สิ่งที่มีค่าที่สุด สิ่งหนึ่งบนโลกในนี้เลยก็คือ “เวลา” เพราะเป็นสิ่งที่เราครอบครองไว้ไม่ได้ มีไว้ใช้ได้เพียงอย่างเดียว และไม่สามารถนำกลับมาใช้ไม่ได้ เสียแล้ว เสียไปเลย “เวลา” จึงถือเป็นเรื่องใหญ่เสมอ และมักเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่หยิบมายึดโยงต่อการเลือกลงทุนใด ๆ ก็ตามบนโลกใบนี้ เช่น กองทุน / หุ้นกู้ / สลากออมสิน เป็นต้น แต่น้อยคนที่จะหยิบเอาเงื่อนไขเรื่อง เวลา มาเป็นองค์ประกอบในการ เลือกซื้อ ของ หรือ เสื้อผ้า สักชิ้นหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่หลาย ๆ ท่านหลงลืมไปบ้างในบางโอกาส วันนี้ MenDetails จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ “เวลา” กับการเลือกซื้อเสื้อผ้ากันครับ
Cost per Wear
Cost per Wear หรือค่าใช้จ่ายต่อการใส่ 1 ครั้ง คืออีกหนึ่งปัจจัยที่มักหยิบเงื่อนไขเรื่อง “เวลา” มาเป็นจุดชี้วัด โดยถือเป็นวิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายให้เห็นจุดคุ้มค่าที่สำคัญ นั่นคือ จำนวนครั้งที่เราสามารถหยิบมาใส่ได้ ต่อระยะเวลา Life Circle ของของชิ้นนั้น ๆ กล่าวคือ ถ้าคุณเองเลือกซื้อของคุณภาพดี ราคาสูง แต่สามารถใส่ได้บ่อย ๆ ใช้ได้นาน ๆ และอยู่กับคุณไปได้หลายปี จำนวนครั้งที่คุณใส่ต่อค่าใช้จ่ายของ “สิ่งของ” ชิ้นนั้น ๆ อาจมีมูลค่าที่ต่ำมาก ๆ ก็เป็นได้ ยกตัวอย่างเช่น รองเท้าหนังคุณภาพสูง 1 คู่ที่ราคาอาจพุ่งสูงไปถึง 10k แต่หากคุณสามารถหยิบมาใช้งานได้บ่อยและอยู่กับคุณได้เกิน 5 ปีขึ้นไป จำนวนครั้งที่ใส่และราคาที่จ่ายต่อปี จะลดเหลือเพียงไม่กี่สิบบาทต่อครั้ง (หากใช้งานบ่อยนะครับ)
แต่หากลองคิดในมุมที่กลับกัน ไม่ว่าของชิ้นนั้น ๆ จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 200.- หรือ 2,000.- หากคุณไม่มีโอกาสให้หยิบเอามาใส่เลย เราเชื่อว่าของชิ้นนั้นย่อมมีมูลค่าที่สูงกว่ามาก เพราะ Cost per Wear อาจพุ่งไปไกล เนื่องจากคุณไม่ได้หยิบมันออกมาใช้งานนั่นเอง
ระยะเวลาในการใช้งานจริง มีผลเช่นกัน
หากกล่าวถึงสิ่งของ หรือ เสื้อผ้า ทุกสิ่งย่อมมีระยะเวลาในการใช้งานอยู่เสมอครับ ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์เอง ก็มีช่วงระยะเวลาในการใช้งานอยู่ประมาณหนึ่ง ถึงระยะก็จำเป็นต้องเข้าซ่อมบำรุง หากไม่ดูแลรักษา รถยนต์คันดังกล่าวก็อาจจะหมดสภาพและไร้ค่าไปในที่สุด ซึ่งก็ไม่ต่างกับเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเช่นเดียวกัน หากจะกล่าวให้เห็นชัดที่สุด คงต้องยกตัวอย่างรองเท้าผ้าใบที่ทีมงาน MenDetails เองอยู่ หากไม่ได้หยิบออกมาใส่ หรือเอาออกจากกล่องมาใช้งาน Midsole ในบางรุ่นก็อาจจะแตกเป็นผงเลยก็เป็นได้ ดังนั้น ระยะเวลาในการใช้งานจริง มีผลต่อการเลือกซื้อนะครับ หากรองเท้าคู่หนึ่ง มีระยะเวลาในการใช้งานยาวนานถึง 10 ปีเป็นอย่างน้อย การจ่ายเงินปีละ 2,000.- ก็ดูจะคุ้มค่ากว่าการเลือกซื้อรองเท้าที่ต้องซื้อใหม่ทุกปี เช่นเดียวกับเสื้อผ้า หากการซื้อมาใช้งานนั้น ตามกระแสได้เพียง 1-2 ปี มูลค่าที่แท้จริงก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปในที่สุด
