วันอาทิตย์ถือเป็นวันดีครับที่เราจะได้นั่งทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว หรืออาจเป็นเวลาของคู่หนุ่มสาวที่หาเวลาไปสวีทด้วยกัน 2 ต่อ 2 ซึ่งวันนี้ MDs จะมาแนะนำร้านอาหารร้านหนึ่งครับที่เหมาะมากกับการไปทานเป็นแบบ Sunday Brunch ณ ห้องอาหาร The District Grill Room and Bar ที่โรงแรม Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit (ถ้ามาจากพร้อมพงษ์ โรงแรมจะอยู่เลยแยกซอยทองหล่อไปประมาณ 150 เมตร) และถือเป็น Buffet ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ หากใครยังไม่เคยลองมาทาน ตามมาดูได้เลยครับ MDs จะพาไปชม
ที่นี่ถือเป็นห้องอาหารที่ Selected วัตถุดิบมากที่สุดห้องหนึ่ง และมีความพิเศษจากห้องอาหารอื่นๆ ที่จัด Buffet ด้วยการเปลี่ยนวิธีการในการตักอาหารจานหลักๆ เป็นการสั่งเป็นจานๆ โดยให้เชฟปรุงอาหารสดๆ ตามความต้องการของลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งถือเป็น Highlight ที่แตกต่างจากห้องอาหารอื่นๆ แน่นอนครับ
สิ่งแรกที่คุณจะเจอหลังจากก้าวเข้ามาในห้องอาหาร The District ก็คือไลน์ของหวาน / ห้องชีส / ขวดไวน์ บริเวณหน้าหน้าทางเข้า ก่อนจะเข้ามาเจอกับโซน Cold Cut / Salad / Pie และขนมปังนานาชนิด ซึ่งมี Cold Cut ให้เลือกหลากหลาย Salad ที่สามารถเลือกปรุงเองได้ และ Pie ที่น่าสนใจวางละลานตาแบบจัดเต็ม ซึ่งเยื้องมาทางด้านซ้ายก็จะเป็นโซนปรุงอาหารเป็นจานๆ และจะมีอาหารจานหลักอย่างเนื้อย่างและปลาแซลมอนวางอยู่ด้วย
ด้านในสุดจะเป็นโซน Sea Food ที่ขึ้นชื่อมากๆ อีกอย่างหนึ่งของทาง The District เพราะมีหอยนางรมสดจาก 3 สายพันธุ์นำมาวางให้คุณได้เลือกชิมแบบจุใจ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีปูม้า / ปูทะเล / ปูอลาสก้า และกุ้งลายเสือวางเรียงรายเต็มไปหมด ด้านข้างจะเป็นไข่ปลา Caviar และไข่อื่นๆ อีกมาก รวมไปถึงแซลมอนรมควัน และสลัดกุ้ง / ปลาหมึกยักษ์
เอาเป็นว่า แค่ไลน์อาหารที่กล่าวมาข้างต้นก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับ Buffet คุณภาพจริงมั้ยครับ แต่เนื่องจากขึ้นชื่อว่าเป็น The District แล้ว แค่นั้นไม่พอ ทางร้านจึงเสริมด้วยอาหารพิเศษที่สามารถสั่งเป็นจานคล้าย A La Carte ได้ซึ่งรายการอาหารนั้นจะวางอยู่บนโต๊ะอาหาร และที่พิเศษสุดก็คือ “เราสามารถสั่งได้ไม่อั้น” ก็ขึ้นชื่อว่า Buffet จริงมั้ยครับ แต่ลองตามลงมาดูครับว่า “ไม่อั้นแบบพิเศษมากๆ” นั้นเป็นยังไง
แต่ก่อนที่เราจะสั่งแบบ A La Carte เราก็ไปเดินหยิบอาหารที่น่าสนใจมาลองดูครับ ตั้งแต่หอยนางรมซึ่งรสชาติถือว่าดี อาจออกเค็มไปสักนิด แต่โดยรวมถือว่าสดมากจริงๆ ซึ่ง MDs ขอแนะนำให้ลองทานดูนะครับ เนื่องจากปกติแล้วห้องอาหารหลายๆ ที่จะมีแค่หอยนางรมไทย แต่ที่นี่จะมาจากต่างประเทศทั้งหมด ถือว่าควรค่าแก่การหยิบมาชิมเป็นอย่างมาก ต่อมาคือ Caviar รสชาติกลางๆ หรือไม่ ลิ้นเราเองที่ดีไม่พอ ส่วนกุ้งนั้นอร่อยมากครับ สด เนื้อแน่น ปูทะเลอร่อยมากจริงๆ รสชาติดี กลมกล่อมมากๆ ครับ ส่วนขาปูอลาสก้าต้องขอบอกครับว่าทุกห้องอาหารจะออกรสชาติเดียวกันก็คือออกเค็ม MDs แนะนำทานเนื้อปูม้ากับปูทะเลดีกว่าครับ รับรองอร่อยถูกปาก
อีกรายการหนึ่งที่เราเองก็ไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนี้ก็คือ “Caesar Salad” เนื่องจากผักที่สดมากๆ กับโฟมครีมสลัดที่เข้มข้น เอกลักษณ์เฉพาะของ The District เอาตรงๆ เกือบพลาดไปแล้วครับ โชคดีที่ตักมาทาน อันนี้คือ 1 เมนูที่ Recommended เลยทีเดียว
