ญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งประเทศที่สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี และหากพูดถึงญี่ปุ่น เราจะไม่พูดถึง ศาลเจ้า ไม่ได้เลย เพราะสองสิ่งนี้เป็นของคู่กัน และถ้าคุณมีโอกาสได้มาเยือนฮอกไกโด คุณควรพาร่างกายมาพัก และอิ่มเอมกับบรรยากาศอันแสนสงบที่ ศาลเจ้าฮอกไกโดจิงกู (Hokkaido-jingu Shrine) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร บริเวณของสวน Maruyama Park กันครับ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าของศาสนาพุทธนิกายชินโต ถูกสร้างขึ้นในช่วงยุคสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ เพื่อเป็นสิริมงคลและความสงบสุขให้แก่ชาวฮอกไกโด ด้วยความเก่าแก่และมีประวัติมายาวนานจึงทำให้ศาลนี้มีอายุมากกว่า 150 ปี
แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปด้านในนั้น ตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น ก็จะต้องล้างมือเสียก่อน ซึ่งวิธีการก็คือ
- หยิบกระบวยขึ้นมาด้วยมือขวา (จับบริเวณปลายด้าม)
- เทน้ำเพื่อล้างมือด้านซ้าย จากนั้นให้สลับกัน ใช้มือซ้ายถือกระบวย แล้วล้างมือขวา
- ถือกระบวยด้วยมือขวา แล้วเทน้ำใส่มือซ้าย เพื่อนำน้ำมาดื่มหรือล้างปาก (เพราะคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า น้ำในบ่อเป็นน้ำสะอาด บริสุทธิ์ สามารถดื่มได้)
- สุดท้ายยกกระบวยตั้งขึ้น เพื่อให้น้ำที่เหลือล้างด้ามกระบวย
ปล. อย่าลืมกะปริมาณน้ำให้พอดี เพราะสามารถตักน้ำได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
-เมื่อล้างมือเสร็จเรียบร้อย เราก็สามารถเดินเข้าไปดูด้านในของศาลแห่งนี้กันได้เลย-
ศาลเจ้าแห่งนี้มีเทพเจ้าอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 องค์ เพื่อช่วยปกปักษ์รักษา คุ้มครอง ชาวฮอกไกโดให้อยู่อย่างสงบ ร่มเย็น เมื่อเข้ามาถึงด้านใน ทุกคนคงต้องรีบค้นในกระเป๋า เพื่อทำการหาเหรียญ 5 เยน มาไว้ในมือกันแบบด่วนๆ เพราะเราจะใช้เหรียญนี้ในการไหว้และขอพร โดยเริ่มจาก
- โยนเหรียญลงไปในกล่องบริจาคที่ตั้งอยู่ด้านหน้า สามารถใช้เหรียญอะไรก็ได้ แต่หากจะให้พรสมหวังและสำเร็จ คนญี่ปุ่นมักใช้เหรียญ 5 เยน เพราะในภาษาญี่ปุ่น ออกเสียงว่า “โกะเอน” ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า โชคดี
- โค้งคำนับสองครั้ง จากนั้นตบมือสองครั้ง แล้วพนมมือขอพร
- โค้งอีกหนึ่งครั้ง ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
และไม่ใช่แค่มาสักการะขอพรเทพเจ้าเพียงเท่านั้น ด้วยความที่ศาลเจ้านั้น ตั้งอยู่บริเวณสวยมารุยามะ ใครที่ยังไม่มีแพลนไปไหน ก็สามารถแวะไปเดินเล่น ชมวิว และถ่ายรูปเล่นกันได้ที่สวนสาธารณะแห่งนี้ หากเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็จะได้ชมดอกซากุระบาน ช่วงฤดูร้อน วันที่ 14-16 มิถุนายนของทุกปี ที่สวนแห่งนี้ก็จะจัดเทศกาล Sapporo Festival หรือ Sapporo Matsuri ที่จะแห่ขบวนไปตามถนน บอกเลยว่าช่วงฤดูร้อนของที่นี่บรรยากาศคึกคักมากที่เดียว แต่หากมาในฤดูหนาวเหมือนกับเรานั้น ก็จะได้เห็นเด็กๆ ออกมาเล่นและปั้นหิมะกันเต็มไปหมด แบบนี้ก็ดูคึกครื้นไปอีกแบบ
สำหรับใครที่ต้องการเดินทางมายังศาลเจ้า Hokkaido-jingu Shrine สามารถนั่ง นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai สถานี Maruyama Koen ทางออก 2,3 เดินไป 100 เมตร แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปอีก 120 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไป 100 เมตร จะเจอทางเข้าสวน Maruyama เดินเข้าไป 550 เมตร ก็จะถึงศาลเจ้าฮอกไกเดดจิงกูแล้วล่ะ ยิ่งช่วงหลังมานี้ ญี่ปุ่นเดินทางง่ายมาก หากมีโอกาสก็อย่าลืมไปแวะกันนะครับ