วิกฤติการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจคือเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และทรัพย์สินที่มักจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากก็คือการลงทุนใน “ธุรกิจและตลาดหลักทรัพย์” นักลงทุนระดับโลกอย่าง Peter Lynch เองก็เคยกล่าวไว้ว่าความผันผวนคือเรื่องธรรมดาในโลกการลงทุน และทุกครั้งที่เกิดวิกฤติการณ์ พอร์ตการลงทุนที่เขาดูแลนั้นก็มักจะตกหนักกว่าสภาวะตลาดโดยรวมทุกครั้งไปเช่นกัน สิ่งสำคัญก็คือเราควรรู้วิธีการตั้งสติและเลือกนำเงินมา ลงทุนในสภาวะวิกฤติ ของธุรกิจและตลาดหลักทรัพย์อย่างรอบคอบ ซึ่งจะมีวิธีการอย่างไรบ้างนั้น ลองตาม MenDetails ไปดูกันได้เลยครับ
ตรวจสอบให้มั่นใจว่าเราลงทุนกับสิ่งที่ “แข็งแกร่ง”
โจทย์ข้อแรกที่นักลงทุนทุกคนควรถามตัวเองก็คือ เงินลงทุนของเรานั้นอยู่กับธุรกิจและบริษัทที่ “แข็งแกร่งและมั่นคง” มากน้อยขนาดไหน และมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ธุรกิจดังกล่าวนั้นจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปหลังจากที่วิกฤติการณ์นี้ผ่านพ้นไปแล้ว หากไม่เชื่อมั่นก็ควรจะยอมรับผลขาดทุนและจำไว้เป็นบทเรียน แต่หากเชื่อมั่นว่าธุรกิจนั้นแข็งแกร่งและเงินที่เราลงทุนไปนั้นเป็นเงินเย็นเจี๊ยบจริง ๆ ก็ไม่ควรจะรีบขายแต่อย่างใด แต่ถ้าคำตอบคือ “ไม่รู้” MenDetails ขอแนะนำให้คุณรีบศึกษาหาความรู้โดยด่วน และถ้าคุณ “ไม่รู้” แถม “ไม่อยากศึกษา” ด้วยแล้วล่ะก็ เราไม่ขอแนะนำให้คุณลงทุนต่อเด็ดขาด เพราะการลงทุนนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเสมอเท่านั้นนะครับ
อย่าแทงม้าตัวเดียว ครั้งเดียว หมดหน้าตัก
เมื่อเราทำความเข้าใจและคิดว่าเราลงทุนอยู่กับสิ่งที่แข็งแกร่งและจะอยู่รอดปลอดภัยจากวิกฤติการณ์นี้จริง ๆ แล้ว กลยุทธ์ต่อมาก็คือการค่อย ๆ ทยอยลงทุนเพิ่ม เพื่อสะสมจำนวนหุ้นในธุรกิจที่แข็งแกร่งเหล่านั้น เพื่อโอกาสในการทำกำไรในระยะยาวหลังจากที่วิกฤติการณ์ผ่านพ้นไป แต่ทั้งนี้เราก็ควรจะระมัดระวัง ไม่ทุ่มเงินทั้งหมดลงไปกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแบบ “ครั้งเดียวหมดหน้าตัก” นั่นเพราะเราอาจจะคาดการณ์ผิดพลาด และวิกฤติดังกล่าวอาจจะลากระยะเวลายาวนานกว่าที่เราคิด ดังนั้นเราจึงควรจัดสรรเงินลงทุนของเราให้ดี แบ่งเงินเป็นก้อน ๆ เพื่อทยอยนำไปลงทุนในช่วงวิกฤติ อย่ารีบร้อนแทงม้าตัวเดียวครั้งเดียวหมดหน้าตักเป็นอันขาดนะครับ
รอดได้ด้วยการลงทุนกับ “ค่าเฉลี่ย”
หากคุณรู้สึกว่า โลกของการลงทุนนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสถานะทางการเงินของตัวเองในอนาคต แต่ไม่ได้เป็น Passion ที่คุณอยากจะเอาตัวเองลงไปคลุกคลีศึกษากับมันเป็นเวลานาน ๆ อย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก็ ทางเลือกที่ชาญฉลาดอย่างหนึ่งคือการ “เกาะค่าเฉลี่ย” ด้วยการเลือกซื้อดัชนีค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ประเทศต่าง ๆ ในระยะยาว เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการเลือกหุ้นเป็นรายตัว ไม่ว่าจะเลือกด้วยตัวเองหรือมอบหมายให้ผู้จัดการกองทุนรวมต่าง ๆ ช่วยเลือกให้ ซึ่งหลายครั้งที่เราพบว่าทั้งเราและเขาไม่สามารถเอาชนะ “ค่าเฉลี่ย” ของตลาดหลักทรัพย์ได้ใน “ระยะยาว”