เวลาที่เราเสียไปในการศึกษาหาข้อมูล คือต้นทุนที่มองไม่เห็น
ใช่ครับ การเลือกที่จะเข้ามานั่งอ่านบทความนี้ก็เช่นกัน มันคือต้นทุนอย่างหนึ่งในชีวิต ที่เราแลกเวลาอันมีค่าของเรา ศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ มากมาย เพื่อมาประกอบการตัดสินใจในการ เลือกซื้อ เสื้อผ้า ของเราสักชิ้น ไม่ว่าของเหล่านั้นจะเป็นเสื้อผ้าแนวใดก็ตาม ทุกคนจำเป็นต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ และศึกษาให้แน่ใจเสียก่อนว่า เราเลือกซื้อไม่ผิด ซึ่งมันคือต้นทุนด้านเวลาที่คุณสูญเสียไปในทุกครั้งที่คุณอยากได้ของสักชิ้นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ / บ้าน / คอนโด / ที่ดิน ดังนั้นการเลือกใช้ “เวลา” ซึ่งเป็น “ต้นทุน” ในทิศทางที่เหมาะสม อาจช่วยให้การตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าเป็นไปในทิศทางที่คุ้มค่าในทุกวินาที
ในทางกลับกัน “เวลา” ก็ช่วยกล่อมเกลาเราด้วยเช่นกัน
คุณค่าของ “เวลา” เอง ก็มาตามอายุที่เปลี่ยนแปลงของเราด้วยนะครับ ส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่า หลาย ๆ ท่านย่อมต้องผ่านการเลือกซื้อเสื้อผ้าตามกระแสมาก่อนเป็นแน่แท้ เฉกเช่นตัวผู้เขียนที่ครั้งหนึ่งก็เคยซื้อของตามเพื่อน แต่งตัวต่างกระแสด้วยเช่นกัน และแน่นอนครับว่า มันคือสนุก และการได้เป็นที่ยอมรับ ณ ช่วงเวลานั้น ๆ ทว่า เราจะเริ่มรู้จักคุณค่าดังกล่าว เมื่อ “เวลา” หมุนเวียนผ่านไปอย่างช้า ๆ การปล่อยให้ตัวเองตามกระแสดูบ้าง แต่งตัวตามคนอื่นดูบ้าง เป็นเรื่องดีครับ แต่อาจต้องนำกลับมาพิจารณาสักหน่อย หลังจากช่วงเวลานั้นผ่านไปว่า สิ่งที่เราเลือกแต่งตัวนั้น เป็นสไตล์ที่เราชื่นชอบจริงหรือไม่
แต่มันจะสูญเปล่ามาก หากคุณไม่ได้กลับมาย้อนดูเรื่องราวในอดีตของตัวคุณเอง และทำความเข้าใจกับช่วงเวลานั้น ๆ เพราะในที่สุด กระแสรอบตัวก็จะค่อย ๆ กลืนความเป็นตัวตนของคุณไปจนหมดสิ้น แต่ถ้าการได้ลองผิดลองถูก / ตามกระแสบ้างในบางโอกาส ช่วยทำให้คุณค้นหาสไตล์ของที่ตัวเองที่ชื่นชอบได้จริง ก็คือว่าคุณเองได้ใช้ “เวลา” ไปอย่างคุ้มค่า ดังนั้นในทุก ๆ ปี ควรลองถอยตัวเองออกมาสักหน่อย แล้วพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่า อะไรคือสิ่งที่หยิบมาแต่งตัวแล้ว เป็นคุณมากที่สุด
นี่คือคุณค่าของ “เวลา” ที่หลาย ๆ ท่านอาจหลงลืมไปบ้างในบางครั้งบางคราว ซึ่งไม่ได้จำเพาะเจาะจงถึงสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง หากแต่เป็นการพูดถึงภาพรวมของการเลือกซื้อเสื้อผ้า เพราะถ้าคุณเองเป็นคนชอบใส่รองเท้า Sneakers เป็นชีวิตจิตใจ การเลือกซื้อรองเท้าหนังราคาแพงแล้วไม่ได้หยิบออกมาใช้งานเลยสักครั้งเดียว ก็ดูจะเป็นมูลค่า Cost per Wear ที่แสนจะสิ้นเปลืองเช่นกันครับ
หวังว่าบทความนี้ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และปรับให้ทัศนคติเกี่ยวกับการเลือกซื้อเสื้อผ้า ถูกจัดระเบียบให้แน่นแน่มากขึ้น มีเหตุผลที่ชัดเจน และกล้าที่จะจ่ายในสิ่งที่เหมาะสมมากขึ้นด้วยเช่นกันครับ