หากเราเป็นผู้ชายที่สนใจและให้ความสำคัญในการวางแผนการเงินและการลงทุน MenDetails เชื่อว่าเราจะต้องเคยได้ยินคำว่า “อิสรภาพทางการเงิน” ผ่านสื่อต่าง ๆ (รวมถึง MenDetails.com ด้วย) มาไม่มากก็น้อยแน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้เราค้นพบอิสรภาพทางการเงินผ่าน การเก็บออมอย่างแข็งขัน และนำเงินไปลงทุนเพื่อจุดประสงค์ในการ “ให้เงินทำงานแทน” เพื่อสร้างกระแสเงินสดเชิงรับ หรือ “Passive Income” ที่มากพอจนเราไม่ต้องทำงานอีกต่อไป
อิสรภาพทางการเงิน = การไม่ทำงาน ?
ปัญหาของการค้นพบอิสรภาพทางการเงินด้วยวิธีการข้างต้นมีอยู่ 2 ประเด็นใหญ่ ๆ ประเด็นแรกคือสำหรับบางคนแล้วนั้น การค้นพบอิสรภาพทางการเงินโดยการไม่ต้องทำงานอีกต่อไป คือสัญญาณของ “ความขี้เกียจ” โดยเฉพาะคนในรุ่น Baby Boomer ซึ่งมักจะมองว่าคนเราควรจะมีความขยันขันแข็งและ “ทำงาน” เพื่อหาเลี้ยงชีพตลอดเวลา ดังนั้นหากคำว่าอิสรภาพทางการเงินคือ “การไม่ทำงาน” ผู้ชายหลาย ๆ คนก็อาจมีความรู้สึกไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก
อีกประเด็นสำคัญของนิยามอิสรภาพทางการเงิน แบบเดิม ๆ คือการที่เราจะต้องทุ่มเทและพากเพียรในการ “เก็บออมเงินอย่างหนัก” บางคนมุ่งมั่นในการเก็บออมมากเกินไปจนทำให้ดำรงชีวิตอย่างลำบากและถูกผู้คนรอบข้างมองว่าเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว กลายเป็นราคาที่เราต้องจ่ายเพื่อแลกมาซึ่งอิสรภาพทางการเงินที่บางครั้งกลับกลายเป็นวิธีการที่ “ตึงเกินไป” ไม่ดำรงอยู่บนทางสายกลางเท่าที่ควร
อีกหนึ่งนิยามของ อิสรภาพทางการเงิน
Benjamin Le Fort ได้เสนอแนวคิดใหม่ในการสร้างอิสรภาพทางการเงิน ด้วย กฎ 10% Rule โดยตัวเขาได้ให้คำนิยามของอิสรภาพทางการเงินแบบสั้น ๆ แต่ได้ใจความว่า
“You have achieved financial freedom when you can spend your days doing work that you love without worrying about how you will pay the bills.”
