หากพูดถึงร้านอาหารในฮ่องกงที่โด่งดังจนเป็นตำนาน จนเหล่าฟู้ดดี้จากทั่วโลกอยากมากินให้ได้สักครั้ง เชื่อว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อ Mott 32 อยู่ในรายชื่อด้วยอย่างแน่นอน ร้านอาหารจีนสไตล์โมเดิร์นกวางตุ้งนี้ แม้จะเปิดยังไม่ถึงสิบปีแต่ด้วยการบริการ คุณภาพอาหารที่ยอดเยี่ยม ทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลมาลิ้มลองความอร่อยไม่ขาดสาย การันตีด้วยยอดจองแสนยาวเหยียดขนาดที่ว่าถ้าไม่จองก่อนล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ โอกาสเดิน Walk in เข้าไปนั้นแทบเป็นศูนย์ และแม้ปัจจุบันจะเริ่มมีสาขาตามเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ ของโลก แต่หลายคนก็ยังอยากสัมผัสบรรยากาศของร้านต้นตำรับที่ฮ่องกงอยู่ดี
สำหรับใครที่เคยได้ยินชื่อร้าน แต่อาจจะไม่รู้จักว่าร้านนี้มีอะไรโดดเด่นจนกลายเป็นตำนาน หรือยังไม่รู้ว่าร้านนี้ถือกำเนิดมาได้อย่างไร MenDetails ก็ขอแนะนำความเป็นมา เรื่องราวของร้านอาหารร้านนี้ให้ทุกคนรู้จักในบทความนี้ครับ
จากชื่อร้านขายของชำที่เป็นจุดเริ่มต้น Chinatown สู่ชื่อร้านอาหารระดับโลก
ชื่อของร้านเป็นการคารวะถึงที่อยู่เลขที่ 32 บนถนน Mott Street ใน New York City ที่ถือว่ามีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของกลุ่มคนชาวจีนที่เดินทางไปตั้งรกรากที่สหรัฐอเมริกา เพราะที่แห่งนี้ถือเป็นที่ตั้งของร้านขายของชำแบบจีนร้านแรกของสหรัฐอเมริกาเปิดให้บริการในปี 1891 และที่ตรงนั้นเองที่กลายมาเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการเติบโตและพัฒนาจนกลายเป็น Chinatown ในปัจจุบัน
ร้านนี้จึงเป็นเหมือนตัวแทนในการนำเสนออาหารจีนในสไตล์โมเดิร์น รวมถึงบอกเล่าเรื่องราววัฒนธรรมและอาหารการกินของชาวฮ่องกงผ่านทุกสิ่งทุกอย่างในร้าน เหมือนที่ครั้งหนึ่งร้านขายของชำแบบจีนร้านนั้นบนถนน Mott Street ได้เป็นจุดเริ่มต้นของชุมชนชาวจีนในสหรัฐอเมริกา
การตกแต่งที่สะท้อนประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเกาะฮ่องกง
สำหรับสาขาฮ่องกงเปิดให้บริการในปี 2014 ร้านตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของอาคาร Standard Chartered Bank Building อาคารธนาคารเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1990 อยู่ในเขต Central เขตธุรกิจที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานของบริษัทชั้นนำระดับโลก เป็นสถานที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาหลายสิบปี แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเกาะฮ่องกงผ่านสถานที่เหล่านั้นเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ
ด้วยฝีมือการออกแบบภายในของ Joyce Wang นักออกแบบที่มีชื่อเสียงจากการออกแบบภายในให้ร้านอาหาร โรงแรมชั้นนำระดับโลกมากมาย และร้านอาหารร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่โดดเด่นของเธอ เพราะตัวร้านได้รับรางวัลการออกแบบภายในมากมายจากหลายสำนัก โดยเฉพาะรางวัล World Interior of the Year 2014 จากงาน INSIDE World Festival of Interiors
