือแม้แต่ในลีคอังกฤษเองก็ดี นักเตะอย่าง Roy Keane ก็ใส่แบรนด์ Diadora เช่นเดียวกัน ว่าแต่ Diadora คือใคร ทำไมเราถึงไม่รู้จักหรือมักไม่ได้ยินชื่อของแบรนด์นี้เลยในตลาดรองเท้าบ้านเรา วันนี้ MDs ขอหยิบเอาประวัติเล็กๆ และรุ่นที่โด่งดังที่สุดของ Diadora มาให้ทุกท่านได้รู้จักกันนะครับ
เลือดอัซซูรี่ขนานแท้มากว่า 70 ปี
ประเทศอิตาลีนั้นถือเป็นประเทศด้านแฟชั่นและการแต่งตัว แบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายหลากหลายแบรนด์ก่อกำเนิดขึ้นที่นี่ ก่อนจะก้าวไปสู่เส้นทางระดับโลก ซึ่งมีแบรนด์ด้านรองเท้ากีฬาเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้น เกิดขึ้นและโด่งดังไปไกลถึงต่างแดน หนึ่งในนั้นก็คือ Diadora ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1948 แรกเริ่มเดิมที แบรนด์ Diadora นั้นไม่ได้ผลิตรองเท้าวิ่งนะครับ แต่เลือกผลิตรองเท้าเดินป่าเป็นหลัก จนเข้าสู่ปี 1960s แบรนด์ก็เริ่มผลิตไลน์สินค้าแนวกีฬามากขึ้นและถือเป็นแบรนด์รองเท้ากีฬาสายเลือดอัซซูรี่ที่เติบโตตีคู่มากับแบรนด์ Fila ได้อย่างดุเดือด
เข้าสู่ปี 1970s แบรนด์เริ่มพัฒนาต่อยอดความสำเร็จจากนักกีฬาระดับโลกที่คว้าแชมป์ต่างๆ มากมายอย่าง Guillermo Vilas / Martin Mulligan และ Björn Borg ซึ่งก้าวสำคัญที่สุดของแบรนด์ Diadora ก็คือการ Sponsor นักฟุตบอลระดับโลกต่างๆ มากมาย เช่น Francesco Totti / Roberto Baggio / Antonio Cassano และ Roy Keane จนกลายเป็นแบรนด์ที่เป็นที่จดจำมากที่สุดแบรนด์หนึ่งเลยก็ว่าได้
90s กำเนิดโมเดลในตำนานนามว่า N9000
โมเดลหนึ่งที่ขึ้นชื่อตลอดกาลตั้งแต่ยุคสมัยแรกเริ่มวางจำหน่ายเลยก็คือโมเดล N9000 โดยโมเดลดังกล่าวถือเป็นรองเท้า Trainer ที่มีทุกอย่างในแบบรองเท้ากีฬายุค 90s ควรจะมี ไม่ว่าจะเป็นผ้า Mesh Nylon / หนัง Suede และ หนังคุณภาพสูงมารวมกันอยู่ในคู่เดียว ซึ่ง N9000 นั้นมีการออกแบบมาเพื่อให้นักกีฬารู้สึก Stable มากที่สุดแต่ทั้งนี้ยังได้ Support ที่ดีเยี่ยม สำหรับนักกีฬาที่น้ำหนักไม่เกิน 80kg โดยตัว “N” หมายถึง ‘Neutral’ แถมสีรองเท้า OG นั้นก็มีสีสันที่โดดเด่นไม่ใช่เล่น จึงกลายเป็นโมเดลที่หลายๆ คนสนใจเป็นอย่างมาก
หลังจากที่โมเดล N9000 วางขายในตลาด สร้างกระแสได้ไม่นานนัก ความโด่งดังของตัวแบรนด์ Diadora ก็เริ่มลดน้อยถอยลงอย่างเห็นได้ชัด จนแบรนด์ต้องเริ่มปรับตัวกลับไปมุ่งเน้นถึงคุณภาพและมาตราฐานในแบบฉบับรองเท้าอิตาลี แน่นอนว่า โมเดลแรกที่เริ่มถูกนำกลับมาผลิตเพื่อตีตลาดอีกครั้งในปี 2014 ก็คือโมเดล N9000 นี่แหละ
N9000 คือสุดยอดโมเดล Collab จาก Diadora
เรียกได้ว่า N9000 คือโมเดลที่สร้างชื่อให้กับแบรนด์ Diadora จนกลับมาเป็นที่กล่าวถึง ณ ปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ กล่าวคือ ด้วยโมเดล N9000 ที่ทางแบรนด์เปิดให้มีการร่วมงานแบบ Collaboration ตั้งแต่ร้าน Multi-Brand อย่าง Patta ที่ Amsterdam รวมไปถึง Hanon และ 24Kilates ที่วางจำหน่ายในช่วงปี 2015 และพาให้แบรนด์ Diadora ทะยานขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของแบรนด์ Sneakers อีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์อีกมากมายต่อคิวรอร่วมงานกับ Diadora อย่างไม่ขาดสาย ตั้งแต่ CNCTPS / Colette / mita Sneakers และ Solebox ที่งานออกแบบของแต่ละแบรนด์นั้น มักเลือกสีสันที่สะดุดตา แปลกใหม่ แต่ Classic ได้อย่างลงตัว ส่วนงาน Collaboration ที่เป็นที่จดจำของ Diadora เลยก็คือ การร่วมงานระหว่างทางแบรนด์กับ Barcelona’s LimitEDitions ที่หยิบเอาสัญลักษณ์ต่างๆ ของ Catalan อย่าง “Castellers” และเลือกใช้วัสดุ Premium ที่สุดในการผลิตรองเท้าคู่นี้
แล้วจะซื้อได้ที่ไหน ในไทยที่ไหนขาย?
ต้องขอบอกตามตรงครับว่า ก่อนหน้านี้ MDs เคยเห็น Diadora มาวางขายที่ Siam Discovery ด้วยนะครับ เป็นตัว Heritage สีสันสวยงาม ออกแนว Used เล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งทำราคาได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว แต่ครั้งล่าสุดที่เราไปเดินดูนั้น “หาไม่เจอแล้วครับ” แต่ล่าสุด Diadora รุ่น N9000 ได้วางขายในไทยอีกครั้ง โดยครั้งนี้วางขายที่ร้าน V.A.C ครับ สนนราคาราวๆ คู่ละ 5,000.- (ถือว่าถูกราวกับหิ้วเข้ามาเองเลยก็ไม่ผิด) ดังนั้น ใครที่กำลังมองหารองเท้า Diadora N9000 III อยู่ ลองไปดูที่ร้าน V.A.C ที่ Siam Square ซอย 1 ได้เลยนะครับ
ไว้ถ้าเรามีโอกาส จะลองหยิบมาให้ดูกัน เพราะถือเป็นอีกรุ่นสาย Vintage ที่น่าสนใจด้วยรูปลักษณ์และสีสันที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับแบรนด์ที่เคยยิ่งใหญ่มากๆ ในยุค 90s ลองดูครับ ถ้าใครชอบสไตล์ Vintage Classic แนวนี้ รับรองว่าคุณต้องชอบ Diadora N9000 แน่นอน