ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิด แท้จริงแล้วนั้น “สีชมพู” คือสีประจำตัวของ เด็กชาย / ผู้ชาย นับตั้งแต่ช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 18 และแน่นอนว่า สีชมพู นั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับ เด็กสาว หรือ ผู้หญิง แต่อย่างใด วันนี้ MenDetails อยากจะมาไขข้อสงสัยดังกล่าว และอยากเชิญชวนให้ผู้ชายทุกท่าน หันมาลองสวมใส่เสื้อผ้าสีชมพูดูบ้าง เพราะถือเป็นสีที่น่าสนใจ แถมมีประวัติศาสตร์ที่คุณอาจคาดไม่ถึงด้วยเช่นเดียวกัน ว่าแล้วก็ ตามพวกเรามาได้เลยครับ
คริสต์ศตวรรษที่ 18 กับความหมายของสี ที่ไม่เหมือนปัจจุบัน
หากนึกถึงสีชมพู เราเชื่อว่า คุณเองอาจนึกถึง ตุ๊กตาบาร์บี้ / ของเล่นสำหรับเด็กผู้หญิง ที่วางขายอยู่ในท้องตลาด ณ ปัจจุบัน หากแต่ในช่วงยุค คริสต์ศตวรรษที่ 18 นั้น “สี” ไม่ได้ถูกหยิบมาเป็นเครื่องแบ่งแยกระหว่างชายหรือหญิงแต่อย่างใด เพราะในช่วงยุคสมัยดังกล่าว จะพบเห็นเด็กชายและเด็กหญิง เลือกแต่งตัวตามสีสันต่าง ๆ ทั้งสีชมพู / สีฟ้า และสีอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่มีการกำหนดตายตัวแต่อย่างใด หากแต่ “สีชมพู” นั้น มักถูกมองว่าเป็นสีที่มีความเข้มแข็ง แข็งแกร่ง และเชื่อมโยงกับเพศชายเสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นสีที่ใกล้กับสีแดงนั่นเอง เด็กผู้ชายในสังคมชนชั้นสูง จึงมักแต่งตัวด้วยสีชมพูมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย เมื่อโตขึ้นก็อาจเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง เพื่อให้เข้ากับความเป็นชายชาติทหารนั่นเอง
สีฟ้า กลับเป็นสีของเพศหญิง
ในยุคสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 นั้น สีฟ้า กลับถูกมองว่าเป็นสีของเพศหญิง เนื่องจากมีความเกี่ยวโยงกับเสื้อผ้าของพระแม่มารีย์ หรือ หญิงสาว ผู้ให้กำเนิดพระเยซู โดยความเชื่อดังกล่าว ถูกยึดโยงจากเสื้อผ้าที่พระแม่มารีย์เลือกสวมใส่ตามภาพเขียนต่าง ๆ ส่งผลให้ สีฟ้า กลายเป็นสีที่ถูกหยิบมาสวมใส่โดยสตรีเป็นส่วนมาก เรียกว่า สีสันต่าง ๆ ที่เราพบเห็นกันอยู่ ณ ปัจจุบันนั้น แตกต่างจากสมัยอดีตอย่างสิ้นเชิงเลยก็ว่าได้
ข้อกำหนดใหม่ เกิดจากการตลาด
ในช่วงยุค 1920s ถือเป็นยุคสมัยที่การตลาดเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่ง ในการกำหนดกฏเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้สินค้าบางอย่าง สามารถขายได้อย่างไร้ข้อกังขา และแน่นอน สิ่งเหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นในสหรัญอเมริกาเป็นที่แรก ซึ่งในช่วงแรก ยังมีความขัดแย้งกันระหว่างห้างสรรพสินค้า Best & Co. ซึ่งเลือกให้เด็กผู้ชายต้องสวมใส่เสื้อผ้าสีชมพู และเด็กผู้หญิงต้องใส่สีฟ้า ส่วน Macy’s กลับมองว่าเด็กผู้ชายควรสวมเสื้อสีฟ้า และเด็กผู้หญิงควรสวมเสื้อสีชมพู เรียกได้ว่าเป็นสงครามการตลาดอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเลยก็ว่าได้
