สำหรับร้าน COLLER จากฮ่องกง ทีมงาน MenDetails เคยได้มีโอกาสนั่งสัมภาษณ์ถึงที่มาที่ไป กับสไตล์ที่ทางร้านชื่นชอบเป็นพิเศษ ซึ่งแน่นอนว่า ด้านสภาพอากาศ และความชื้นที่มีคล้ายคลึงกับบ้านเราในบางฤดู ทำให้ COLLER มุ่งเน้นการตัดเย็บในแนว Neapolitan Style มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทว่า สิ่งที่ผลักให้พวกเขาเริ่มต้นสร้างห้องเสื้อ COLLER ยังคงไม่หายไปไหนครับ นั่นก็คือโครงสร้างสไตล์ Florentine Cut ซึ่งถูกปรับอย่างลงตัวมากขึ้นตามกาลเวลา วันนี้ MenDetails ขอพาทุกท่านไปค้นหา และแนะนำให้รู้จักมากขึ้น กับห้องเสื้อ COLLER ผ่านการ ตัดสูท ที่สุดท้ายไม่ได้ออกมาเป็นสูทซะทีเดียว
ต้องขอกล่าวแบบนี้ก่อนครับว่า COLLER นั้น ถือเป็นห้องเสื้อที่สนใจเสื้อผ้าในสไตล์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สไตล์สูทที่ถูกปรับแต่งโดยชาวเกาหลี เห็นได้จากการร่วมมือกับห้องเสื้ออย่าง B&Tailor / Lucamuseo และอื่น ๆ อีกมาก หากแต่ทาง COLLER ไม่ได้แค่ทำ Trunk Show เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่นำความรู้ความเข้าใจของแต่ละเจ้า มาปรับให้เป็น Style ที่เหมาะกับร้านด้วยตัวเอง เรียกว่าไม่หยุดพัฒนา น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมที่สุด ณ ตอนนี้นะครับ
หลังจากที่ได้นั่งพูดคุยกับทาง COLLER อยู่บ่อยครั้ง ทำให้รู้สึกถึงความตั้งใจ และความหลงไหลในเสื้อผ้าอย่างน่าชื่นชม เราจึงอยากทดลองตัดสูท เพื่อให้ทุกท่านได้พิจารณาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตัวต่อไป เนื่องจากทางห้องเสื้อ COLLER จะทำ Trunk Show ใน กรุงเทพฯ เรื่อย ๆ แน่นอนครับ แถมมาในราคาเริ่มต้นราว 50k กับสูท Bespoke 1 ชุด ถือเป็นราคาที่คุ้มค่ามากทีเดียว
เริ่มต้นด้วยการเลือกชิ้นผ้าที่จะนำมาตัดกันก่อนครับ แรกเริ่มเราตั้งใจตัดเป็น Full Suit ผ้า Linen ซึ่งเข้ากับอากาศบ้านเราได้เป็นอย่างดี แถมตั้งใจเลือกเป็นสี Tobacco หรือไม่ก็สี Olive เข้ม ๆ แต่พอได้จับเล่มผ้าที่อยู่ตรงหน้า ก็เริ่มรู้สึกว่า มี Option ผ้าที่น่าสนใจให้เลือกเยอะมากพอสมควร โดยเฉพาะ เล่มผ้าล่าสุดจาก Holland & Sherry ที่พึ่งปล่อยออกมาไม่นานใน Collection ปีนี้
จับไปจับมา ก็เริ่มรู้สึกว่า ผ้าในเล่ม Crystal Springs จาก Holland & Sherry นั้น มีสีสันที่ค่อนข้างสวยงาม แถมมีความนุ่มเด้งที่นิ่มแต่สู้มือเป็นอย่างดี น้ำหนัก 240g เป็นผ้า Wool / Silk / Linen ที่มีความโปร่งมากพอสมควร ทว่าผ้าจาก Crystal Springs นั้น ไม่สามารถนำมาตัดเป็น Full Suit ได้แน่นอน จึงต้องเลือกตัดเป็นแบบ Sport Jacket และ Odd Trousers แทนครับ
แน่นอนว่า เจ้าของร้าน COLLER เอง ก็แนะนำให้เลือกตัดผ้าจากเล่มนี้เช่นกัน เนื่องจากยับยาก และได้ลวดลายที่แตกต่างจากเล่มผ้าเล่มอื่น ๆ ในท้องตลาด แถมระบายอากาศได้ดีอีกด้วย ส่วนกางเกงนั้น เราให้ทางร้านช่วยเลือกผ้าที่เข้าคู่กัน เลยได้เป็น Crispaire สีเทากลาง ๆ เนื่องจากน้ำหนักค่อนข้างดี (ราว 310g) ให้ทรงที่สวย และยับค่อนข้างยากสักหน่อย ซึ่งคำแนะนำของทางร้านคือ กางเกงควรเลือกตัดผ้าที่มีน้ำหนักสักหน่อย เพื่อให้กางเกงทิ้งตัวสวยงามกำลังดี
ต่อด้วยการวัดตัวครับ พร้อมสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ บนตัวเสื้อว่า ต้องการแบบไหนอย่างไร ซึ่งด้วย Pattern ที่ค่อนข้างใหญ่ เราจึงอยากเลือกสไตล์การตัดเย็บแบบ Florentine Cut มากกว่า Neapolitan เพื่อให้ลวดลายต่อกันอย่างสวยงาม อีกทั้ง สไตล์ดังกล่าว ยังเป็นสไตล์แรกเริ่มของ COLLER อีกด้วย เลือกอยากลองกับความละมุนละม่อม ที่ทางห้องเสื้อปรับแต่งให้ออกมาจากการผสมผสานโครงสร้าง เข้าคู่กับความโค้งกลม แค่คิดก็น่าสนใจมากแล้วใช่มั้ยครับ
การลองตัวครั้งที่ 1 จะมีขึ้นในระยะเวลาราว 2 เดือนเท่านั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ ทางห้องเสื้อ COLLER เอง มีการใช้ช่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ งานจึงค่อนข้างไว และเก็บรายละเอียดต่าง ๆ อีกรอบที่ฮ่องกง แต่สิ่งที่อยากให้สังเกตสักเล็กน้อย คงเป็นเรื่องของการวัดตัวที่ผู้วัดอาจไม่ใช่ช่างโดยตรง ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้นั้น หาช่างแบบ One-Man Bespoke ได้น้อยมากเหลือเกินในท้องตลาด การสื่อสารบางอย่างอาจมีความคลาดเคลื่อนได้บ้าง ทั้งจากตัวผู้วัดไปสู่ช่าง รวมถึงช่างด้วยกันเองในแต่ละชิ้นส่วนการผลิต ดังนั้น ต้องลองมาดูกันครับว่า First Fitting และ Final Product จะเป็นเช่นไร ทั้งนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นราว $1,700USD เชื่อว่า COLLER น่าจะเป็น อีกหนึ่ง Option ที่ทุกท่านให้ความสนใจได้ไม่ยากแน่นอนครับ