นาทีนี้ ต้องบอกว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนในวงการฟุตบอลถูกพูดถึงมากไปกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Joseph ‘Pep’ Guardiola) ผู้จัดการทีมชาวสเปนของ แมนเชสเตอร์ซิตี้ อีกแล้ว กับการสร้างสถิติและปรากฏการณ์มากมายหลายอย่างให้กับพรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็นการพลิกสถานการณ์ หลังจากที่ถูกยอดทีมจากเมอร์ซี่ไซด์อย่าง ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างไปถึง 7 แต้มในช่วงก่อนสิ้นปี
ทั้งนี้ เมื่อเริ่มต้นปี 2019 เป๊ป สามารถปลุกใจนำลูกทีมฮึดกลับมาทำคะแนนจี้ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ (Jürgen Klopp) แบบหายใจรดต้นคอ กดดันจนทีมหงส์แดงและจุดประกายความหวังที่เอติฮัทสเตเดียม ด้วยการยัดเยียดความพ่ายแพ้ครั้งเดียวในฤดูกาลให้กับ ลิเวอร์พูล ในวันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม ด้วยสกอร์ 2-1 ก่อนจะเบียดแซง ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในนัดสุดท้ายของฤดูกาลแบบเหลือเชื่อ กับการบุกไปชนะ ไบรท์ตัน ถึงถิ่น 4-1 แม้ทีมเรือใบสีฟ้าจะถูกทำประตูนำไปก่อน แต่ก็นิ่งพอที่จะตีเสมอและยิงประตูแซงคู่แข่งอย่างรวดเร็ว สุดท้ายพวกเขากครองที่ 1 ของตารางด้วยคะแนน 98 แต้ม มากกว่าอันดับ 2 เพียงแต้มเดียว
ชายผู้ทำลายทุกสถิติ
ท่ามกลางความเสียใจของเหล่าเดอะค็อปทั่วโลกที่น้อยอกน้อยใจว่า Liverpool ที่ทำแต้มได้ถึง 97 คะแนน แต่ยังไม่ได้แชมป์ ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเพราะความสามารถของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ล้วนๆ ที่สร้างมาตรฐานใหม่ของสุดยอดทีมฟุตบอลบนโลกขึ้นมา โดยเขากับทีมงานและนักเตะ Manchester City FC สามารถทำลายและสร้างสถิติหลายอย่างดังนี้
– ทีมแรกในรอบ 10 ปีที่หลังจาก แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในปี 2008–09 ที่ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
– ทีมแรกที่ทำคะแนนใน 1 ฤดูกาลถึง 100 แต้ม (ฤดูกาล 2017-2018) รวมกัน 2 ฤดูกาลถึง 198 คะแนน
– ชนะติดต่อกันมากที่สุด 18 เกม (ฤดูกาล 2017-2018)
– ชนะมากที่สุดในฤดูกาล 32 เกม (ฤดูกาล 2017-2018)
– ชนะเกมเยือนได้มากที่สุดในฤดูกาล 16 เกม (ฤดูกาล 2017-2018)
– ยิงประตูมากที่สุดในฤดูกาลเดียว 106 ประตู (ฤดูกาล 2017-2018)
– จ่ายบอลมากที่สุด 902 ครั้ง ในเกมกับ เชลซี เดือนมีนาคม ปี 2018
– ทิ้งห่างจากอันดับสองมากที่สุด 19 คะแนน (ฤดูกาล 2017-2018)
– นำคู่แข่งในระหว่างเกม ซึ่งทำไปทั้งหมด 2088 นาที ตลอดฤดูกาล 2018-2019 ทำลายสถิติเดิมของ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ยุค มานูเอล เปเยกรินี่ ในฤดูกาล 2013-14 ที่ทำได้ 1,909 นาที
นอกจากนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังกำลังเดินหน้าทำสถิติใหม่อย่างการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ถ้วยในเกาะอังกฤษเป็นทีมแรก หลังทำดับเบิ้ลแชมป์ด้วยการคว้าแชมป์คาราบาวคัพในบอลถ้วยกับพรีเมียร์ชีพในบอลลีกไปแล้ว ในวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม นี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด แมนฯซิตี้ น่าจะเอาชนะ วัตฟอร์ด คว้าแชมป์เอฟเอคัพ ถ้วยฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุเในโลกได้สำเร็จ พร้อมจบฤดูกาลด้วยสามถ้วยในมือ รวมถึงการขึ้นเป็นผู้จัดการที่ได้แชมป์มากที่สุดอันดับ 5 โลกตลอดกาล กว่า 27 โทรฟี่ เป็นรองเพียงแค่เหล่า 4 กุนซือในตำนานของโลกอย่าง ออตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ (28 โทรฟี่) , วาเลรี่ โลบานอฟสกี้ (30 โทรฟี่) , มีร์เซีย ลูเชสคู ( 32 โทรฟี่ ) และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ( 49 โทรฟี่) เท่านั้น ซึ่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในวัยเพียง 48 ปี มีโอกาสที่จะลุ้นที่จะไต่อันดับไปมากกว่านี้ในอนาคต
การสร้างรูปแบบการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่เฉพาะการสร้างแผนการเล่นขึ้นมาใหม่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดคนหนึ่งของโลกในตอนนี้ สร้างสรรค์รูปแบบการเล่นที่เปลี่ยนแปลงวงการฟุตบอลไปตลอดกาลอย่าง ตีกี ตาก้า ที่เริ่มต้นมาจากการทำทีม บาร์เซโลน่า จนได้ฉายาว่า ทีมต่างดาว ด้วยการต่อบอลสั้นอันลือลั่น ที่นักข่าวนิยามว่าเป็นฟุตบอลสไตล์ ตีกี ตาก้า แม้ว่าหลายคนจะให้เครติดว่าเขาสร้างฟุตบอลสไตล์สวยงามนี้ขึ้นมา ซึ่งแนวทางฟุตบอลแบบนี้เองที่ได้พาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2010 แต่ เป๊ป ยืนยันว่าการต่อบอลของทีมบาร์เซโลน่าต่างออกไปจากทีมชาติสเปน พวกเขาไม่ได้ต่อบอลไปเรื่อยแบบไร้จุดหมายหรืออยู่กับที่ ทว่าการต่อบอลสไตล์ของเขาต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
หลังประสบความสำเร็จกับ บาร์เซโลน่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หาความท้าทายใหม่ในเยอรมัน เขาสามารถปรับสไตล์การเล่นบอลโด่งของทีมบาเยิร์นมิวนิค ให้หันมาเล่นบอลบนพื้นได้ แน่นอนว่า เป๊ป ยังคงคว้าแชมป์ลีกได้เช่นเดิม พร้อมกับการทดลองอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะมิติใหม่ของวงการฟุตบอลกับแผนการเล่นแบบกองหลังตัวเดียว ในระบบ 3-3-3-1 ซึ่งใช้เซ็นเตอร์อาชีพคือ เจอร์โรม บัวเต็ง เป็นปราการหลังเดี่ยว แต่ปัญหาการเมืองในทีมเสือใต้ทำให้เขาเลือกที่จะย้ายมาคุมทีม แมนเชสเตอร์ซิตี้ เพื่อความสบายใจ เพราะเจ้าของทีมเรือใบสีฟ้าที่เป็นมหาเศรษฐียืนยันว่าจะสนับสนุน เป็ป ทุกอย่าง
ฤดูกาลแรกของ เป๊ป กับทีมแมนฯซิตี้ เขาเปลี่ยนสไตล์การเล่นของทีมเรือใบสีฟ้า พาทีมจบอันดับ 3 ไม่ได้แชมป์อะไรเลย ทั้งที่ใช้เงินซื้อตัวผู้เล่นไปหลายล้านปอนด์ เป็ป ต้องเจอกับเสียงวิพากย์วิจารณ์มากมาย แต่เขายืนยันว่าต้องใช้เวลาในการสร้างทีมใหม่ เป๊ป บังคับให้นักเตะในทีมทุกคนต่อบอลจากผู้รักษาประตูขึ้นมา แทนที่จะใช้วิธีเตะสาดขึ้นมาวัดดวงให้ผู้เล่นตัวใหญ่แย่งบอลกันกลางอากาศเหมือนทุกทีม นักเตะคนไหนที่ไม่สามารถปรับตัวให้เขากับสไตล์การส่งบอลจากหน้าเขตโทษฝั่งตัวเอง เขาก็พร้อมที่จะโละออกจากทีมทันที ขณะเดียวกัน เป็ป ก็เห็นต่างจากผู้จัดการทีมคนอื่น เขาชอบกองหน้าตัวเล็ก มากกว่ากองหน้าตัวใหญ่ที่หลายๆทีมเห็นว่าจำเป็นต้องมีเพื่อความได้เปรียบ และ เป็ป ก็พิสูจน์ให้หลายคนเห็นรูปร่างไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในสนามฟุตบอล โดยเขาสามารถปั้น กุน อเกวโร่ ที่มีส่วนสูง 173 เซนติเมตร ให้กลายเป็นดาลซัลโวพรีเมียร์ลีก กับ ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลแมนฯซิตี้ ได้สำเร็จ
ใครจะเชื่อว่า ฟุตบอลที่เน้นการต่อบอลสั้นสไตล์ เป็ป ที่มีความเสี่ยงต่อการผิดพลาดและเสียประตูหากถูกคู่แข่งหากถูกแย่ง จะได้รับความนิยมขึ้นในโลกฟุตบอล หลังฤดูกาลมหัศจรรย์ของทีมเรือใบสีฟ้าที่นำจ่าฝูงแบบม้วนเดียวจบ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างง่ายดายในฤดูกาลที่สองที่เขาคุมทีม หลายทีมใหญ่ในโลกเปลี่ยนมาเอาอย่าง แมนฯซิตี้ ด้วยการฝึกให้นักเตะเกมรับรวมถึงผู้รักษาประตูต่อบอล ขึ้นเกมจากแดนหลังมาสร้างเกมบุก แทนที่การเตะบอลโด่งขึ้นมาแล้วลุ้นว่าจะกองหน้าหรือตำแหน่งอื่นๆจะเก็บบอลไหม บอลสั้นสมัยใหม่ของเขาสามารถสร้างโอกาสขึ้นไปทำประตูได้มากกว่า บอลยาวสมัยโบราณ และแท็กติกนี้มีส่วนที่ทำให้ เป็ป เป็นผู้จัดการทีมที่มีเปอร์เซนต์ชนะเฉลี่ยเกิน 80 % ในแต่ละแมตช์
ผู้จัดการทีมจอมเจ้าระเบียบ
ความเจ้าระเบียบและความละเอียดของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขึ้นชื่อลือชามาก เขาไม่ได้เน้นการคุมทีมฟุตบอลเฉพาะการจัดตัวผู้เล่นหรือวางแผน แต่ดูแลจัดการไปถึงภาพรวมต่างๆของทีม รวมถึงกิจวัตรประจำวันของนักเตะ ไม่ว่าจะเป็น การฝึกซ้อม การกินอาหาร การใช้มือถือ การเล่นโซเชี่ยลมีเดีย ในแคมป์ฝึกซ้อม ที่หากมีใครแหกกฏ เขาก็พร้อมที่จะลงโทษ ตั้งแต่ ตักเตือน ดร็อปเป็นตัวสำรอง ปรับเงิน ไปจนถึงขายพ้นออกจากทีม
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังใช้จิตวิทยาในการควบคุมทีม ภาพที่แฟนบอลเห็นจนชินตาคือ การปลุกเร้านักเตะข้างสนาม การติวเข้มในห้องแต่งตัวระหว่างพักครึ่ง การดีใจหรือปลอบใจลูกทีมหลังจบเกม และการให้สัมภาษณ์สื่ออย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าสถานการณ์ของทีมในตอนนั้นจะเป็นอย่างไร เขากระตุ้นนักเตะให้มีความสามัคคี เล่นเพื่อทีมได้ แม้ว่าทีมเรือใบสีฟ้าจะกลายเป้นสโมสรยักษ์ใหญ่ เต็มไปด้วยซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกที่ได้ค่าเหนื่อยมหาศาล โดยจัดการให้นักเตะทุกคนอยู่ในกฏระเบียบอย่าเท่าเทียมกัน ไม่มีนักเตะคนไหนได้อภิสิทธิ์พิเศษเหนือกว่าคนอื่น เขาเปิดโอกาสให้นักเตะหน้าใหม่ นักเตะดาวรุ่ง ได้โชว์ฝีเท้าในหลายเกม หากทำผลงานได้ดี และก็พร้อมที่จะจับนักเตะชื่อดังเป็นตัวสำรองถ้าฟอร์มตก ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้าในยุคของเขาแทบจะไม่เคยประสบปัญหาความขัดแย้งในสโมสร ไม่ว่าจะระหว่างนักเตะกับนักเตะ นักเตะกับทีมสตาฟ หรือ นักเตะกับผู้จัดการทีม เลย เป๊ป เอาใจใส่ลูกทีม สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับพวกเขา พร้อมพูดคุย ให้คำปรึกษาทุกคน ไม่มีอีโก้ ความสัมพันธ์ของเขากับลูกทีมจึงถือว่าดีกว่าผู้จัดการทีมหลายๆคน
สุภาพบุรุษลูกหนัง
ถึงเกมฟุตบอลตลอดฤดูกาล 2018-2019 จะเต็มไปด้วยความกดดัน และมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย หลายครั้งมีการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมต่อทีมของเขา แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ได้รับการยกย่องว่าควบคุมคำพูดของตัวเองได้ดี ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์ใส่ร้าย ดูหมิ่น หรือ เยาะเย้ยใคร ต่างกับผู้จัดการทีมหัวร้อนหลายๆคนในโลกที่ชอบออกมาทำสงครามนํ้าลายผ่านสื่อ ในทางตรงกันข้าม เขาให้เกียรติคู่แข่งเสมอ ตอนที่ทีมแพ้ เป๊ป จึงไม่ลืมที่จะให้เครดิตฝ่ายที่ชนะ และแม้กระทั่งตอนที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก เขาก็กล่าว ขอบคุณทีมลิเวอร์พูลพร้อมยกย่อง เจอร์เก้น คล็อป ว่ามีส่วนช่วยให้ แมนฯซิตี้ ยกระดับทีมขึ้นในปีนี้