การออกแบบของร้านเลือกที่จะแปลงโฉมชั้นใต้ดินของอาคารโดยยังคงองค์ประกอบบางอย่างที่มีอยู่แต่เดิมไว้เพื่อเป็นการบอกเล่าประวัติศาสตร์ของสถานที่นี้ผ่านสิ่งของเหล่านั้น เช่น ผนัง โครงเหล็ก โดยมีการแต่งเติมด้วยของเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอายจีนผสมตะวันตกซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถสัมผัสได้ในเกาะฮ่องกง ไปจนถึงของตกแต่ง ภาพวาดต่าง ๆ ที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนฮ่องกง แต่ยังคงให้ความรู้สึกหรูหราในตัว ทำให้คนที่มานั่งกินอาหารในร้านได้ซึมซัมบรรยากาศและช่วยเสริมให้รสชาติอาหารดียิ่งขึ้น
อาหารขึ้นชื่อของ Mott 32 จากวัตถุดิบคุณภาพ
ในด้านอาหาร ร้านนี้เลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมที่คัดมาแล้วจากทั่วโลก เพื่อนำเสนออาหารรสชาติดีที่สุดให้กับแขกผู้มาเยือน โดยมีเชฟ Lee Man Sing เป็นผู้ควบคุมคุณภาพอยู่เบื้องหลัง และมีการใช้เทคนิคการทำอาหารที่ล้ำสมัยจากทั่วโลกมาสร้างสรรค์อาหารเมนูต่าง ๆ หลักจะเป็นอาหารกวางตุ้ง แต่ก็มีการผสมผสานอิทธิพลจากภูมิภาคอื่น ๆ ของจีนเข้ามาด้วย เพื่อนำเสนออาหารจีนอันเลื่องชื่อจากวัฒนธรรมจีนเพิ่มเติมด้วยการบิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ดูสมัยใหม่มากขึ้น มีกลิ่นอายความเป็นตะวันตกผสมจีน ทำให้อาหารของที่นี่ไม่เหมือนที่ใดและมัดใจลูกค้าทุกคนตลอดเวลาที่ผ่านมา การันตีด้วยรางวัล Asia’s Top 100 Restaurants ปี 2019 และ 2020
เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามาแล้วห้ามพลาด คือ เป็ดปักกิ่ง ซึ่งจะนำเป็ดที่ผ่านการดรายเอจเป็นเวลา 42 วัน มารมควันด้วยไม้แอปเปิ้ล ใช้เวลาเตรียมราว 48 ชั่วโมง ที่สำคัญ คือ ทำจำนวนจำกัดในแต่ละวันทำให้ต้องสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น กินได้ตั้งแต่หนังและส่วนที่เหลือเชฟก็จะนำไปปรุงเมนูอื่นตามที่เราต้องการ
อีกอย่าง คือ หมูไอเบริโกบาร์บีคิว ที่ใช้หมู Iberico เกรดสูงสุดส่งตรงจากสเปนไปหมักด้วยส่วนผสมลับของทางร้านรวมถึงน้ำผึ้ง ก่อนนำไปย่างจนได้หมูแดงที่หอม อร่อย นุ่มลิ้น แน่นอนว่าเมนูเป็นที่นิยมมากจนบางวันขายหมดเกลี้ยง นอกจากนั้นพวกติ่มซำเองก็ไม่น้อยหน้า มีจานเด่นอย่างพวก ขนมจีบหมูคุโรบูตะเห็ดทรัฟเฟิล สอดไส้ด้วยไข่นกกระทานุ่ม ๆ หรือพวก เสี่ยวหลงเปาตัวซุปข้างในก็ทำได้รสชาติกลมกล่อม และฮะเก๋ากุ้งตัวโต ๆ ไม่นับเครื่องดื่ม Cocktail Signature ของทางร้านและของหวานที่มีทั้งแบบดั้งเดิม หรือเมนูที่เพิ่มความเป็นโมเดิร์นแบบตะวันตกเข้าไปเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นกัน แต่ที่หลายคนแนะนำคือ Bamboo Green Forest ที่แต่งจานจำลองภูมิภาค Anji ที่เต็มไปด้วยป่าไผ่ของจีน
ปัจจุบันร้านมีการเปิดสาขามากมายในต่างประเทศ ทั้ง Las Vegas ในสหรัฐอเมริกา, สิงคโปร์ กรุงโซลที่เกาหลี รวมถึงล่าสุดยังมีแผนจะไปเปิดที่เมือง Cebu ประเทศฟิลิปปินส์ และกรุงดูไบ แต่ร้านแรกที่ฮ่องกงก็ยังเป็นสาขาที่หลาย ๆ คนใฝ่ฝันจะมีโอกาสไปกิน เพราะความออริจินัลจากวัตถุดิบต่าง ๆ ไปจนถึงบรรยากาศ
ส่วนคนไทยอย่างเรา ๆ ใครที่อยากลิ้มลองอาหารของร้านนี้หลังจากที่ได้รู้จักกับที่มาในบทความของเราก็ตาม หรือเคยได้ยินชื่อเสียงของมันมาก่อนแล้วก็ตาม แต่ไม่มีโอกาสเดินทางไปฮ่องกง ก็สามารถไปสัมผัสรสชาติอาหารของ Mott 32 ได้ที่ชั้น 2 ของโรงแรม The Standard Bangkok Mahanakhon ครับ ทางร้านยกเมนูเด็ดของตัวเองมาเสิร์ฟให้ฟู้ดดี้ชาวไทยได้กินอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องบอกว่าต้องจองล่วงหน้าก่อนนะครับ เพราะความนิยมของร้านทำให้หางแถวตอนนี้ไม่รู้ไปสิ้นสุดที่เดือนไหนแล้วเหมือนกัน