มีความเชื่อลึก ๆ ว่า การแบ่งแยกสีสันดังกล่าวให้เข้ากับเพศสภาพนั้น ถูกชักจูงโดยเศรษฐีผู้ร่ำรวยอย่าง Henry Huntington เพราะเขาชื่นชอบและกำหนดให้สีชมพูคือสีของเด็กผู้หญิงเสมอ และมีการตั้งชื่อให้ด้วยครับว่า Pinkie ส่วนเด็กผู้ชาย จะถูกเรียกว่า The Blue Boy นั่นเอง
ด้วยอำนาจของการตลาด และความเชื่อของผู้ที่มีอำนาจ ทำให้ “สี” ถูกยึดโยงไปกับเพศสภาพอย่างไม่ทันตั้งตัว ซึ่งถ้าเราลองมองย้อนกลับไปในช่วงยุคสมัยอดีต เด็กผู้ชาย หรือ เด็กผู้หญิง ต่างก็เลือกสวมใส่ได้ทุกสี ไม่ว่าจะชมพู หรือ ฟ้า รวมไปถึงสีสันอื่น ๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนั้น ๆ ทว่า สีชมพู มีความยึดโยงกับ ผู้ชาย มากกว่าผู้หญิงอยู่บ้างนั่นเอง
เริ่มต้นด้วย เสื้อเชิ้ต สักตัวหนึ่ง
เครื่องแต่งกายสีชมพูชิ้นแรกที่เราอยากแนะนำให้ทุกท่านลองเลือกซื้อมาสวมใส่ น่าจะเริ่มต้นด้วย เสื้อเชิ้ต ดี ๆ สักตัวหนึ่งครับ เนื่องจากสีชมพูนั้น ถือเป็นสีที่มีความน่าสนใจ ดูอ่อนโยน แต่มาพร้อมความมั่นใจในสีเดียวกัน สวมเสื้อเชิ้ตสีชมพู แล้วลองสวมใส่เสื้อ Sport Jacket ทับเป็น Layering อีกสักตัว ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับ Outfit ได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องจำเจกับเสื้อเชิ้ตขาวตลอดเวลา และแน่นอนว่า สีชมพูนั้นสามารถจับคู่ได้เกือบทุกสีเลยทีเดียว เนื่องจากมีความ Pastel ค่อนข้างสูงและยังช่วยให้คุณดูเป็นคนสะอาด แถมเป็นสีที่ดูแลรักษาง่ายอีกด้วยครับ
หากให้ MenDetails แนะนำเสื้อเชิ้ตสีชมพูตัวแรกสำหรับผู้ชายไว้สวมใส่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถหยิบมาจับคู่ได้หลากหลาย และมีรายละเอียดที่น่าสนใจ คงหนีไม่พ้นเสื้อเชิ้ตลายทาง หรือ Stripes สีชมพูสลับขาว จะด้วยเนื้อผ้าแบบ Poplin หรือ Oxford ก็ได้ครับ แนะนำเป็นลายทางเพราะจะสว่างมากขึ้นเมื่อดูจากระยะไกล แต่เมื่อมองเข้ามาใกล้ ๆ จะพบลายทางที่น่าสนใจ แถมสามารถจับคู่กับกางเกงได้หลากหลายอีกด้วย
ใครกำลังมองหาเสื้อผ้าที่มีสีชมพูเป็นองค์ประกอบหลัก ลองมองหาเสื้อเชิ้ตลายทางดูก่อนได้ครับ สวมใส่ง่าย แถมมีรายละเอียดในระยะมองที่แตกต่าง โดยเฉพาะบนตัวผ้า Oxford ที่ลายทอค่อนข้างห่างสักหน่อย สามารถสร้างความน่าสนใจให้กับ Outfit ของคุณได้ดีแน่นอนครับ
เสื้อเชิ้ตวันนี้ที่เราหยิบมาคือ เสื้อเชิ้ตจาก Kamakura Shirts สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน The Decorum Bangkok ได้เลยครับผม ข้อดีคือเป็น Ready To Wear คุณภาพสูง ตัดเย็บในญี่ปุ่น กับเอกลักษณ์ปก Button Down ที่โค้งสวยงามเป็นพิเศษ แนะนำให้ไปลองกันดูได้นะครับ