ในสมัยก่อนนั้น เสื้อผ้าที่นิยมนำมาใส่ช่วงหน้าหนาวของในยุโรปนั้น มักจะมีเสื้อผ้าที่ทอด้วยขนสัตว์ลายตาราง ที่เราเรียกกันว่า Plaid / Tartan ซึ่งมักจะทอออกมาเป็นลายตารางเสียเป็นส่วนใหญ่ และอีกหนึ่งชนิดที่มักอยู่ในส่วนของ Mid-Layer (อ่านวิธีการ Layering เสื้อผ้าหน้าหนาวได้ที่นี่) ก็จะจบลงที่ผ้า Fleece เป็นหลัก แต่คุณพอจะทราบหรือไม่ครับว่า ผ้า Fleece ที่โฆษณากันทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น มีกี่แบบ มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ วันนี้เรามีคำตอบมาให้ครับ
มีรากศัพท์มาจาก Fleos และ Flies
คำศัพท์ในภาษาอังกฤษโบราณอย่าง Fleos และ Flies นั้น มีความหมายคือ ผ้าขนสัตว์ หรือผิวของแมวน้ำ แต่พอเป็นคำว่า Fleece แล้ว หมายถึงขนบนตัวแกะเป็นหลัก และมีหลากหลายลักษณะด้วยกัน กล่าวคือ ถ้าคุณพูดถึงผ้า Fleece มันไม่ได้มีเพียง 1 แบบ แต่มีมากถึง 7 แบบเลยทีเดียว
ผ้า Fleece มีด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ ผ้าที่ผลิตจากขนสัตว์แท้ๆ และผ้าที่ผลิตด้วยใยสังเคราะห์ ซึ่งทั้ง 2 ประเภท สามารถเติมเส้นใย Cotton เข้ามาได้ด้วย
Fleece แตกต่างจาก Flannel นะครับ
ณ ปัจจุบัน ผ้า Flannel คือผ้าที่ผลิตจากเส้นใย Cotton เส้นใหญ่ แล้วนำมาตีฟูต่อเพื่อเพิ่มความอบอุ่นครับ ส่วน Fleece ในปัจจุบันนี้นั้น มักนิยามถึงผ้าที่ผลิตจากเส้นใย Polyester เส้นใหญ่ที่นำมาถักแล้วตีฟูขึ้น ซึ่งมักมีคุณสมบัติกันความร้อนออกจากตัวได้ดีเยี่ยม หรืออาจจะเรียกว่า มีความใกล้เคียงกันมากๆ ครับ แต่มีความแตกต่างตรงเส้นใยที่นำมาผลิต และความหนาแน่นในการทอออกมาเป็นผืนนั่นเอง
ประเภทของผ้า Fleece มีดังต่อไปนี้ครับ
- Micro Fleece : คือผ้าชนิดบางและมักตีฟูขึ้นทั้ง 2 ด้านของตัวผ้า มีความนุ่มสูง และไม่ระคายผิว
- Polyester Fleece : ตรงไปตรงมาครับ ตัวผ้าจะผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการกักเก็บความร้อนได้ดี ราคาถูกกว่าเส้นใยชนิดอื่นๆ
- Cotton Fleece : เป็นอีกหนึ่งวัสดุยอดนิยมครับ มักนำมาใช้ผลิตเป็นเสื้อ Sweater / Hooddie ตีฟูด้านทั้งด้านใดด้านหนึ่งเป็นหลัก
- French Terry Fleece : เอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัดของ French Terry Fleece คือลวดลายด้านในที่จะเป็นการถัก (ด้านนอกจะเป็นผิวเรียบ ด้านในเป็นลายถัก) ไม่ตีฟู และมีความหนามากกว่าเสื้อยืด มักพบเห็นได้บ่อยมากกับเสื้อ Sweater ครับ
- Lycra-Spandex Fleece : มักพบมากในเสื้อผ้า Performance ของผู้หญิงครับ ด้วยความยืดหยุ่นที่ยอดเยี่ยม และมีความหนาในตัว
- Sherpa Fleece : เป็นเส้นใยขนสัตว์หรือเส้นใย Polyester ก็ได้ครับ แต่จะทำเลียนแบบขนแกะ มีความหนาและนุ่มเป็นพิเศษ มักพบเป็น Lining ในเสื้อ Jacket
- Coral Fleece : ถือเป็นผ้า Fleece ยอดนิยม ของหลายๆ บริษัทครับ เพราะผ้าไม่ได้หนาเกินไปจนไม่สบายตัว แต่ให้ความอุ่นได้มาก
ไม่ว่าจะเป็นผ้า Fleece แบบใดก็ตาม ลักษณะเด่นของ Fleece คือกักเก็บความอบอุ่นได้ดี และเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นเสื้อผ้าชั้น Mid-Layer หากคุณไม่อยากแต่งตัวด้วย Jacket ขนเป็ดตลอดเวลา
Fleece Jacket ตัวเดียว ลุยต่างประเทศได้เลยมั้ย
คำตอบที่ดีที่สุดคือ ไม่ เนื่องจาก Fleece Jacket แค่ช่วยเก็บความอบอุ่นครับ แต่ไม่สามารถกันลม กันฝนได้ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นต่อจาก Fleece Jacket เลยก็คือ เสื้อตัวนอกที่มีคุณสมบัติกันน้ำ กันลม นั่นเอง แต่ถ้าคุณเดินทางแบบชิลๆ ไม่ได้เดินอยู่ภายนอกอาคารตลอด หรือมียานพาหนะส่วนตัว การมี Fleece Jacket ใส่อยู่ตลอด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ และเป็นตัวเลือกแรกๆ หากจะต้องติดเสื้อสักตัวใส่ขึ้นเครื่องบินอีกด้วย
หนึ่งในเสื้อ Fleece Jacket ที่เราชื่นชอบที่สุด ต้องขอยกให้ Fleece Jacket จาก Columbia เลยครับ เพราะครั้งหนึ่ง เราเคยพกติดไปร่วม Road Trip จาก Highland ลงมาสู่ London บอกเลยว่า Columbia Titanium Fleece Jacket คือดีงาม ใส่ลงจากรถไปเติมน้ำมันได้สบายๆ
แต่เนื่องจาก Columbia Titanium Fleece Jacket ส่วนใหญ่นั้น เป็นเสื้อที่ไม่ค่อยมีสีสันสักเท่าไรนัก หากต้องการสีสันสักหน่อย ก็หันมาหา Fleece Jacket ตัวปกติครับ อาจทนความหนาวได้ไม่เท่า แต่ดีพอกันแน่ๆ ซึ่งหากใครสนใจ อยากหาซื้อเสื้อที่ผลิตจากผ้า Fleece แนะนำให้ลองไปเดินดูได้ที่ร้าน Columbia Sportwear ดูครับ ที่นี่มีของดีเจ๋งๆ ให้เลือกซื้อเยอะ ตั้งแต่ Omni-Heat / Omni-Wick / Omni-Shade และอื่นๆ อีกมากมาย