ข้อดีอีกข้อหนึ่งของการลงทุนในค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ทั้งตลาดนั่นคือเราไม่ต้องเสี่ยงกับความล้มเหลวของบริษัทใดบริษัทหนึ่งเหมือนผู้ที่เลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว เปรียบให้เห็นภาพว่าการซื้อค่าเฉลี่ยก็เหมือนการลงทุนกับเศรษฐกิจโดยรวมของทั้งประเทศ ถามว่าโอกาสที่จะล้มเหลวและขาดทุนอย่างถาวรนั้นมีหรือไม่ คำตอบก็คือ “มีอยู่แล้ว” แต่โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทั้งประเทศนั้นล้มเหลวแบบกู่ไม่กลับจริง ๆ ซึ่งต้องยอมรับว่าการที่ประเทศจะล้มเหลวทั้งหมดอย่างถาวรนั้นย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยกว่านะครับ
ขยายขอบเขตความรู้ เพื่อกระจายความเสี่ยง
แม้การลงทุนกับค่าเฉลี่ยในสภาวะวิกฤติจะมีโอกาสที่การลงทุนของเราจะอยู่รอดปลอดภัยได้มากกว่า แต่ถ้าสำหรับบางคนที่ “สิ้นศรัทธา” ในเศรษฐกิจโดยภาพรวม ทางเลือกที่เหลืออยู่ก็คือการขยายขอบเขตความรู้ เพื่อกระจายเงินลงทุนของตัวเอง ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ แบบแรกคือการออกไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งวิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้กลยุทธ์ลงทุนใน “ค่าเฉลี่ย” หรือดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศที่เราเชื่อว่าจะมีอนาคตที่สดใสกว่า ผ่านผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น กองทุนรวมดัชนีต่างประเทศ, ETF ต่างประเทศ หรือบางคนอาจมีญาติพี่น้องที่ไว้ใจได้อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ก็สามารถเปิดบัญชีเพื่อซื้อกองทุนดัชนีของประเทศนั้น ๆ โดยตรงก็ได้
แบบที่ 2 คือการขยับขยายขอบเขตความรู้ในการ ลงทุนในสภาวะวิกฤติ กับสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากธุรกิจและบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือในสินทรัพย์ดิจิตอล อย่าง Crypto Asset ต่าง ๆ อย่างไรก็ดีเราควรย้อนกลับไปพิจารณาที่ข้อแรกอีกครั้งนั่นก็คือการทำความเข้าใจเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราเลือกลงเงินไปกับสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงแข็งแกร่งและจะอยู่รอดได้ในระยะยาวจริง ๆ ซึ่งหากคุณยังคงไม่ความคิดอยากที่จะศึกษาหาความรู้ใด ๆ หวังแค่ว่าจะได้แต่กำไรอย่างเดียว แบบนั้นอย่าลงทุนเลยจะดีกว่านะครับ
ทั้ง 4 ข้อข้างต้นคือคำแนะนำเบื้องต้นของคนที่กำลังสับสนว่าจะลงทุนอย่างไรดีในสภาวะวิกฤติ MenDetails เชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาความรู้เพื่อให้เราสามารถพิจารณาด้วยตัวเองให้ได้ว่า สิ่งที่เราลงทุนอยู่นั้น เป็นสิ่งที่มีคุณภาพจริง ๆ หรือไม่ อย่าตัดสินใจลงทุนเพียงเพราะคนอื่นบอกว่าดี เพราะสุดท้ายแล้วเราจะต้องคอยถามคนอื่นอยู่ร่ำไปว่ามันยังดีอยู่หรือไม่ ไม่ต่างอะไรกับการยืมจมูกคนอื่นเขาหายใจ แต่ถ้าเรามีความรู้ คิดเองเป็น ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและถูกต้องด้วยตัวเอง MenDetails เชื่อว่าเราจะสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นไปด้วยกันได้ครับ