ก้อนหน้านี้ MenDetails ได้เคยพูดถึงวิธีการล้างหนี้สินแบบลูกบอลหิมะ หรือ Snowball Method ที่มุ่งเน้นการกำจัดหนี้สินจากก้อนเล็กไปหาก้อนใหญ่ มาในครั้งนี้ MenDetails จะขอนำอีกหนึ่งหลักการตัดการหนี้สินที่เรียกว่า Avalanche Debt Method หรือการเคลียร์หนี้แบบ “หิมะถล่ม” ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งกับคนที่มีหนี้สินหลายแบบ และแต่ละแบบมีอัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากัน จะมีรายละเอียดอย่างไรนั้น ตาม MenDetails ไปศึกษากันได้เลยครับ
การจัดการหนี้สินแบบ Avalanche Debt Method
คำว่า “Avalanche” แปลเป็นภาษาไทยตรงตัวคือ “ถล่มทลาย” แต่พอเป็นคำศัพท์ในทางการจัดการหนี้สินแล้วนั้น Avalanche คือคำที่นำมาเปรียบเปรยเหมือนหิมะที่ถล่มลงจากยอด ไม่ได้ค่อย ๆ กลิ้งจากลูกเล็กไปหาลูกใหญ่แบบ Snowball Method ซึ่งในที่นี้การจัดการหนี้สินแบบ Avalanche Method คือการพุ่งเป้าไปยังยอดหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดเสียก่อน ไม่เกี่ยงว่ายอดหนี้นั้นจะน้อยหรือว่ามากแค่ไหน ถ้าดอกเบี้ยสูงกว่าคนอื่น ก็ต้องจัดการเคลียร์ก่อนใครเพื่อนครับ
ขั้นที่ 1 | เรียงลำดับหนี้สิน จากหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุด ไปหาต่ำที่สุด
Avalanche Method เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีหนี้หลายประเภท และแต่ละประเภทมีอัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากัน โดยให้เราเรียงลำดับจากหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูงมาก ๆ อย่างเช่น หนี้นอกระบบ (หวังว่าจะไม่มีใครมี), หนี้บัตรเครดิต จนไปถึงหนี้ที่มีดอกเบี้ยไม่สูงนัก เช่น หนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา, หนี้ผ่อนซื้อมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ และหนี้ผ่อนบ้านหรือคอนโดซึ่งมักจะเป็นหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า
ขั้นที่ 2 | ทุ่มเงิน “ถล่มหนี้” โดยเน้นไปที่หนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน
นำเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราหาได้หรือเก็บออมได้ ไปทุ่มจ่ายหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน ส่วนยอดหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่านั้น ให้จ่ายแค่ยอดชำระขั้นต่ำที่จะไม่ทำให้เราต้องเสียค่าปรับในการผิดนัดชำระหนี้ก็พอ
ตัวอย่างเช่น
นาย A มีภาระหนี้สินทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่
หนี้บัตรเครดิต ยอด 30,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 20% ต่อปี
หนี้ผ่อนซื้อมอเตอร์ไซค์ ยอด 15,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี
หนี้ผ่อนซื้อคอนโดมิเนียม ยอด 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี
หากนาย A เลือกใช้วิธีการ Avalanche Method นาย A จะนำเงินจ่ายเพียงแค่ยอดชำระหนี้ขั้นต่ำสำหรับหนี้ผ่อนซื้อมอเตอร์ไซค์ และหนี้ผ่อนคอนโดฯ แล้วทุ่มเงินที่เหลือทั้งหมดที่เก็บได้ไป “ถล่ม” ที่หนี้สินจากบัตรเครดิตซึ่งเป็นหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อนใครเพื่อนนั่นเอง
ขั้นที่ 3 | ให้รางวัลกับตัวเอง เมื่อถล่มหนี้แต่ละก้อนได้สำเร็จ
เมื่อนาย A ทุ่มเงินที่เหลือทั้งหมดเพื่อถล่มหนี้ก้อนแรกคือหนี้บัตรเครดิตจนสำเร็จแล้ว นาย A ก็ควรให้รางวัลกับตัวเอง โดยนำยอดชำระขั้นต่ำของหนี้สินที่เพิ่งเคลียร์ได้สำเร็จไปหาซื้อสินค้าหรือบริการที่เราอยากได้ อย่างไรก็ดีไม่ควรตั้งรางวัลของตัวเองให้ใหญ่เกินไปนัก เพราะอย่าลืมว่าเรายังมีหนี้สินก้อนอื่นที่รอให้เราจัดการต่อด้วยนะครับ
ข้อดีของ Avalanche Method
จากตัวอย่างของ นาย A ที่มีก้อนหนี้สินหลายก้อนและแต่ละก้อนมีภาระดอกเบี้ยที่ไม่เท่ากัน โดยมีหนี้บัตรเครดิต, หนี้ผ่อนมอเตอร์ไซค์ และหนี้ผ่อนบ้าน อยู่ด้วยกัน เมื่อนำหนี้เหล่านั้นมาเรียงกัน เราอาจจะพบว่า ยอดหนี้ผ่อนมอเตอร์ไซค์ซึ่งมีดอกเบี้ยที่น้อยกว่านั้น ดันมีมูลค่าหนี้ที่น้อยกว่าหนี้บัตรเครดิตซึ่งมีดอกเบี้ยสูงกว่าด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้การใช้ วิธีล้างหนี้แบบ Snowball Method ที่เน้นเคลียร์หนี้ที่มียอดเงินน้อยกว่าก่อน จะทำให้เราโฟกัสหนี้ผ่อนมอเตอร์ไซค์แทน และนั่นจะไปทำให้ดอกเบี้ยของหนี้บัตรเครดิตที่สูงมากนั้น พอกพูนขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
ในสถานการณ์ข้างต้นนี้จึงเป็นการเหมาะสมกว่าที่จะใช้วิธี Avalanche Method ซึ่งให้เราโฟกัสไปที่ยอดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดอย่างหนี้บัตรเครดิตเสียก่อน แม้อาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควรเนื่องจากยอดหนี้นั้นอาจจะสูงกว่าหนี้ผ่อนมอเตอร์ไซค์ แต่ด้วยภาระดอกเบี้ยของหนี้ผ่อนมอเตอร์ไซค์ที่น้อยกว่า จะไม่ทำให้ยอดหนี้รวมของเรากระโดดขึ้นมาสูงจนน่าตกใจเมื่อเปรียบเทียบกัน เมื่อเราชำระหนี้บัตรเครดิตหมดแล้วก็ค่อยพุ่งไปหาหนี้ผ่อนมอเตอร์ไซค์เป็นลำดับถัดไป และเก็บหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่ำที่สุดอย่างการผ่อนบ้านไว้เคลียร์เป็นลำดับสุดท้ายครับ
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการจัดการหนี้แบบไหน จะมีประสิทธิภาพเพียงใด สุดท้ายแล้วความรู้สึกของการเป็นหนี้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ใครปรารถนา เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ที่เราจัดการเคลียร์หนี้สินของเราจนจบหมดแล้วนั้น คราวหน้าคราวหลังก็ควรตั้งสติและใช้จ่ายเพียงแต่พอตัว หลีกเลี่ยงการก่อหนี้สินก้อนใหม่ โดยเฉพาะหนี้บริโภคที่มีดอกเบี้ยสูงอย่างหนี้นอกระบบหรือหนี้บัตรเครดิต MenDetails เชื่อว่าจะช่วยให้สุขภาพจิตและสุขภาพการเงินของคุณดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอนครับ