Oasis คือหนึ่งในวงดนตรีที่ครองใจใครหลายคนมาจนถึงทุกวันนี้ มีเพลงฮิตขึ้นหิ้งระดับตำนานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Wonderwall, Don’t Look Back In Anger, Live Forever, Champagne Supernova, Cigarettes & alcohol, Morning Glory, Some Might Say และ Supersonic เป็นต้น
โนล กัลลาเกอร์ คือ หนึ่งในมือกีตาร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดช่วงปี 90 ยุคที่วงการเพลงร็อกเฟื่องฟูถึงขีดสุด เขาและน้องชายตัวแสบอย่าง เลียม กัลลาเกอร์ ได้พาวงชื่อประหลาดอย่าง Oasis ครองความนิยมไปทั่วโลก กับการเป็นแถวหน้าที่นำเพลงแนวบริทร็อกตีตลาดไปทั่วโลก
แต่ Oasis ก็เป็นอีกวงหนึ่งที่ต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายในจนถึงขั้นวงแตก ที่น่าสนใจ คือ คู่ขัดแย้งดันเป็นพี่น้องแท้ ๆ คลานตามกันมาอย่าง โนล กัลลาเกอร์ พี่ชายฝีปากจัด กับ เลียม กัลลาเกอร์ สุดห่าม หากใครได้ชมภาพยนตร์สารคดี Oasis: Supersonic คงพอทราบว่า สาเหตุมาจากการแย่งกันเป็นเบอร์ 1 ของวง
แม้ว่า เลียม กัลลาเกอร์ จะเข้าร่วมวงตั้งแต่ยังชื่อ The Rain และเป็นคนตั้งชื่อวงใหม่ว่า Oasis ก่อนจะชักชวน โนล กัลลาเกอร์ ที่ตอนนั้นเป็นแบ็คอัพให้ศิลปินคนอื่น ให้มาเป็นมือกีตาร์ของวง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตั้งแต่เริ่มต้น โนล คือแกนหลักของวง ไม่ว่าจะเป็นฝีมือในการเล่นดนตรี ความสามารถในการแต่งเพลง และประสบการณ์ในการทำเพลง
คํ่าคืนเปลี่ยนชีวิตของวง Oasis
ในวันที่ 31 พฤษภาคม 1993 โนล รู้ข่าวว่า อลัน แม็คกี ประธานบริษัทแผ่นเสียง Creation Records จะไปดูคอนเสิร์ตที่คิงทุตส์ ไนท์คลับในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสก็อตแลนด์ Oasis ลงทุนเช่ารถพาสมาชิกวงคือ เลียม นักร้อง พอล มือกีตาร์อีกคน กวิ๊กซี่ มือเบส โทนี่ มือกลอง พร้อมทีมงาน 17 คน เดินทางไปขอขึ้นแสดงในร้านโดยไม่มีการจองคิวล่วงหน้ากับโปรโมเตอร์ โชคดีที่คืนนั้น ร้านมีบอดี้การ์ดอยู่แค่ 2 คน เลยจำใจยอมให้ Oasis ที่ขนพวกมามากกว่าขึ้นเวทีครึ่งชั่วโมง และวงโอเอซิสก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับ เจ้าของร้าน แขก และ อลัน โชว์ของพวกเขาน่าประทับใจมาก อลัน แม็คกี เข้ามาชวนให้พวกเขาเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในค่ายทันที
หลังจากนั้น โนล กับ เลียม และวงของพวกเขาก็โด่งดังเป็นพลุแตก ถูกยกย่องวงเป็นวงดนตรีอันดับ 1 ของเกาะอังกฤษในตอนนั้น ช่วงเวลาตั้งแต่ปี 1994 – 2008 วง Oasis มีผลงานกว่า 7 อัลบั้ม ไล่เรียงตั้งแต่ Definitely Maybe (1994) , (What’s the Story) Morning Glory? (1995) , Be Here Now (1997) , Standing on the Shoulder of Giants (2000) , Heathen Chemistry (2002) , Don’t Belive the Truth (2005) และ Dig Out Your Soul (2008) พวกเขาผ่านความสำเร็จมากมาย ทั้งทำสถิติยอดขายสูงสุด สร้างรายได้มหาศาล เพลงติดอันดับบิลบอร์ดชาร์ท คว้าหลายรางวัลจากหลายเวทีวงการดนตรีโลก ได้จัดคอนเสิร์ตจุคนเรือนแสนที่สนามเวมบลีย์ และมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก
