เริ่มต้นออมเงินและลงทุนตั้งแต่ยังเด็ก แล้วอย่าทำพังระหว่างทาง
หากเปรียบความร่ำรวยเหมือนการเดินทางไกล ยิ่งคุณเริ่มต้นช้าเท่าไหร่ โอกาสที่จะเดินไปถึงความร่ำรวยก็จะน้อยลงเรื่อยๆเท่านั้น เราควรจะเริ่มต้นออกเดินทางตั้งแต่ยังอายุน้อย และมีแรงที่จะเดินได้วันละหลายๆกิโลเมตร เพื่อให้เราไปให้ถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น นอกจากนั้นเราควรศึกษาวิธีการลงทุน และระดับผลตอบแทนที่เหมาะกับเรา โดยไม่จำเป็นที่จะต้องได้ผลตอบแทนสูงเสียดฟ้า เพราะถ้าคุณเริ่มต้นได้เร็วพอ ระยะเวลาที่ยาวนานจะช่วยทบต้นเงินออมของคุณให้กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ แม้จะได้รับผลตอบแทนแค่ค่าเฉลี่ยเพียง 5%-10% ก็ตาม เช่น ถ้าคุณเริ่มต้นออมเงินเดือนละ 1,000 บาท ตั้งแต่อายุ 20 ปี ไปเรื่อยๆจนถึงอายุ 60 ปี และได้ผลตอบแทนปีละ 8% คุณจะมีเงิน 3 ล้านกว่าบาทเมื่ออายุ 60 ปี สิ่งสำคัญคืออย่าล้มเลิก หรือเปลี่ยนแนวทางกลางคันเท่านั้นเอง พูดก็พูดเถอะ แค่เดือนละพันเดียวคงไม่เกินความสามารถ จริงไหมครับ แต่สิ่งสำคัญกว่าก็คือ คุณได้ลงมือทำแล้วหรือยังต่างหากล่ะครับ
ใช้จ่ายเงินให้น้อยกว่าที่หามาได้ ยิ่งน้อยกว่าเท่าไหร่ยิ่งดี
เรื่องนี้ใครๆก็รู้ทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่ตั้งใจที่จะทำตามให้ได้จริงๆ เพราะส่วนใหญ่มักจะตกม้าตายตอนที่เรามีรายได้เพิ่มขึ้น ก็มักรู้สึกว่าจะต้องมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทั้งๆที่ในความเป็นจริงนั้น คุณสามารถที่จะคงรายจ่ายให้อยู่ใกล้เคียงจุดเดิมได้ และเก็บส่วนที่ได้รับเพิ่มมานั้นนำไปออมหรือไปลงทุนได้เพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เพื่อเร่งให้คุณเดินทางไปสู่ความร่ำรวยได้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม และนี่คือเคล็ดลับที่เศรษฐีทุกคนใช้กันเสมอมา ไม่ว่าตัวเองจะร่ำรวยแค่ไหนก็มักจะไม่ฟุ่มเฟือยไปกับการจับจ่ายใช้สอยส่วนตัว เงินเหลือออมก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น และก็ยิ่งทำให้เขารวยขึ้นเรื่อยๆ ส่วนคนอื่นที่ไม่สามารถทำได้ หรือทำได้ไม่ดีพอนั้น โอกาสที่จะร่ำรวยเป็นเศรษฐีก็จะน้อยลง
สร้างแหล่งรายได้ของตัวเองให้มาจากหลายๆทาง
แหล่งรายได้อย่างแรกที่เรานึกถึงกันนั่นก็คือ “เงินเดือน” แต่เงินเดือนนั้นมันไม่ได้ยั่งยืนอย่างที่คุณคิด เพราะฉะนั้นเมื่อได้รับเงินเดือนมา เราก็ควรที่จะนำเงินเดือนไปลงทุนเพื่อสร้าง “แหล่งรายได้อื่น” นอกเหนือจากเงินเดือนเอาไว้โดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน หรือการซื้อพันธบัตรเพื่อให้ได้ “ดอกเบี้ย” ถึงแม้จะได้ผลตอบแทนน้อยนิด แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย หรือหากคุณมีความรู้มากพอก็อาจจะขยับไปสู่การลงทุนในหุ้น เพื่อได้รับ “เงินปันผล” เป็นรายได้ใหม่ ส่วนใครที่ชอบซื้อคอนโด, บ้าน และที่ดิน ก็สามารถนำทรัพย์สินมาปล่อยเช่าเพื่อให้ “ค่าเช่า” เป็นแหล่งรายได้ใหม่ได้ด้วยเช่นกัน การสร้างแหล่งรายได้ใหม่แบบนี้นอกจากจะช่วงกระจายความเสี่ยงจากการถูกตัดเงินเดือน หรือตกงาน นอกจากนั้นแหล่งรายได้เหล่านี้ยังคงสร้างรายได้ให้เราได้หลังจากที่เราหยุดทำงาน หรือเกษียณอายุการทำงาน ซึ่งจะทำให้คุณยังสามารถใช้แหล่งรายได้เหล่านี้ในการจับจ่ายใช้สอยส่วนตัว โดยไม่ต้องควักเนื้อไปเอาทุนหรือเงินก้อนของเรามาใช้นั่นเองครับ แต่ทว่า จะมีสักกี่คนกันล่ะที่มุ่งมั่นตั้งใจที่จะหาแหล่งรายได้หลายๆทางแบบที่เหล่าเศรษฐีเขาทำกัน?
เคล็ดลับของคนรวยความจริงมีไม่เยอะ และไม่ใช่เรื่องยุ่งยากซับซ้อน แต่สิ่งสำคัญกว่าการรู้เคล็ดลับก็คือ “วินัย” และความต่อเนื่องในการที่ปฏิบัติตามสูตรสำเร็จเหล่านั้นในระยะยาว ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินที่แท้จริงว่าใครที่จะมีโอกาสเป็นเศรษฐี และใครที่ชาตินี้ก็คงไม่มีวันรวย