เป็นประจำทุก ๆ ต้นปีที่เราจะเห็นธุรกิจขนาดใหญ่ออกมาประกาศผลประกอบการของปีที่ผ่านมา และวิสัยทัศน์ในปีต่อไป ธุรกิจรถยนต์หรูอย่าง Mercedes-Benz เองก็เช่นกัน แม้ MenDetails จะไม่ใช่สื่อที่เกี่ยวกับยานยนต์อย่างตรงไปตรงไปมา แต่เราก็ได้รับเกียรติจากเบนซ์ให้เข้าร่วมงาน และเราก็มีข้อสังเกตน่าสนใจเป็นบทเรียนธุรกิจ และ ความจริงบางข้อของ รถเบนซ์ ที่เราเพิ่งถึง “บางอ้อ” จากการร่วมงานประกาศผลประกอบการปี 2021 ในครั้งนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะเป็นมุมมองที่แตกต่างออกไปจากที่อื่น มาให้ทุกคนได้ลองอ่านและคิดตามกันในสไตล์ของ MenDetails นะครับ
ยอดขายหลอกกันได้
เราเพิ่งได้รู้จาก Mercedes-Benz นี้เอง ว่าตัวเลขยอดขายที่ค่ายรถยนต์รายงานออกมาอย่างสวยหรูนั้น แต่ละค่ายสามารถปั้นแต่งตัวเลขได้อย่างอิสระ จะบอกให้สูงขนาดไหนก็ได้ โดยที่ประชาชนทั่วไปแทบไม่มีทางที่จะพิสูจน์ได้เลยว่า “โตจริงไหมนะ?” ด้วยเหตุนี้ Mercedes-Benz ประเทศไทย จึงเปลี่ยนนโยบายในการรายงานตัวเลขจำนวนรถยนต์ของตัวเองโดยนับจากจำนวนการจดทะเบียนรถยนต์ Mercedes-Benz กับกรมการขนส่งทางบกโดยตรงไปเลย ซึ่งเป็นตัวเลขที่พิสูจน์ได้จริงว่าในปีที่ผ่านมามีรถยนต์ Mercedes-Benz คันใหม่วิ่งบนท้องถนนเมืองไทยอย่างถูกกฎหมายเพิ่มขึ้นกี่คันกันแน่ ตัวเลขอาจจะงง ๆ หน่อยแต่อย่างน้อยก็ต้องนับถือในความจริงใจของเขา ที่พร้อมเปิดให้เห็นไปเลยว่า “ไม่หลอกลวงกัน”
ประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า รถเบนซ์ ต้องมาก่อน
EQS คือรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของ Mercedes-EQ ที่มีรถตัวอย่างมาให้สื่อมวลชนได้ลองขับกันแล้ว แต่ทว่ายังไม่มีการประกาศกำหนดการขายรวมถึงราคาอย่างเป็นทางการใด ๆ ทั้งสิ้นจาก Mercedes-Benz ประเทศไทย โดยพวกเขายินดีปล่อยให้คู่แข่งเจ้าอื่นจุดพลุนำไปก่อน แต่เราเชื่อว่าลึก ๆ แล้ว Mercedes-Benz มีความพร้อมในเรื่องตัวรถเต็มที่ แต่สิ่งที่พวกเขากังวลคือเรื่องของ “จุดชาร์จไฟ” ที่ยังมีไม่ครอบคลุมเท่าไหร่นักในเมืองไทย ซึ่งอาจแปรเปลี่ยนกลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีต่อผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าและนั่นคงเป็นสิ่งที่ Mercedes-Benz ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นเด็ดขาด
โครงการ Charge to Change ของ Mercedes-Benz จึงเหมือนการประกาศให้แฟนรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง EQS ในเมืองไทยได้ทราบว่า “มาแน่ แต่รอหน่อย” โดยจะหันไปเน้นการสร้างสถานีชาร์จของ Mercedes-Benz ที่ครอบคลุม ทำสัญญากับหน่วยงานรัฐและเอกชนในสถานที่สำคัญ ๆ ต่าง เพื่อให้มีการติดตั้งจุดชาร์จไฟให้แน่นหนากว่านี้ ถือเป็นการเดินหมากที่ดีเพื่อให้ในยามที่รถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในปี 2022 นี้ ผู้ขับขี่จะได้รับประสบการณ์ที่ดี ไม่ต้องหงุดหงิดกับการคอยมองหาที่ชาร์จยามแบตใกล้หมดให้บ่อยเกินไป