“อิสรภาพทางการเงิน คือ การที่เราสามารถใช้เวลาแต่ละวัน ในการทำงานที่เราชื่นชอบและหลงใหล โดยไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่มีเงินใช้จ่ายเพื่อดำรงชีวิต”
นิยามของอิสรภาพทางการเงินเช่นนี้ทำให้เราตระหนักว่าเราไม่จำเป็นที่จะต้องเก็บเงินเพื่อนำไปลงทุนเป็นจำนวนหลาย ๆ ล้านบาท เราก็ยังสามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราควรที่จะต้องค้นหาตัวเองให้เจอเสียก่อน ว่าในชีวิตของเรานั้น เราชื่นชอบและหลงใหลในการทำสิ่งใดกันแน่
ถ้าหากว่างานที่เราทำเป็นประจำอยู่ทุกวันนี้คือสิ่งที่เราชอบและอยากทำอยู่แล้ว นั่นแปลว่าเราเป็นผู้ชายที่โชคดีอย่างยิ่งแล้ว แต่ถ้าหากงานที่เราทำอยู่นั้นเป็นงานที่เราไม่ได้ชื่นชอบเท่าไหร่นัก เพียงแต่เราจำเป็นต้องทำเพื่อนำรายได้มาใช้จ่ายในการดำรงชีพ เช่นนั้นแล้ว กฎ 10% Rule สามารถช่วยให้คุณค้นพบอิสรภาพทางการเงินได้อย่างแน่นอน
กฎ 10% Rule เพื่อ อิสรภาพทางการเงิน นิยามใหม่
เมื่อเราสามารถตอบตัวเราเองได้แล้วว่าเราชื่นชอบและหลงใหลในการทำสิ่งใด ขั้นตอนต่อมาคือการนำ กฎ 10% Rule มาปรับใช้ โดยรายละเอียดของกฎ 10% Rule ก็คือ
กฎ 10% Rule
ตั้งเป้าหมายในการหารายได้พิเศษจากการทำงานที่เราชื่นชอบจริง ๆ ให้ได้ปีละ 10% ของรายได้จากการทำงานประจำของเราเอง หากทำได้สำเร็จและต่อเนื่อง เราจะค้นพบอิสรภาพทางการเงินได้ภายใน 10 ปี
ตัวอย่างเช่น หากเรามีรายได้จากการทำงานประจำอยู่ที่เดือนละ 20,000 บาท หรือเท่ากับปีละ 240,000 บาท และคาดว่าเงินเดือนเราจะเติบโตขึ้นปีละ 5% ถ้าเช่นนั้นลองตั้งเป้าหมายในการหารายได้พิเศษจากงานที่เราชอบให้ได้ปีละ 10% ของรายได้จากงานประจำ หากเราทำได้ทุกปีเป็นเวลา 10 ปี ติดต่อกัน รายได้พิเศษจากงานที่เราชอบก็จะเทียบเท่ากับรายได้จากงานประจำในที่สุด เมื่อนั้นเราก็ถึงเป้าหมายของอิสรภาพทางการเงินตามนิยามของ Benjamin Le Fort ได้สำเร็จในที่สุด
ข้อควรระวังในการใช้ กฎ 10% Rule
ในความเห็นส่วนตัวของ MenDetails แล้วนั้น กฎ 10% Rule มีความน่าสนใจอย่างยิ่งในการสร้างแรงบันดาลใจว่าเราสามารถค้นพบอิสรภาพทางการเงินได้ภายใน 10 ปี โดยที่ไม่จำเป็นต้องตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินให้ได้เป็นจำนวนมาก ๆ อย่างที่เรามักได้ยินคนพูดกันเสมอมา อย่างไรก็ดีนี่ไม่ได้หมายความว่าเราสมควรที่จะใช้จ่ายเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราหาได้จากการทำงานแต่อย่างใด ท้ายที่สุดแล้วการรู้จักเก็บ รู้จักใช้ และรู้จักลงทุน ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ
หากเรานำ กฎ 10% Rule ไปใช้ ควบคู่ไปกับการตั้งใจเก็บออมเงินให้ได้ตามสมควรอย่างมีวินัย แบบที่ไม่ตึงเกินไป และไม่หย่อนยานจนเกินไป แล้วนำจำนวนเงินที่เราเก็บออมได้ไปลงทุนให้เงินทำงานแทนควบคู่ไปด้วย นั่นย่อมจะยิ่งทำให้ชีวิตที่มีอิสรภาพทางการเงินของเรามีความปลอดภัยและมั่นคงยิ่งขึ้น ทำให้เราสามารถทำงานที่เรารักและหลงใหลจริง ๆ ได้อย่างยั่งยืน ไม่ต้องวกกลับไปสมัครงานใหม่ให้เสียเวลาอีกต่อไป
ลองตั้งเป้าหมายหารายได้พิเศษให้ได้ 10% ของรายได้ประจำของตัวเองทบต้นไปเรื่อย ๆ ทุกปี MenDetails เชื่อว่าอิสรภาพทางการเงิน ในแบบฉบับของคนที่ยังมีไฟในการทำงานย่อมอยู่ไม่ไกลครับ