นอกจากสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Cryptocurrency และเทคโนโลยี Blockchain ที่ปัจจุบันกำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก ยังมีอีกหนึ่งศัพท์ที่ช่วงปีที่ผ่านมานี้เริ่มเป็นที่รู้จัก และหลาย ๆ วงการสนใจที่จะกระโดดเข้ามาเล่นด้วย นั่นคือคำว่า NFT ครับ เป็นการถือครองสินทรัพย์รูปแบบใหม่ และต่างออกไปจากสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งหลายคนคาดการว่าเป็นพื้นที่การลงทุนแห่งใหม่ ไปจนถึงการถือครองสินทรัพย์เพื่อรับการมาถึงของ Metaverse
ในบทความนี้ MenDetails จึงขอพาทุกท่านมารู้จักกับ NFT ว่ามันคืออะไร ต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอย่างไร มีวงการไหนที่ลงมาเล่นในตลาดนี้แล้วบ้าง และอนาคตของมันจะไปทางไหนได้บ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ทุกท่านสำหรับโลกยุคใหม่ที่กำลังใกล้เข้ามาครับ
NFT คืออะไร?
NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token ในอีกแง่หนึ่งมันก็เป็น Cryptocurrency อีกประเภทหนึ่ง แต่ว่าไม่ได้ถูกนับในรูปแบบของสกุลเงิน เพราะมันเป็นของในรูปแบบของ “สินทรัพย์” มากกว่า ว่าง่าย ๆ เหมือนเราเป็นเจ้าของสมมุติของที่อยู่ในโลกดิจิทัล
แต่ที่มันเรียกว่า Non-Fungible Token นั้น เพราะว่าของแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน มีมูลค่าไม่เท่ากัน ไม่สามารถทดแทนได้ ทำให้มันต่างจาก Cryptocurrency อย่างพวกสกุลเงิน Bitcoin ที่แต่ละเหรียญมีความเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น เรามีของอะไรสักอย่างที่เป็น limited edition สลักหมายเลขของชิ้นนั้น ๆ เอาไว้เรียบร้อย ว่าเป็นชิ้นที่ 3 จาก 100 ชิ้น หากมีใครยืมไปต้องเอาของชิ้นนั้นมาคืนเราเท่านั้น จะเอาหมายเลขอื่น หรือของอย่างอื่นที่หน้าตาคล้ายกันมาคืนไม่ได้ ส่วนพวก Bitcoin จะเหมือนเงินตราทั่วไป เพื่อนยืมเราไป 100 บาท จะไปเอา 100 บาทที่ไหนมาคืนก็ได้ เพราะค่าเท่ากัน
ความต่างต่อมาคือ มันไม่สามารถเอาไปใช้เป็นตัวกลางในการซื้อขายได้ เพราะตัวมันเองถือเป็น “สินค้า” หรือ “ของ” ชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ตัวเงินแบบ Bitcoin ที่สามารถเอาไปจ่ายซื้อของได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าเราจะเอาสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ NFT ชิ้นนั้น ๆ ออกมาขาย ซึ่งก็ต้องทำการซื้อขายกันผ่านตัวกลางอย่าง Cryptocurrency อยู่ดี
สุดท้ายเวลาซื้อขายของเหล่านี้ จะไม่มีการแบ่งเป็นหน่วยย่อยแบบ Cryptocurrency ก็เหมือนกับเวลาเราซื้อของสักชิ้น รถซักคัน หนังสือสักเล่ม ก็ไม่มีการแยกชิ้นขาย ต้องซื้อเป็นของ 1 ชิ้น สินค้า Non-Fungible Token ก็เช่นกันครับ ต่างแค่ว่าเราอาจจะไม่ได้สัมผัสของจริง ๆ แต่เป็น “สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ” ต่างหาก ต่างกับ Cryptocurrency ที่เราสามารถย่อยเป็น 0.00000001 หน่วยแล้วขายก็ได้
การกระโดดเข้ามาร่วมวงของวงการต่าง ๆ ที่เห็นช่องทางธุรกิจ
การเติบโตของ Blockchain นอกจากทำให้วงการ Cryptocurrency เติบโตแล้ว ยังทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Non-Fungible Token เติบโตขึ้นด้วย ในปัจจุบันเราจะเห็นวงการบันเทิง วงการศิลปะ ที่เข้ามาหาช่องทางธุรกิจในระบบนี้กันมากขึ้น ทั้งผู้ที่สร้างงานไว้ขาย และผู้ที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรในอนาคต
ของที่นิยมซื้อขายกันแบบ Non-Fungible Token ที่เห็นชัด ๆ ในตอนนี้ จึงเป็นพวกรูปภาพ ภาพถ่าย รูปปั้น โมเดล ของสะสม limited เพลง วิดีโอ ไปจนถึง Memes เมื่อขายแล้วสิทธิ์ในการนำไปใช้งานก็อยู่ที่ตัวผู้ซื้อ และยังเป็นการเปิดทางให้กับศิลปินหน้าใหม่ได้แจ้งเกิดผ่านช่องทางนี้อีกด้วย เพราะก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ซื้อศิลปะเหล่านี้มาเก็งกำไรว่าศิลปินคนนี้อาจจะมีชื่อเสียงในอนาคต จะได้นำไปขายต่อ
นอกจากศิลปินอิสระ บรรดาค่ายและบริษัทยักษ์ใหญ่ ก็โดดเข้ามาร่วมด้วยเช่นกัน นอกจากจะผลิตสินค้าจริง ๆ ขายแล้ว ยังมีสินค้าบางอย่างที่ผลิตในรูปแบบ Non-Fungible Token ขายจำกัดจำนวน เช่น ค่าย DC Marvel Toei ที่นักวาด หรือนักทำโมเดล ผลิตสินค้าออกมาในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล
นอกจากวงการศิลปะแล้ว วงการเกมก็เริ่มมีการโดดเข้ามาร่วมวงด้วยเช่นกัน เห็นชัด ๆ อย่างเกมที่เป็น Non-Fungible Token Game ที่เริ่มมีเปิดบริการ ไปจนถึงค่ายเกมยักษ์ใหญ่ เช่น Square Enix ที่เริ่มสนใจจะมาทำการตลาดในส่วนนี้ด้วย แต่อาจจะต้องรอดูความเคลื่อนไหวกันต่อไป
ข้อดีของพวกสินค้า Non-Fungible Token โดยเฉพาะพวกของสะสม งานศิลปะ คือเราสามารถเข้าถึงมันได้ทุกเวลา และให้สิทธิ์คนอื่น ๆ เข้ามาดูได้ หมายความว่าหากเราครอบครองของที่มีมูลค่ามาก ๆ ในอนาคตมีคนอยากนำไปจัดแสดงก็ต้องมาเรา และเราสามารถคิดเงินค่าเข้าชม หรือค่าเช่าของ แลกกับสิทธิ์ในการเข้ามาดูได้ ก็เป็นรูปแบบของการลงทุนอย่างหนึ่งเช่นกัน
และในอนาคตที่ Metaverse กำลังเริ่มถือกำเนิด การมีสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทนี้ครอบครองไว้ก็อาจจะเป็นการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อยครับ อย่างน้อย ๆ ก็ถือเป็นของแต่งบ้านก็ได้
อนาคตของ NFT
หากเทียบกับ Cryptocurrency แล้ว คำว่า Non-Fungible Token ยังดูใหม่กว่ามาก แม้จะถือกำเนิดขึ้นมาช่วงปี 2011 แต่ก็เริ่มมาได้รับความนิยมในช่วงที่โลกเผชิญสถานการณ์โควิด 19 ที่ผู้คนอยู่บ้านและเริ่มหาช่องทางการทำเงินมากขึ้น ทั้งนักธุรกิจและคนในแวดวงศิลปะ / บันเทิง
ด้วยความที่ยังใหม่สำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ก็มีหลายกลุ่มกระโดดเข้ามาในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง และเงินจำนวนหลายหลักที่หลาย ๆ คนพร้อมจะจ่ายเพื่อเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ในอนาคตยังสามารถเติบโตได้อีกมาก
ซึ่งการซื้อขาย Non-Fungible Token จะทำการซื้อขายผ่าน Cryptocurrency เท่านั้น ทำให้คาดได้ว่าการที่ตลาดนี้จะโตขึ้น คนต้องมีความรู้ในเรื่อง Cryptocurrency มากขึ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตามเราปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจและน่าลงใน ในอนาคตมันอาจจะกลายเป็นพื้นที่ทั่ว ๆ ไปที่คนมาซื้อของ ซื้อสินค้าสำหรับการใช้ชีวิต Metaverse ของตัวเองก็ได้ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตทุกอย่างจะกลายเป็น NFT แต่มันจะกลายเป็นตลาดอีกตลาดหนึ่งเท่านั้น สุดท้ายมนุษย์ก็ยังคงโหยหาของที่เป็นรูปธรรมสามารถจับต้องได้อยู่ดี
นี่คือข้อมูลเบื้องต้นของ Non-Fungible Token ที่น่าสนใจ และเราคิดว่ามันไม่ได้อยู่ไกลตัวเราอีกต่อไป การเตรียมตัวรับมือเทคโนโลยีในอนาคตที่ดูจะใกล้เข้ามานั้น ก็เป็นอีกหนึ่งการเตรียมตัวสำคัญที่ถ้าเรารู้ไว้ก่อนก็จะเป็นกำไรครับ