Please Click HERE for this article in ENGLISH
หากคุณได้อ่านบทความเกี่ยวกับ ร้าน Sartorial บนเกาะฮ่องกง ก่อนหน้านี้ หนึ่งในร้านที่เราแนะนำก็คือร้าน Prologue ร้านสูทที่อ้างอิงสไตล์มาจากฝั่งอิตาลี โดยดึงเอาความงามจากทั้ง Florentine และ Neapolitan มามัดรวมในรูปแบบ House Cut ที่ไม่เหมือนใคร และหลังจากที่เริ่มต้นวัดตัว สั่งตัด และปรับแต่งจนสมบูรณ์แล้ว นี่คือชุดสูทจาก Prologue ที่เราอยากหยิบมาให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ ผ่านบทความ รีวิว สูท Prologue ในครั้งนี้ครับ
Semi-Bespoke ในแบบฉบับของ Prologue
คำว่า Semi-Bespoke อาจไม่ค่อยเป็นที่คุ้นหูสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากร้านสูทส่วนใหญ่ในไทย มักนิยมสั่งตัดแบบ MTM (Made To Measure) หรือเป็นการวัดตัวตามสรีระของลูกค้าแล้วจึงตัดชุดสูทออกมาให้พอดีกับสัดส่วนนั้น ๆ แต่สำหรับ Prologue แล้ว กระบวนการ Semi Bespoke จะเพิ่มเติมเรื่องของความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นจุดบกพร่องของร่างกายมนุษย์ซึ่งทุก ๆ คนย่อมมีอยู่ภายในตัวเอง เช่น ช่วงไหล่ที่สูงต่ำไม่เท่ากัน หรือช่วงขาของผู้สวมใส่ที่อาจบิดเข้าหรือบิดออกไม่เท่ากัน เป็นต้น การมองเห็นถึงข้อบกพร่องเหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปรับแต่งให้ชุดสูท “เข้ารูป” กับผู้สวมใส่ได้อย่างเนียนตา มากกว่าเพียงแค่วัดขนาดแล้วตัดไปตรง ๆ แบบ MTM
เมื่อเป็น Semi Bespoke ข้อดีอย่างหนึ่งคือเรื่องรายละเอียดที่ใส่ใจมากขึ้น แต่ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างการสั่งตัดจากต่างประเทศ ซึ่งผู้สั่งตัดอาจไม่มีระยะเวลาที่เหลือเฟือและเพียงพอในการลองตัว (Fitting) โดยสิ่งที่ทางร้าน Prologue แนะนำเรามาก็คือ ให้ทางเราจัดส่งเสื้อสูทที่ใส่แล้วพอดีมาให้ทางร้านก่อนล่วงหน้า หลังจากนั้นทางร้านจะขึ้นโครงผ้ารอเอาไว้เพื่อให้เป็น First Fitting ได้เลยในวันที่เราเดินทางถึงฮ่องกงตามกำหนด
อย่างไรก็ดีวิธีที่เราเลือกส่งเสื้อสูทไปก่อนแบบนี้ ไม่ได้ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทางที่ดีกว่าก็คือการได้ลอง Fitting กับที่ร้าน Prologueให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราจึงแนะนำสำหรับคนที่บินไปลงฮ่องกงเป็นประจำ และสนใจตัดสูทกับ Prologueให้ไปลองวัดตัวที่ร้าน ต่อด้วย Fitting ตามลำดับในระยะเวลาห่างกันราว 4 อาทิตย์ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณมีเวลาไม่พอจริง ๆ การไปลอง Fitting เพียงครั้งเดียว แล้วรอชุดสูทที่สำเร็จเรียบร้อยส่งมาถึงบ้าน (แบบที่ MenDetails นำมารีวิวนี้) ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ “พอไหว” ครับ
เริ่มต้นด้วยการเลือกผ้า
สีของชุดสูท ที่เราเลือกในครั้งนี้จะแตกต่างจากสีพื้นฐานที่หลายๆ ท่านมักนิยมสั่งตัดกัน เนื่องจากเราเลือกเป็นสีน้ำตาลเข้มช็อกโกแลต (Chocolate Brown) จากโรงทอ Holland & Sherry “Crispaire” 100% Wool Worsted ซึ่งถือเป็นผ้าที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ตัวหนึ่งจากโรงงานแห่งเกาะอังกฤษ ด้วยเนื้อผ้าโปร่งเบา และยับยาก ทำให้เหมาะกับสภาพภูมิกากาศของเมืองไทย และสาเหตุที่เราเลือกสีน้ำตาลเข้ม ๆ เนื่องจากว่า สีน้ำตาลแบบนี้นั้นสามารถใส่สลับกับสีน้ำเงินได้อย่างน่าสนใจ เราเลยตัดสินใจไม่ยากเลยครับ
หลังจากเลือกผ้าแล้ว ก็เป็นช่วง Fitting ครับ ทางร้านจะนำเอาโครงมาให้เราลองใส่ดู และจะปรับแก้จุดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ได้ทรงที่สวยงามที่สุด ที่เราเห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ กางเกงครับ เนื่องจากขาของเรานั้นหุบเข้านิดๆ ทำให้กางเกงทั่วไป เวลาใส่จะเหลือผ้าด้านในช่วงต้นขา ซึ่งที่นี่สังเกตเห็นและ Remark ไว้แทบจะทันทีหลังจากเราลองกางเกง
เมื่อลองโครงสูทเรียบร้อยแล้ว ทางร้านจะใช้เวลาราว 1-2 เดือนในการตัดเย็บชุด เมื่อเสร็จแล้วจะมีการ Fitting อีกครั้งเป็นครั้งที่สองเพื่อเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตกหล่น แต่ถ้าหากเราไม่สามารถไปลองตัวในครั้งที่สองได้ ทางร้านก็จะตัดเย็บจนเสร็จตาม First Fitting แล้วจึงนำส่งให้เราทันที โดยการจัดส่งมาถึงเมืองไทยก็ถือว่าเร็วพอสมควร ใช้ระยะเวลาประมาณ 5 วันก็ถึงมือเราแล้วครับ (นับตั้งแต่วันแรกที่ส่ง)
A great Suit with some comments
เนื่องจากไม่ได้ลอง Fitting ในครั้งที่ 2 ทำให้การรับชุดครั้งนี้เหมือนต้องพนันสักหน่อยว่าทางร้านจะตัดออกมาได้เนี้ยบสักเพียงใด ซึ่งรายละเอียดหลักๆ ของตัวเสื้อสูท ที่ Prologue เรียกว่าเป็น House Style (สไตล์เฉพาะของร้าน) ได้แก่ ชั้นแคนวาสหางม้าเต็มตัว (Full-Canvas) งานเย็บแบบดำน้ำ (Pick Stitching) ปกแบบ Notch Lapel ขนาด 4 นิ้ว, กระดุมสูทแบบ 3 กระดุมม้วนเป็น 2 (3 Roll 2) และ กระเป๋าสูท Jetted Pocket ซึ่งทั้งหมดถือว่าทำออกมาได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะช่วงปกเสื้อที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และช่วงไหล่ที่ตัดเย็บมาลาดเอียงสวยงาม ไม่มีการเสริมฟองน้ำหนา ๆ แต่เนื่องจากไหล่ซ้ายของเราต่ำกว่าไหล่ขวาเล็กน้อย ทำให้ทาง Prologue เสริมบ่ามาให้เล็กน้อยเท่านั้นที่ไหล่ซ้าย ซึ่งการแก้ไขปัญหาในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้นี่เองคือตัวอย่างของสิ่งที่ Semi-Bespoke จาก Prologue สามารถทำให้คุณได้
สิ่งที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจมากที่สุดเลยก็คือ ‘กางเกง’ เราคิดว่า กางเกงจาก Prologue นั้น ตัดออกมาได้ลงตัวแบบสุด ๆ ตั้งแต่ช่วงขาที่ทิ้งตัวตรงสวยงาม ไปจนถึงรายละเอียดที่เก็บมาได้อย่างดีอย่าง จีบหน้า 2 จีบ (Double Pleated) กับทรงเอวสูง (High Waist) และ แถบคาดเอวที่ยาวเป็นพิเศษ (Extended Front Button) อีกทั้งเราตัดสินใจตัดเอาแถบปรับขนาดเอว (Side Adjusters) ออกไป