ไม่รอช้าครับ จัดรายการอาหารหลักแบบ A La Carte กันต่อเลย จานแรกเป็น Seared Wild Hokkaido Scallop หรือหอยเชลล์ย่างนั่นเอง ตอนแรกก็คิดในใจครับว่า “คงเป็นหอยเชลล์ตัวเล็กๆ เพราะสั่งได้ไม่อั้น” ที่ไหนได้ครับ มาชิ้นอย่างใหญ่ (ลองดูจากในรูปได้) ซึ่งเชฟทำออกมาได้ดีเยี่ยมจริงๆ หนึบนุ่มกำลังดี แถมน้ำซอสนั้น ยิ่งไม่มีที่ติเลยจริงๆ Recommended อีกแล้วครับ มาแล้วต้องสั่ง สั่งสัก 2-3 จานไปเลย
ต่อไปก็เป็นเมนู Grilled Half Canadian Lobster ใช่ครับมันคือ Lobster ตัวใหญ่ๆ เสิร์ฟมาครึ่งตัว ใครชอบ Lobster นี่ไม่ควรพลาดจานนี้จริงๆ โดยเฉพาะเนื้อตรงช่วงก้าม ยิ่งแคะยิ่งอร่อย อันนี้ควรสั่งอย่างยิ่งครับ ทีเด็ดทีขาดอยู่ที่หอมแดงย่างจนเป็น Caramel นี่แหละ ทานคู่กับเนื้อกุ้ง Lobster อร่อยเหาะ
ต่อมาคือ Australian Stockyard Wagyu Striploin ซึ่งเราเลือกย่างความสุกแบบ Medium Rare ซึ่งปกติแล้ว Buffet ไม่สามารถสั่งได้ครับ แต่ที่นี่ทำให้แบบพิเศษสุดๆ และเนื้อถือว่ารสชาติเยี่ยมยอดมากจริงๆ อร่อยแบบพอดี นิ่มและชุ่มช่ำมากเลยครับ อันนี้ใครเป็นสายเนื้อไม่ควรพลาดเด็ดขาด ส่วนอีกจานคือ Grilled Australian Lamb Chop อันนี้ส่วนตัวนั้นไม่ค่อยชอบกลิ่นสาบแกะสักเท่าไรนัก เลยรู้สึกธรรมดาครับ แต่เนื้อนั้นย่างออกมาได้นุ่มลิ้นดี แต่กลิ่นก็ทำให้ความอร่อยหายไประดับหนึ่งเลย ซึ่งถ้าใครชอบเนื้อแกะ อันนี้แนะนำครับ (แต่ MDs ขอผ่าน)
จานหลักจานสุดท้ายที่ MDs ได้ลอง (เพราะอิ่มมากจริงๆ และจะเผื่อท้องไว้ทานของหวานด้วย) คือ Truffle Scrambled Eggs เพราะโดยส่วนตัวชอบกลิ่นของเห็ด Truffle อยู่แล้วเป็นทุนเดิม และเมนูนี้ก็ไม่ผิดหวังครับ แต่ขอแนะนำว่าควรสั่งมาแบ่งกัน เพราะเชฟปรุงมาค่อนข้างหนักเนยค่อนข้างมาก อาจเลี่ยนได้สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบทานเนย แต่กลิ่น Truffle มาเต็มๆ ครับ ใครชอบก็ลุยได้เลย
จบกันกับจานหลักครับ มาต่อกันที่ของหวาน ต้องยอมรับครับว่าของหวานที่นี่ “อร่อยทุกอย่าง” คือตักมาหลายอย่างมาก ไม่ผิดหวังเลยสักอย่างครับ โดยเฉพาะ Macaroon ที่ถือว่าอร่อยแบบสุดๆ ทานคู่กับกาแฟนี่ตัดคาวได้ดีมากจริงๆ
มาถึงตรงนี้ ทุกท่านคงอยากทราบแล้วสินะครับว่าราคาต่อหัวเท่าไร กับการสั่ง Lobster ได้ไม่อั้น Scallop ชิ้นโตที่จะสั่งกี่จานก็ได้ รวมไปถึงเนื้อ Wagyu อย่างดี ย่างความสุกได้ตามต้องการ / หอยนางรมจากต่างประเทศที่เสิร์ฟไม่อั้น / Caviar ที่สามารถตักได้เรื่อยๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มาในราคาเพียง 2,800.- NET (ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มครับ) ราคานี้รวมเครื่องดื่ม Soft Drink และชากาแฟไว้แล้ว แต่ถ้าอยากจะดื่ม Cocktail / Wine ก็เพิ่มเป็น 4,900.- NET ก็สามารถดื่มได้แบบไม่อั้นกันไปเลย
บอกแบบไม่อายปากเลยครับว่า นี่คือ Sunday Brunch ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ ใครยังไม่เคยมาลองทาน ต้องมาลองสักครั้งครับ MDs รับประกันว่า “คุณจะลืม Buffet ราคา 800-900 บาทไปเลย”
ใครสนใจก็มาลิ้มลองความอร่อยได้ที่ห้องอาหาร The District Grill Room and Bar ในโรงแรม Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit บุฟเฟ่ต์แบบ Sunday Brunch มีทุกๆวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 12:00 น. เป็นต้นไปนะครับ