จากข้อมูลงานวิจัยในต่างประเทศพบว่าผู้ชายที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี จำนวน 1 ใน 4 คน มักจะมีอาการที่เรียกว่า “Erectile Dysfunction” (อีเร็กไทล์ ดิสฟังก์ชั่น) หรืออาการเซ็กส์เสื่อมเนื่องจากอวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ตามต้องการในขณะที่กำลังจะมีเพศสัมพันธ์ หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า “นกเขาไม่ขัน” นั่นแหละครับ
สาเหตุของการเกิดอาการ Erectile Dysfunction ในผู้ชายนั้น มีมากมายหลายแบบหลายสไตล์ แบ่งได้เป็นสาเหตุจากทางด้านสภาพร่างกาย (Physical) เช่น เป็นโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐานมากๆ, มีปัญหาเรื่องคอเลสตอรอลในเลือดสูง, เป็นโรคเกี่ยวกับความดันเลือด หรือมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ต่ำเกินไป เป็นต้น อีกสาเหตุหนึ่งคือเกี่ยวกับสภาพจิตใจ (Mental) เช่น ตื่นเต้นเกินไป หรือขาดความมั่นใจเพราะเคยล้มเหลวในการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนหน้านี้ หรือมีความต้องการทางเพศลดลง เหล่านี้ก็สามารถทำให้ “นกเขาไม่ขัน” ในเวลาที่เราจำเป็นต้องใช้มันได้เช่นกัน
แต่ถ้าหากผู้ชายคนไหนที่กำลังอ่านบทความนี้และรู้ตัวว่า ตัวเองประสบปัญหาเกี่ยวกับความแข็งตัวของอวัยวะเพศตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น เป็นมาตั้งแต่อายุเพิ่งจะ 20 กว่าปีเท่านั้นเอง นั่นอาจทำให้เราสงสัยว่า “มันเกิดขึ้นได้เพราะอะไร?” ในเมื่อสุขภาพก็ยังดี ไม่มีปัญหาความดัน หรือเบาหวานอะไรทั้งนั้น ยังคงออกไปเตะบอลกับเพื่อนได้ตามปกติ และก็ยังมีอารมณ์ทางเพศเหมือนเดิมทุกอย่าง “แต่ทำไมมันถึงไม่แข็ง เวลาที่เราจะลงสนามจริงล่ะ?”
คำตอบหนึ่งที่เราควรหันมาให้ความสนใจอย่างจริงจังนั่นก็คือ “หนังโป๊” ที่ผู้ชายเราดูกันเป็นประจำนี่แหละครับ เพราะปัจจุบันเราสามารถหาหนังโป๊หนังเอวีดูได้อย่างง่ายดายบนโลกอินเตอร์เน็ต จนทำให้เราเกิดสภาวะ “ติดหนังโป๊” ยิ่งถ้าต้องดูไปด้วยและ “ช่วยตัวเอง” ไปด้วยทุกครั้ง แถมทำเช่นนี้เป็นประจำแทบทุกวัน แบบนี้แปลว่าเข้าขั้น “ติดหนังโป๊” ในระดับหนึ่งได้แล้วนะครับ
ผลที่จะเกิดขึ้นตามมาจากสภาวะ “ติดหนังโป๊” อย่างกรณีข้างต้นนั่นก็คือ สารที่มีชื่อว่า Dopamine ซึ่งเป็นสารที่จะเกิดขึ้นเมื่อเรามีความสุข จะถูกร่างกายผลิตออกมามากเกินไป แต่พอมันผลิตออกมามากเข้า ร่างกายก็จะเกิดอาการ “ดื้อยา” หมายความว่า Dopamine ในขนาดเท่าเดิม ไม่สามารถที่จะเร้าอารมณ์หรือสร้างความสุขให้คุณได้อีกต่อไป เราจะต้องการหนังโป๊ที่เร้าอารมณ์มากขึ้น, แรงขึ้น, โลดโผนยิ่งขึ้น, ถูกใจเรามากขึ้น หรือต้องเป็นหนังในสไตล์ที่เราต้องชอบมากๆ เท่านั้นมันถึงจะฟิน และนั่นจะส่งผลเสียถึงเวลาที่เราจะต้องมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงจริงๆ ที่ไม่ใช่การดูหนังโป๊ สมองที่สั่งการผิดเพี้ยนมาตลอดจะไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าที่ควร ส่งผลทำให้ “นกเขาไม่ขัน” ในที่สุดครับ