ความจริงแล้ว เจ้าของ รถเบนซ์ ในไทยส่วนใหญ่ “ซื้อเงินผ่อน”
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องความจำเป็นทางการเงินหรือเทคนิคการบริหารภาษีและกระแสเงินสดใด ๆ ก็ตาม แต่ข้อมูลอย่างเป็นทางการของเบนซ์บอกออกมาชัดเจนว่า เจ้าของรถ Mercedes-Benz ในไทยส่วนใหญ่เลือกใช้บริการซื้อรถด้วย “เงินผ่อน” โดยจากข้อมูลนั้นรถยนต์นั่งทั้งหมดอย่าง A-Class, C-Class, E-Class, S-Class ฯลฯ เจ้าของรถถึง “ครึ่งหนึ่ง” เลือกใช้บริการเงินผ่อนของ Mercedes-Benz Leasing ส่วนอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือนั้น ถ้าจะมองว่าซื้อเงินสดทั้งหมดก็อาจจะเป็นไปได้ แต่เรามองว่ามีโอกาสไม่น้อยเช่นกันที่เจ้าของเหล่านั้นหันไปเลือกใช้บริการ Leasing ของเจ้าอื่นนอกเหนือจากการผ่อนกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยตรง
เราอาจจะเคยมองว่า การจะเป็นเจ้าของรถเบนซ์สักคันนั้นจะต้องเป็นคนรวยมีเงินถุงเงินถังไปซื้อเงินสดกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ในความเป็นจริงนั้นด้วยบริการทางการเงินที่หลากหลายในโลกปัจจุบัน ทำให้เราสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์หรูได้ไม่ยากนักด้วยการใช้ “เงินผ่อน” ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ใช้กันเป็นปกติ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ MenDetails ต้องหมายเหตุไว้นั่นก็คือเราจะต้องประเมินตัวเองอย่างรอบคอบให้ดีว่าสามารถผ่อน รถเบนซ์ ได้อย่างไม่เดือดร้อน เพราะการไม่ใช้จ่ายอะไรเกินตัวถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอนะครับ
ความจริงใจต่อสาธารณชนในการเปิดเผยข้อมูลที่ตรงไปตรงมาตรวจสอบได้ และ การเอาใจใส่กับประสบการณ์ที่ดีที่ลูกค้าควรจะได้รับจากการใช้งานสินค้าของเรา ถือเป็นบทเรียนทางธุรกิจที่ MenDetails จับใจความได้นอกเหนือจากตัวเลขการเติบโตและวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ที่ทุกคนคงอ่านได้จากที่อื่นอยู่แล้ว กับอีกหนึ่งความจริงในเรื่องการซื้อรถเบนซ์เงินผ่อนเป็นส่วนใหญ่ของสังคมไทย ทำให้เราได้มุมมองสอนใจว่าการเป็นเจ้าของรถเบนซ์นั้นแท้ที่จริงไม่ได้ยากลำบากเท่าไหร่ในช่วงต้น แต่เราต้องรอบคอบเรื่องเงินงวดการผ่อนชำระและ ค่าใช้จ่ายในการขับรถยนต์ ที่จะตามมาอีกมากมายด้วยเช่นกัน คิดคำนวณอีกครั้งให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ เพื่อป้องกันการใช้จ่ายเงินเกินตัวจนต้องแอบเสียใจภายหลังนะครับ