จุดสิ้นสุดของวง Oasis
นอกจากเรื่องความอิ่มตัวของคนในวง และกระแสของวงการเพลงที่เปลี่ยนไป หากใครที่เป็นแฟนของวงหรือติดตามข่าวสารวงการดนตรี ย่อมทราบดีว่า โนล กับ เลียม เป็นพี่น้องที่ไม่ได้รักกัน ในทางตรงกันข้าม ความสัมพันธ์ของพวกเขาเต็มไปด้วยความขัดแย้งมาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ แล้ว โนล เต็มไปด้วยอีโก้ ส่วน เลียม ก็มีความเย่อหยิ่ง แถมกวนประสาท จากการโต้เถียงเล็ก ๆ เลยกลายเป็นความแตกแยกของวง ดังนั้นการที่ Oasis รวมวงมานานเกิน 10 ปี และมีผลงานถึง 7 อัลบั้มถือเป็นเรื่องน่าทึ่งพอสมควร
ครั้งหนึ่ง โนล กัลลาเกอร์ ที่แต่งเกือบทุกเพลงดังของวง ได้ทำนองและเนื้อร้องเพลงใหม่คือ Don’t Look Back In Anger แต่เขาประกาศกร้าวว่าจะขอร้องเพลงนี้เอง เลียม กัลลาเกอร์ ฟรอนต์แมนของวงออกอาการโวยวายทันที พร้อมตั้งคำถามกับพี่ชายว่าทำไมเขาไม่ได้ร้อง ในเมื่อเป็นนักร้องของวง โนล พูดเป็นนัย ๆ ว่า เพลงนี้เขาแต่งมา และคิดว่ามันจะดีกว่าหากเขาได้ถ่ายทอดมัน ทำเอา เลียม หัวเสียมาก ทุกครั้งที่วงเล่นเพลงนี้ เลียม เหมือนทำตัวไม่ถูก เพราะไม่มีบทบาทในเพลง ถ้าอารมณ์ดีหน่อย เขาก็จะเดินเอนเตอร์เทนคนไปทั่วเวที แต่ถ้าอารมณ์ไม่ดี เขาจะพูดป่วน ขโมยซีน ไม่ก็เดินหายเข้าไปหลังเวทีเลย
ช่วงที่ผ่านมา Oasis เปลี่ยนแปลงสมาชิกไปหลายคน แต่โลโก้ของวงคือ โนล กับ เลียม อัลบั้มท้าย ๆ สองพี่น้องทะเลาะกันแทบจะทุกวัน และทวีความรุนแรงมาก บางคอนเสิร์ตเลียมเมาขึ้นเวทีจนถูกโนลไล่ บางคอนเสิร์ตไม่มีเลียม บางคนเสิร์ตโนลหายตัวไป นำมาซึ่งจุดสิ้นสุดของวงในเดือนสิงหาคม 2009 โนล ประกาศถอนตัวจากวงโดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถทน เลียม ได้อีกต่อไป
ทางเดินใหม่ของสองพี่น้องวง Oasis
โนล กัลลาเกอร์ ออกไปเป็นศิลปินเดี่ยว ในโปรเจกต์ Noel Gallagher’s High Flying Birds กับแนวเพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อก ที่เพลงช้ายังคงมีกลิ่นอายของวง Oasis ส่วน เลียม กัลลาเกอร์ พาสมาชิกวง Oasis สองคนคือ เก็ม กับ แอนดี้ ร่วมกับ คริส สมาชิกใหม่ ตั้งวงชื่อ Beady Eye ที่มีแนวเพลงคล้ายกับวง Oasis แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จและต้องยุบวงไปในปี 2014
