คุณเคยเจอเหตุการณ์นี้หรือไม่ เวลาจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ แต่ไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหน หันไปดูตัวเลขเงินในบัญชีก็รู้สึกเศร้าใจ จะขอยืมจากใครก็ไม่กล้า เลยต้องหันหน้าเข้าไปขอกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินแทน แต่ทราบหรือไม่ว่าเมื่อคุณกู้เงินจากธนาคารมาคุณมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าเงินฝากหลายเท่าตัว ซึ่งหากไม่มีการวางแผนชำระที่เหมาะสมแล้ว ชีวิตของคุณอาจจะประสบกับปัญหาทางการเงินหรืออาจถึงขั้นล่มจมเอาได้เลยทีเดียว
วันนี้เลยอยากให้ชาว MenDetails ได้เข้าใจเรื่องการใช้เงินกู้ประเภทนี้ให้ปลอดภัย และมีแผนการณ์ที่เหมาะสมจะได้ไม่เกิดปัญหาหนี้สินพอกพูนไม่จบไม่สิ้นตามมาภายหลังกันนะครับ
อย่าใช้บริการ “เงินกู้นอกระบบ” โดยเด็ดขาด
ตัวอย่างที่แย่ที่สุดในการเสาะหาเงินกู้เพื่อนำมาใช้ในคราวจำเป็นจริงๆ นั่นก็คือ “แหล่งเงินกู้นอกระบบ” ด้วยดอกเบี้ยที่สูงเหมือนโดนปล้น หากคุณไม่มีเงินต้นมาคืน คุณอาจต้องเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบแบบนี้ไปทั้งชีวิตเลยก็เป็นได้ บางรายกู้ 10,000 บาท แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมหาโหดถึงวันละ 300 บาท ย้ำอีกครั้ง “เฉพาะดอกเบี้ยต่อวัน 300 บาท” ภายใน 1 ปีคุณต้องจ่ายดอกเบี้ยไป 109,500 บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยกว่า 1000% ฉะนั้นขอเตือนเลยว่า “อย่ากู้หนี้นอกระบบ” เด็ดขาด ถ้าจะกู้ก็ขอให้กู้เงินจากผลิตภัณฑ์เงินกู้ส่วนบุคคล (Personal Loan) จากสถาบันทางการเงินที่น่าเชื่อถืออย่างธนาคารพาณิชย์ทั่วไปยังจะดีเสียกว่านะครับ เพราะถึงแม้ดอกเบี้ยจะสูง แต่ก็สูงไม่เท่าพวกหนี้นอกระบบแน่นอน
ไม่อยากกลุ้มใจจนตาย อย่าได้กู้หนี้นอกระบบโดยเด็ดขาด
กู้เมื่อรู้ว่าจะมีเงินมาใช้หนี้ได้เท่านั้น
เมื่อประสบกับ “อุบัติเหตุทางการเงิน” จนเกิดสถานการณ์จำเป็นที่ต้องใช้จ่ายเงินก้อนใหญ่ อย่างเช่น ค่ารักษาพยาบาลในยามฉุกเฉิน แต่ด้วยเงินสดที่มีในขณะนั้นไม่อำนวย สินเชื่อ Personal loan สามารถเป็นทางเลือกหนึ่งที่อาจช่วยเหลือคุณได้ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจกู้เงินจากสินเชื่อส่วนบุคคลนั้นอยากให้พิจารณาตัวเองก่อนว่า คุณมีความสามารถที่จะจ่ายคืนหนี้ก้อนนั้นหรือไม่และประเมินด้วยว่าจะชำระคืนเงินก้อนนั้นหมดภายในระยะเวลาเท่าไหร่
ค่ารักษาพยาบาล คือหนึ่งในค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ที่บางครั้งมาแบบไม่ทันตั้งตัว จนเราจำเป็นต้อง “กู้เงิน”