ในทางการแพทย์เรียกอาการนี้ว่า “Porn-Induced Erectile Dysfunction” (PIED) หรืออาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศที่เกิดจากการดูหนังโป๊บ่อยเกินไป ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับสภาพร่างกาย หรือ โรคร้ายแรงประจำตัว หรือ สภาพจิตใจที่เกิดจากความวิตกกังวล แต่เกิดจากความตายด้านของสมองของเราเองล้วนๆ อาการของคนที่เป็นก็คือ อวัยะเพศไม่แข็งตัวตอนช่วงเช้า, ชอบดูหนังโป๊เป็นประจำ, ช่วยตัวเองแทบทุกวัน และทุกครั้งต้องดูหนังโป๊ไปด้วยเสมอ เป็นต้น อย่างไรก็ตามอาการ PIED นั้นมีวิธีการแก้ไขที่ง่ายกว่าโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศแบบอื่นๆ แต่จะต้องอาศัย “พลังใจและวินัย” ล้วนๆ ในการแก้ไขสภาพดังกล่าวครับ
อย่างแรกคือ “เลิกดูหนังโป๊” เลิกขาดเลยได้ยิ่งดี นอกจากหนังโป๊แล้วก็ต้องพยายามเลิกดูอย่างอื่นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือโป๊, รูปภาพวับๆแวมๆ หรือเกมส์ หรือจะอะไรก็ตามก็ขอให้เลิกไปให้หมด อย่างที่สองคือ ต้องช่วยตัวเองให้น้อยลงกว่าเดิม หรือไม่ต้องช่วยตัวเองเลยได้ก็จะเป็นการดีมาก แต่ถ้าหากทนไม่ไหว ก็สามารถทำได้บ้างนานๆที แต่มีข้อแม้สำคัญคือต้องห้ามดูหนังโป๊ประกอบไปด้วยเป็นอันขาด ให้ใช้วิธีการพยายามจินตนาการในหัวของเราเองเท่านั้น ถ้าทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไปแบบมีวินัยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 60-120 วัน (แล้วแต่ความรุนแรงของอาการในสมองของเราเอง) เราจะเริ่มเห็นว่าน้องชายของเรามีการแข็งตัวในตอนเช้าบ่อยขึ้น ส่วนสมองก็จะเริ่มโหยหาเรื่อง SEX มากขึ้น และแม้แต่อะไรเล็กๆน้อยๆ ก็สามารถที่จะกระตุ้นอารมณ์เราได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น แตกต่างจากเมื่อก่อนที่จะต้องเป็น “หนังโป๊เด็ดๆ” เท่านั้น เราถึงจะโอเคและมีอารมณ์ร่วมกับมัน และอย่างสุดท้ายคือรักษาสุขภาพร่างกายตัวเองให้ดีด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งจะทำให้อาการ PIED ของเราบรรเทาในเวลาที่เร็วขึ้นครับ
ใครก็ตามที่ประสบปัญหาเรื่องนี้ อย่าหลอกตัวเองว่าไม่เป็นอะไร หรือคิดว่าสามารถใช้ยาแก้อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศควบคู่ไปด้วยก็ได้ เพราะขึ้นชื่อว่า “ยา” มันก็คือสารเคมีที่เมื่อรับเข้าไปในร่างกายมากเข้าก็ไม่เป็นผลดี ทางที่ดีลองทบทวนดูเสียก่อนว่า เรามีพฤติกรรม “ติดหนังโป๊” แบบที่ MenDetails ได้อธิบายไปหรือไม่? ถ้าหากว่าเราเข้าข่าย ลองหักห้ามใจตัวเองเลิกดูมันสักพัก เพราะผลลัพธ์ที่ได้นั้น “คุ้มค่า” กับการฝืนใจตัวเองเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียวครับ