เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินคำนิยาม ประเภทผู้ชาย ด้วยอักษรกรีก อย่าง ผู้ชาย Alpha ผู้ชาย Beta ตามสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ ภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งในวงสนทนา แม้ในไทยคำนิยายเหล่านี้อาจไม่แพร่หลาย แต่ในประเทศทางฝั่งตะวันตกนั้น จะค่อนข้างได้ยินบ่อยทีเดียว
วันนี้ MenDetails จะพาทุกท่านไปรู้จักกับความเชื่อแบบนี้ว่าคืออะไร และรู้เบื้องหลังของการแบ่งประเภทนิสัยของผู้ชายด้วยอักษรกรีกว่ามีที่มาอย่างไร รวมถึงทำไมมันถึงเป็นความเชื่อที่ผิด ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยครับ
ประเภทผู้ชาย ตามอักษรกรีกคืออะไร
การแบ่ง ประเภทผู้ชาย ตามอักษรกรีก สามารถแบ่งผู้ชายตามลักษณะนิสัยออกได้เป็น 7 ประเภท ที่มีข้อดี ข้อเสีย จุดเด่น จุดด้อยต่างกันไป โดยประเภททั้งหมดประกอบด้วย Alpha Beta Gamma Omega Delta Zeta และ Sigma
คำที่เรามักได้ยินบ่อยที่สุด ที่คนนิยมใช้กัน คือ Alpha กับ Beta โดยอิงมาจากบทบาทในฝูงหมาป่า และสัตว์อื่น ๆ ที่อยู่เป็นกลุ่ม Alpha เป็นตัวอักษรแรกของภาษากรีก ผู้ชายแบบ Alpha จึงหมายถึง คนที่มีความเป็นผู้นำ มีความมั่นใจในตัวเองสูง เป็นที่ยอมรับของคนอื่น ๆ ดึงดูดเพศตรงข้าม แต่ในขณะเดียวกัน เพราะความเป็นผู้นำที่มากเกินไป อาจทำให้เอาแต่ใจตัวเอง ก้าวร้าว ต้องพยายามข่มคนอื่นให้ดูเหนือกว่าตลอดเวลา เพื่อรักษาสถานภาพความเป็นผู้นำเอาไว้ เหมือนที่หมาป่าจ่าฝูงต้องต่อสู้กับตัวที่จะมาชิงตำแหน่งของตัวเอง และคำว่า Alpha wolf หรือ หมาป่าหัวหน้าฝูงก็เกิดขึ้นมาจากลักษณะนิสัยเช่นนี้ และมีการปรับนำมาเรียกกับผู้ชายจนเป็นคำว่า Alpha male
ส่วน Beta เป็นตัวอักษรลำดับสองของภาษากรีก เป็นการพูดถึงผู้ชายที่มีนิสัยเงียบ ๆ ไม่โดดเด่น ถ่อมตัว รักสงบ มีนิสัยเป็นผู้ตามที่ดีมากกว่า ทำให้ผู้ชายนิสัย Beta หลายคน ดูเป็นคนไม่มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม ขี้อาย ขี้เกรงใจ เหมือนกับหมาป่าลูกฝูงที่ต้องคอยทำตามคำสั่งของจ่าฝูงอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะถูกข่มด้วยอำนาจ ในหลาย ๆ บริบท คำว่า Beta male ก็เป็นคนเสียดสีผู้ชายที่ดูไม่มีความน่าสนใจใด ๆ
นอกจาก Alpha กับ Beta ที่ถูกหยิบยกมาใช้บ่อย ยังมีลักษณะนิสัยแยกย่อยของผู้ชายที่อาจไม่ค่อยคุ้นหูที่เรากล่าวไปข้างต้น แต่ก็ยังพบเห็นผู้ชายหลายคนใช้อักษรเหล่านั้นนิยายลักษณะนิสัยของตัวเองอยู่ เช่น ผู้ชาย Sigma คือ คนที่มีความเก่งและน่าดึงดูดเหมือนผู้ชาย Alpha แต่จะเงียบขรึมกว่า หรือผู้ชาย Omega ที่แทบจะอยู่ล่างสุดของชนชั้นอำนาจ มีความเนิร์ดสูง ไม่ค่อยสุงสิงกับคนนอกกลุ่มเป็นต้น