เพื่อความเนี้ยบที่เพิ่มขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดีมีรายละเอียดการตัดเย็บเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจไม่เนี้ยบ 100% (Compromises) ซึ่งก็มีสาเหตุหลักมาจากที่ เราไม่ได้ไปลองตัวครั้งที่ 2 นั่นเอง ทำให้ช่วงไหล่ขวามีรอยย่นอยู่บ้างเล็กน้อย ซึ่งถ้าหากคุณได้มีโอกาสตัดสูทกับ Prologue และเดินทางไปลองตัว (Fitting) อีกครั้งหนึ่ง ทาง Prologue ก็สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้อย่างง่ายดายอยู่แล้วครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษก็คือ ชั้นแคนวาสหางม้า (Canvas) ที่ทางร้าน Prologue ตัดเย็บแบบเต็มตัว (Full Canvas) และปรับแต่งจนกลายเป็น Canvas ที่ไม่หนาหรือบางจนเกินไป ใส่แล้วรู้สึกได้ทันทีว่าตัวเสื้อสูทนั้นมีโครงสร้างที่โอบรับกับร่างกาย ขณะเดียวกันก็มีน้ำหนักเบา และทำให้เราขยับตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ตัวเสื้อมีความผสมผสาน สไตล์ Neapolitan แฝงกลิ่นอายของ สูทสไตล์ Florentine ที่เพิ่มความเป็นทางการมากขึ้นเล็กน้อย สามารถใส่ไปออกงานทางการหรือติดต่อธุรกิจได้เช่นกัน หากบริษัทหรือวัฒนธรรมการทำงานในธุรกิจของคุณนั้นไม่เคร่งครัดให้ใส่เพียงสูทสีเทากับสีกรมท่าแล้ว สูทสีน้ำตาลแบบนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและไม่ซ้ำซากจำเจ
ด้วยสไตล์ที่กลมกลืนระหว่าง Classic กับ Casual ทำให้สูทตัวนี้จาก Prologue ในฮ่องกง กลายเป็นชุดโปรดของเราได้ไม่ยาก รวมถึงสีน้ำตาลเข้มแบบนี้ถือเป็นสีที่น่าสนใจและใช้งานได้หลากหลาย จะหยิบจับเฉพาะตัวแจ็กเก็ตมาใส่คู่กับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม หรือกางเกง Dress Trousers สีเทาหรือสีกรมท่า ก็ดูลงตัว หรือจะแยกเอากางเกงไปใส่กับเสื้อเชิ้ตสีขาวหรือเสื้อเชิ้ตเดนิมสีฟ้าก็เข้าท่าเช่นกัน และเราเชื่ออย่างยิ่งว่า ยิ่งใส่บ่อยเท่าไร ตัวเสื้อก็จะยิ่งเข้ารูปกับร่างกายของเรามากขึ้นเท่านั้น ด้วยโครงสร้างแบบแคนวาสหางม้าเต็มตัว (Full Floating Canvas) ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของงานสูทคุณภาพสูง
Please Click HERE for this article in ENGLISH
สำหรับใครที่อ่าน รีวิว สูท Prologue ฉบับนี้แล้วอยากลองตัดสูทกับเขา สามารถติดต่อ Prologue โดยตรงได้เลย ซึ่งราคาของชุดสูทจะเริ่มต้นที่ราคาประมาณ $7,500 HKD หรือราว ๆ 30,000 บาท ถือเป็นราคาที่ประหยัดมากเมื่อเทียบกับคุณภาพและรายละเอียดแบบที่เราได้อธิบายมาทั้งหมด คำแนะนำของเราคือการได้มีโอกาสลอง Fitting ครั้งที่สองกับทาง Prologue จะช่วยทำให้ชุดสูทที่ออกมานั้น “เนี้ยบ” และ “เป๊ะ” มากยิ่งขึ้น สูทของ Prologue จึงเหมาะมากกับใครก็ตามที่เดินทางไปฮ่องกงเป็นประจำอยู่แล้ว MenDetails เชื่อว่าสูทจาก Prologue จะช่วยเปิดหูเปิดตาให้ผู้ชายได้รู้ว่าสูทที่มีคุณภาพและสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติจริง ๆ นั้นเป็นอย่างไร ในราคาที่ประหยัดกว่าพอสมควรเมื่อเทียบกับคุณภาพของ “ผ้าสูท”ในระดับเดียวกันครับ