ขณะที่ โนล กัลลาเกอร์ ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการเพลง ออกทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลก โดยมีการดึงตัว เก็ม อดีตมือกีตาร์ Oasis ที่เขาสนิทมาร่วมเป็นแบ็คอัพในวง พร้อมกับออกอัลบั้มมาถึง 3 อัลบั้ม ด้าน เลียม กัลลาเกอร์ ออกจากวงการเพลงไปสำมะเลเทเมาอยู่พักหนึ่ง พวกเขาแทบไม่ได้ติดต่อกันเลย เลียม มีแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง และเหมือนจะไปเอาดีกับโลกแฟชั่น
ความหวังของแฟนเพลง Oasis กับการรียูเนี่ยนของวง
ประกายความหวังของแฟนเพลง Oasis รวมถึงคนดังทั่วโลก ที่อยากจะได้เห็นวงกลับมารียูเนี่ยนเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เลียม กัลลาเกอร์ จู่ ๆ ก็ฟิต กลับมาทำเพลงและออกอัลบั้มในปี 2017 ในชื่อ As You Were เนื่องจากหลายคนเข้าใจว่าเสียงของเขาพังไปแล้ว แต่ผิดคาด อัลบั้ม As You Were มีเสียงตอบรับที่ดีจากทั้งแฟนเพลงเก่า ๆ ของวง Oasis และได้ฐานแฟนเพลงใหม่เพิ่ม
ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต เลียม กัลลาเกอร์ สร้างกระแสด้วยการแทรกเอาเพลงของ Oasis เข้าไปอยู่ในไลน์อัพ ซึ่งช่วงเรียกแขกได้มากพอสมควร ต่างจาก โนล ที่ไม่ค่อยจะนำเพลง Oasis ไปเล่นบนเวทีเท่าไหร่ โดยเรื่องนี้กลับสร้างความไม่พอใจให้ โนล ที่มองว่า เลียม ควรสร้างสรรค์งานใหม่ ไม่ใช่หากินกับของเก่า แน่นอนว่า เลียม ไม่สน
กระนั้น ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลัง เลียม กลับเข้าวงการเพลงอีกรอบ เขาก็ทำตัวดีขึ้น แม้จะปากเสียอยู่ แต่ก็ลดดีกรีความแรง และพฤติกรรมบ้า ๆ ลงเยอะ อาจเพราะด้วยอายุที่มากขึ้น ส่วนความบาดหมางของสองพี่น้อง โนล กับ เลียม ไม่ได้พูดกันตรง ๆ พวกเขาใช้สื่อมวลชนและโซเชี่ยลมีเดียตอบโต้กันไปมา ซึ่งแฟนเพลงกลับเห็นว่าเป็นโมเมนท์ที่ดี เลียม ลดความเย่อหยิ่ง พร้อมเอ่ยปากขอคืนดีกับพี่ชาย เขาแสดงความต้องการอย่างมากว่าอยากกลับมารวมวงกับ โนล อีก
น่าเสียดายที่ โนล ไม่เห็นด้วย เขามองว่าตัวเองเดินทางมาไกลแล้ว Oasis เป็นตำนานที่ไม่ควรถูกรื้อฟื้นกลับมาอีก ในความเห็นของเขา จน เลียม ถึงกับตัดพ้อว่า พี่ชายไม่เห็นใจเสียงเรียกร้องของแฟน ๆ แต่เขาเองก็ยังคงพยายามให้สัมภาษณ์สื่อเพื่อง้อและกดดันพี่ชายต่อไป เผื่อว่า โนล พี่ชายจะหายงอนเข้าสักวัน
การรียูเนี่ยนของวง Oasis อาจเป็นเรื่องยาก แต่หากใครอยากไปรับชมผลงานอัลบั้มใหม่ของ โนล กัลลาเกอร์ หนึ่งในมือกีตาร์ที่ได้ชื่อว่ามีฝีมือเก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของโลก หลังจากที่เขาเคยมาแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวที่ไทยเมื่อปี 2012 ปีนี้เขากลับมาอีกครั้งกับ Noel Gallagher’s High Flying Birds Live In Bangkok 2019 โดยจะขึ้นแสดงคอนเสิร์ต ในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ณ SHOW DC ARENA ได้ข่าวว่าบัตรยังมีเหลืออยู่ หนุ่ม ๆ คนในสนใจลองไปหาซื้อกันได้ครับ
ขอบคุณภาพจากเพจ https://www.facebook.com/noelgallaghermusic