และในกรณีที่ลูกทีมของเขาพุ่งล้ม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเป็นคนแรกที่ตะโกนต่อว่านักเตะของตัวเองทันที โดยหากว่าทีมของเขาได้ประโยชน์จากการตัดสินที่ผิดพลาด เป๊ป ก็ไม่ลังเลที่จะบอกกับสื่อว่า ไม่ได้อยากได้ประตู รวมถึงชัยชนะแบบนั้น นี่คือสปิริตที่หาได้ยากยิ่ง ในโลกที่กีฬากลายเป็นเรื่องของธุรกิจ เหล่านี้บ่งบอกถึงการเป็น สุภาพบุรุษลูกหนัง ของเขาได้อย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจที่ เป็ป จะเป็นผู้จัดการทีมที่คนส่วนใหญ่รักไคร่
เสื้อสเวตเตอร์แขนยาวสีเทา เอกลักษณ์อันโดดเด่น
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พยายามสร้างความแตกต่างจากคนอื่น ด้วยการสร้างเครื่องแบบของตัวเองขึ้นมาอย่าง การใส่เสื้อสเวตเตอร์แขนยาวสีเทาแทบจะตลอดเวลา ต่างจากกุนซือคนอื่นๆในลีกฟุตบอลอังกฤษที่มักใส่เสื้อสูทหรือไม่ก็แจ็คเก็ตคุมทีมข้างสนาม จนทำให้หลายคนเรียกเขาว่า “สตีฟ จ็อบส์ แห่งวงการฟุตบอล” เพราะผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลเองก็มีชุดคล้ายๆกันอย่าง เสื้อแขนยาวคอเต่าสีดำ
เสื้อสเวตเตอร์แขนยาวสีเทา กางเกงขายาวสีดำ กลายมาเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นทุกครั้งที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อในฤดูกาล 20-18-2019 ด้วยการแต่งตัวแบบนี้ มันคือความตั้งใจ คล้ายกับต้องการสร้างลายเซ็นต์ขึ้นมา ซึ่งก็ได้ผลในแง่การมีสไตล์ส่วนตัว จนกลายเป็นภาพจำของเขาไปแล้วในตอนนี้ สินค้าต่างๆเกี่ยวกับตัว เป๊ป ที่ถูกผลิตขึ้นมา เขาต้องอยู่ในชุดเสื้อสีเทา แฟนบอลหลายคนแต่งกายเลียนแบบเขา แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องแฟชั่นอย่างเดียว เครื่องแบบนี้มีผลต่อลูกทีมที่อยู่ในสนาม ต่อแฟนบอลข้างสนาม และต่อนักข่าวในห้องแถลงข่าว ทั้งการสร้างบุคลิกที่เป็นกันเองจากยูนิฟอร์มที่คุ้นตา ความมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงในชุดเดิมๆ ไปจนถึงการใช้หัวสมองไปคิดเรื่องสำคัญอื่นๆแทนที่จะมากังวลว่าจะใส่อะไรไปทำงาน เรียกได้ว่านอกจากจะทำให้แบรนด์ของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ ทิ้งห่าง แบรนด์ของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับร่วมเมืองแบบไม่เห็นฝุ่นในโลกฟุตบอลแล้ว เป๊ป ยังเป็นนักการตลาดที่สามารถสร้างแบรนด์เฉพาะตัวของเขาขึ้นมาได้อีกด้วยไม่ว่าเขาจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
ชีวิตของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นบทเรียนที่น่าสนใจทั้งในแง่ของการมุ่งมั่น ทุ่มเทในการทำงาน แนวคิดที่น่าสนใจ ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง การใส่ใจในรายละเอียด จนสามารถทำทีมฟุตบอลคุณภาพที่ยากจะหาคู่แข่งมาต่อกร และเชื่อว่าเขากับลูกทีมคงไม่หยุดแค่นี้ ในฤดูกาลหน้าชายที่ชื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะสร้างประวัติศาสตร์อะไรใหม่ๆให้กับวงการฟุตบอลอีกบ้าง รอติดตามผลงานของเขาได้เลย
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://twitter.com/ManCity