ลองดูตัวอย่างหากคุณเลือกใช้วงเงินสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคลเป็นเงินจำนวน 50,000 บาทโดยที่อัตราดอกเบี้ย 12 เดือนแรกของ Krungsri จะอยู่ที่ 10.99% กรณีนี้ถ้าเลือกผ่อน 6 เดือนคุณอาจจะต้องผ่อนจ่ายเดือนละ 8,603 บาท แต่ถ้าเลือกผ่อน 12 เดือนคุณจะผ่อนต่อเดือนเพียง 4,419 บาทเท่านั้น ลองเลือกดูว่าเราไหวที่แผนไหน และจะมีรายได้มารองรับทุกงวดตามระยะเวลาดังกล่าวหรือไม่ จากนั้นพยายามอย่าสร้างหนี้ก้อนใหม่เพิ่มเติมอีก ไม่เช่นนั้นหากเกิดวันไหนคุณชอร์ตเงินหายนะอาจจะมาเยือนทันทีเพราะดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 28% ได้เลย
อยากทราบรายละเอียดวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจาก Krungsri Personal Loan สามารถคลิกไปดูได้ที่ Krungsri.com นะครับ
จ่ายคืนให้เร็วที่สุดอย่าปล่อยนาน
แม้ว่าการเลือกผ่อนนานจะทำให้คุณมีภาระต้องจ่ายต่องวดลดลงแต่ก็อย่าลืมว่ายิ่งผ่อนนานคุณก็จะยิ่งเสียดอกเบี้ยมากขึ้นเท่านั้น ด้วยนึกไว้เสมอว่าคุณฝากเงินทั้งปี1ล้านบาทคุณเพิ่งได้ดอกเบี้ย5,000-10,000 บาทแต่หากคุณกู้เงินเพียง 50,000 บาทคุณอาจต้องเสียดอกเบี้ยต่อปีสูงกว่า 5,000 บาทเสียด้วยซ้ำ อย่างเช่นตัวอย่างข้างต้นจาก Krungsri Personal Loan ที่คิดดอกเบี้ย 12 เดือนแรกที่ 10.99% ต่อปี แต่พอขึ้นเดือนที่ 13 อัตราดอกเบี้ยก็จะถูกปรับขึ้นไปมากกว่านี้อีก ดังนั้นอย่าปล่อยให้มีหนี้คงค้างอยู่นาน ชำระให้ตรงเวลาเสมอ และถ้ามีเงินก้อนเป็นรายได้เข้ามาเมื่อไหร่ก็ควรรีบเอาเงินนั้นมาจัดการเคลียร์หนี้ที่ค้างคาอยู่ให้หมดโดยเร็วที่สุดครับ
ตั้งใจเก็บเงินเป็นกองทุนฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องกู้เงินแบบนี้อีก
สาเหตุของความจำเป็นที่เราจะต้องกู้เงินที่มีภาระดอกเบี้ยอย่าง Personal Loan ก็เนื่องมาจากความไม่มีวินัยในการเก็บออมเงินสำรองฉุกเฉินของเราเองตั้งแต่ต้น ดังนั้นเราขอแนะนำชาว MenDetails ทุกท่านเลยว่าถ้าไม่อยากเจอกับสถานการณ์ “ชอร์ตเงิน” จนต้องมาวิ่งหาเงินกู้แบบนี้อีกแล้วล่ะก็ เราควรมีเงินสดไว้เป็นสภาพคล่องเผื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉินจะดีกว่า อย่างน้อยๆ ถ้าคุณมีรายจ่ายรวมๆ แล้วเดือนละ 30,000 บาท ก็ควรมีกองทุนสำรองส่วนตัวของตัวเองเผื่อไว้ใช้ในยามจำเป็นสัก 100,000-200,000 บาทไว้ให้อุ่นใจ (แต่ก็อย่าเผลอเอามาใช้ช้อปปิ้งเด็ดขาดนะครับ)
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเทคนิคกู้อย่างไรไม่ให้ล่มจมในแบบของ MenDetails เชื่อว่าหลายคนจะกลับไปพิจารณาตนเองก่อนจะตัดสินใจใช้วงเงินสินเชื่ออะไรก็ตามเพราะถึงแม้การใช้สินเชื่อส่วนบุคคลจะเป็นทางเลือกในการได้มาซึ่งเงินสดอย่างรวดเร็วในคราวฉุกเฉินจริงๆ แต่หากไม่มีการวางแผนจัดการให้ดีก็อาจกลายเป็นปัญหาการเงินแก่คุณได้ในที่สุด MenDetails หวังว่าจะเป็นข้อเตือนใจและช่วยให้คุณวางแผนจัดการเงินกู้ของตัวเองอย่างเหมาะสมนะครับ