จากการศึกษาพฤติกรรมหมาป่า สู่ต้นกำเนิดของความเชื่อ
เมื่อรู้คร่าว ๆ แล้วว่าการแบ่ง ประเภทผู้ชาย ตามอักษรกรีกคืออะไรไปแล้ว เราจะมาย้อนดูกันว่าต้นกำเนิดของความเชื่อนี้มาจากไหน และเรายืนยันไว้ก่อนเลยว่า การแบ่งผู้ชายลักษณะนี้ชาวกรีกไม่ได้คิดขึ้นมา และความเชื่อนี้ไม่ได้มีอายุนานขนาดนั้น แม้เป็นเรื่องจริงที่ว่า Alpha กับ Beta ในเชิงสัญลักษณ์จะหมายถึง ที่ 1 กับที่ 2 หรือ ผู้นำ กับผู้ตาม แต่ก็ไม่ได้เอามาผูกกับการแบ่งประเภทผู้ชายอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
จุดเริ่มต้นแรกของการแบ่งผู้ชายแบบนี้ เกิดขึ้นจากชายชื่อ Rudolph Schenkel เขาเป็นนักสังเกตพฤติกรรมสัตว์ ตีพิมพ์งานวิจัย Expressions Studies on Wolves ในปี 1947 จากการสังเกตพฤติกรรมฝูงหมาป่าในสวนสัตว์ Basel ประเทศ Switzerlandเป็นเวลาหลายปี เพื่อศึกษาการแบ่งชนชั้นทางสังคมของฝูงหมาป่า ถือเป็นการค้นพบใหม่ในยุคนั้น
ในงานวิจัยนั้น ระบุถึงพฤติกรรมของหมาป่าที่จะมีตัวที่แสดงพฤติกรรมรุนแรง ก้าวร้าว เพื่อแสดงความเป็นผู้นำ ข่มหมาป่าตัวอื่น ๆ ที่ด้อยกว่าให้ทำตามคำสั่ง กลายเป็นลำดับชนชั้นของฝูง เกิดเป็นคำว่า Alpha wolf และทฤษฎีนี้ ยังถูกเสริมด้วยหนังสือ The Wolf: The Ecology and Behavior of an Endangered Species ของนักชีววิทยาสัตว์ป่า L. David Mech ในปี 1970 จากการสังเกตฝูงหมาป่าในอุทยานแห่งชาติ Isle Royale National Park รัฐ Michigan สหรัฐอเมริกา
หนังสือของ L. David Mech ได้รับความนิยมมาก มีการตีพิมพ์ใหม่หลายครั้งมาจนถึงปัจจุบัน และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นิยามของคำว่า Alpha wolf กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีการนำฝูงหมาป่าไปเปรียบเทียบ อธิบายกับมนุษย์เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มและมีการแบ่งชนชั้นเหมือนกัน
เมื่อนิยามของคำว่า Alpha male Beta male เป็นที่เข้าใจโดยทั่วกันของชาวตะวันตก ก็มีการพยายามเพิ่มประเภทผู้ชายแบบต่าง ๆ เข้ามาเพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะนิสัยแบบอื่นมากขึ้น เกิดเป็นการแบ่งลำดับชนชั้นทางสังคมที่เรียกว่า Socio-Sexual Hierarchy ที่เกิดจากความคิดของ Theodore Robert Beale หรือ Vox Day นักเขียน นักแต่งเพลงฝั่งขวาจัดของสหรัฐอเมริกา เขายังเป็นพวกคลั่งคนผิวขาว และนิยมระบบชายเป็นใหญ่อีกด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือสิ่งที่ทำให้ความเชื่อเรื่องการแบ่งลักษณะผู้ชายด้วยอักษรกรีกยังถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน และในอนาคตอาจจะมีการใช้ตัวอักษรกรีกอื่น ๆ มาเป็นสัญลักษณ์ของประเภทผู้ชายเพิ่มอีก
ทำไมเราจึงบอกว่าความเชื่อนี้ผิด
เมื่ออ่านที่เราเขียนถึงทฤษฎีของฝูงหมาป่า หลายคนอาจคิดว่ามันก็ดูมีเหตุผลดี แต่จริง ๆ แล้วไม่เลย เพราะทฤษฎีนี้มีจุดผิดร้ายแรงอยู่ เป็นสิ่งที่ Rudolph Schenkel มองข้ามไป และนักสังเกตพฤติกรรมสัตว์ในปัจจุบันได้ศึกษาและค้นพบถึงความแตกต่างนี้
นั่นคือการสังเกตของเขา เขาสังเกตแค่หมาป่าที่ถูกจับมาเท่านั้น เขาไม่ได้สังเกตหมาป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ เมื่อมีการศึกษาหมาป่าตามธรรมชาติมากขึ้น ทำให้นักวิจัยในปัจจุบันเข้าใจถึงพฤติกรรมที่ต่างออกไปจากผลงานของ Rudolph Schenkel
ด้าน L. David Mech ที่ทำให้ความเชื่อนี้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง ก็ทำการศึกษาเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน และรู้ว่าผลงานก่อนหน้าของตนเป็นความผิดพลาดร้ายแรง ในปี 1999 เขาจึงตีพิมพ์หนังสือ Alpha Status, Dominance, and Division of Labor in Wolf Packs ออกมาเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด รวมถึงขอให้สำนักพิมพ์เลิกตีพิมพ์หนังสือเล่มเก่าของเขา ที่ไปตอกย้ำความเชื่อผิด ๆ แต่ไม่เป็นผล ความเชื่อนี้กลายเป็นที่รู้จักเกินกว่าจะแก้ไขได้แล้ว
และหากมองโครงสร้างสังคมของมนุษย์แล้ว มนุษย์เป็นสิ่งที่ชีวิตที่มีโครงสร้างทางสังคมซับซ้อนกว่าหมาป่ามากนัก เพราะมนุษย์ไม่มีสิ่งที่เป็น “ผู้นำถาวร” หรือมีหน้าที่ผู้นำที่ชัดเจน แต่มนุษย์จะมีการสลับบทบาทไปเรื่อย ๆ ในแต่ละสถานการณ์ บางสถานการณ์อาจเป็นผู้นำ ในขณะที่บางสถานการณ์อาจเป็นผู้ตาม หรือเลือกไม่ยุ่งเกี่ยว
เพราะบทบาทของมนุษย์ในแต่ละสถานการณ์ที่หลากหลายนี้ บวกกับความซับซ้อนของสังคมมนุษย์ ที่มีปัจจัยหลายอย่าง ไม่นับว่ามนุษย์มีความคิดเชิงวิเคราะห์มากกว่าสัตว์อื่น ๆ ทำให้เราไม่สามารถนำนิยาม Alpha Beta หรือลักษณะตามอักษรกรีกใด ๆ มานิยามได้
โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้การจำกัดความโดยการเหมารวมเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ผู้ชายแต่ละคนมีเอกลักษณ์ จุดแข็ง จุดอ่อนที่ต่างกัน ถือเป็นเสน่ห์ของแต่ละคน ดังนั้นความเชื่อนี้จึงเป็นความเชื่อแบบผิด ๆ ใช้ไม่ได้ในสภาพสังคมจริงครับ
สุดท้าย เราสนับสนุนให้ผู้ชายทุกคนค้นหาแนวทาง ค้นหาเอกลักษณ์ เสน่ห์ของตัวเองให้เจอ แล้วดึงจุดนั้นออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ในขณะเดียวกันก็ดูแลตัวเองให้ดีตามอย่างที่ผู้ชายยุคใหม่ควรจะเป็น เพื่อให้เป็นที่รัก และสร้างความประทับใจให้ทุกคนที่พบเจอครับ