เมื่อ 30 ปีก่อน รองเท้าคู่หนึ่งได้ถูกออกแบบโดยสุดยอดนักออกแบบผู้สร้างสรรค์ Air Max 1 อย่าง Tinker Hatfield และใส่โดย Michael Jordan ตำนานแห่งวงการบาสเก็ตบอลใน NBA ฤดูกาล 1988 รองเท้าคู่นี้สร้างประวัติศาสตร์ไว้มากมาย เราลองมองย้อนกลับไปสักนิด เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโมเดลตำนานตลอดกาล Air Jordan 3 กันครับ
ตำนานในสนามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของ Jordan
ใน NBA ฤดูกาลปี 1988 นั้น Micheal Jordan ได้สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ไว้มากมาย ถือเป็นการกลับมาหลังจากที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็น การได้เข้าชิงตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า หรือ NBA League MVP และได้ตำแหน่งนั้นมาครอบครอง นอกจากนั้น Michael Jordan ยังใส่รองเท้า Air Jordan 3 กระโดด Dunk ในงาน Slam Dunk Contest 1988 ถึงแม้ว่าการ Dunk ครั้งนั้นจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ MJ กระโดดจากเส้น Free Throw ก็ตาม แต่คือภาพจดจำที่ติดตามากที่สุดในประวัติศาสตร์เพราะเขาคือคนแรกที่คว้าแชมป์ Slam Dunk เป็นสมัยที่ 2 ติดกัน แถมปีนี้ถ้าคุณได้นั่งอยู่ในสนาม “คุณจะได้เห็นการ Dunk จากเส้น Free Throw ถึง 2 ครั้งจากชายคนนี้อีกด้วย”
ถึงแม้ว่าปีนั้น Chicago Bulls จะไม่ได้แชมป์ NBA League ก็ตาม แต่จากข้อมูลข้างต้น ทำให้รองเท้า Air Jordan 3 กลายเป็นรองเท้า “One to Rock, One to Stock” อย่างเต็มตัว รองเท้าที่คุณจะไม่อยากให้เกิดรอยใดๆ บนตัวรองเท้า จะเดินอย่างระมัดระวัง และถือเป็นรองเท้าที่ใครก็ตามที่อยากเริ่มต้นเก็บ Air Jordan จะต้องมีเป็นคู่แรกๆ เสมอ
ตำนานนอกสนาม จุดเริ่มต้นของ Air Jordan Brand
หลังจากรองเท้า Air Jordan 2 เปิดตัวแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็ถึงคราวของ Tinker Hatfield ที่ถูกจับมาปรับโฉม Jumpman ให้โดดเด่นและถูกใจ Michael Jordan เริ่มต้นด้วยการโชว์ Visible Air-Sole ที่ช่วงส้นเท้า และเปลี่ยนหนังโดยเลือกเป็นหนัง Elephant Leather Skin Printed ต้นกำเนิดของ Air Max 1 x Atmos เนื่องจาก Michael Jordan ชอบที่จะให้มันแตกต่างจากรองเท้าคู่อื่นๆ
เป็นรองเท้าคู่แรกที่สร้างแบรนด์ Air Jordan อย่างเป็นทางการ เนื่องจาก Air Jordan 3 เป็นรองเท้าในตระกูล Air Jordan คู่แรกที่หยิบเอา Swoosh ออกจากด้านข้างของตัวรองเท้า ซึ่งเป็นไอเดียของ Tinker Hatfield ในวินาทีสุดท้าย เพราะเขาคิดว่า “รองเท้า Jordan น่าจะมีตัวตนด้วยโลโก้ Jumpman” แต่ทางแบรนด์ Nike ไม่ยอม เลยจำเป็นต้องมี Nike Logo ที่ส้นเท้าอยู่ดี
Air Jordan 3 เป็นรุ่นที่ไม่มี Hi-Top เนื่องจาก Michael Jordan ต้องการลดน้ำหนักของตัวรองเท้าลง ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่แหวกแนวและโดดเด่นมากจริงๆ สำหรับรองเท้าในสมัยนั้น
เป็นรองเท้า Air Jordan ที่ออกแบบในระยะเวลาที่สั้นมาก
เนื่องจากต้องต่อสู้กับเวลา และความต้องการของ Michael Jordan อีกทั้งทางแบรนด์ Nike ยังต้องการปั้นกระแสรองเท้าในตระกูล Air Jordan ให้ประสบความสำเร็จหลังจากปล่อย Air Jordan 2 แล้วไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ ทำให้ Air Jordan 3 นั้นมีเวลาทำงานเพียงไม่กี่อาทิตย์เท่านั้น และในช่วงเวลาดังกล่าวของการทำงานของ Tinker Hatfield นั้น ตัว Michael Jordan เองก็มีส่วนร่วมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกความสูงของตัวรองเท้า / การตัดสินใจเลือกลายหนังรวมถึงสีที่จะใช้ผลิตตัว OG และสนับสนุนความคิดของ Tinker Hatfield อย่างเต็มที่ จนได้หน้าตาแบบที่คุณเห็นอยู่ในปัจจุบัน
MDs ได้ข่าวว่า “อีกไม่นาน Air Jordan Brand จะกลับเข้ามาวางขายในไทยนะครับ” น่าจะมาพร้อมกับรุ่นที่น่าสนใจเต็มไปหมด แต่ถ้าใครอยากได้ Air Jordan 3 อาจจะด้วยประวัติอันยิ่งใหญ่ของตัวรองเท้าหรือความชื่นชอบในตัว Michael Jordan ก็ตาม แนะนำให้กดออนไลน์กันเองเลย (ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเหลือ ติดต่อทาง Resale น่าจะดีกว่า) ไว้เราจะหยิบเอา Air Jordan ตัวอื่นมาเล่าอีกในบทความหน้านะครับ
Credit : Air.Jordan