โอกาสไม่ได้มาบ่อยๆ ครับ เมื่อเรามีโอกาสได้พบกับคุณเรย์ แมคโดนัลด์ MDs เลยขอถือโอกาสนี้นั่งจับเข่าคุยถึงชีวิตการทำงาน ประสบการณ์การเดินทางที่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้มีโอกาสอย่างผู้ชายคนนี้ “ผู้ชายคนที่พึ่งประกาศหักอกผู้หญิงไทยกว่าครึ่งค่อนประเทศ” ที่ปัจจุบันนี้ก็ยังคงเดินทางบน “เส้นทางนักผจญภัย” ในรายการ Rayron (เร่ร่อน) ซึ่งคุณสามารถติดตามได้ผ่านช่องทาง Facebook ตามลิงค์นี้ (คลิก)
MDs’ : เริ่มเลยละกันนะพี่ อยากรู้ว่าพี่เรย์ชอบประเทศไหนที่สุดเท่าที่เคยเดินทางมา
พี่เรย์ : ชื่นชอบที่สุดหรอ ตอบยากเลยนะ เพราะแต่ละที่ที่ผมไป มันก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป (ครุ่นคิดนิดหน่อย) แต่ประเทศแรกที่วิ่งเข้ามาในหัวเมื่อกี้นี้เลยนะคือ “มองโกเลีย” นะแบบขึ้นมาในหัวตอนนี้เลยเนี่ย
MDs’ : ทำไมไม่สักประเทศในยุโรปหรือแอฟริกา ทำไม “มองโกเลีย” ครับพี่
พี่เรย์ : เรารู้สึกว่าวิถีชีวิตของคนในมองโกเลียมันน่ารักมากเลยนะ มันกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านบางอย่าง แต่ส่วนหนึ่งก็ยังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมตั้งแต่สมัยยุค เจงกีส ข่าน คือใช้ชีวิตอยู่ในทุ่งหญ้า อยู่ในกระโจม และย้ายถิ่นฐานไปตามฤดูกาล เหมือนเดินทางเพื่อหาผืนหญ้าให้กับสัตว์ที่เขาเลี้ยง ตรงนี้แหละที่ทำให้มันมีเสน่ห์ คือการเป็นมนุษย์ที่ปรับตัวเข้ากับธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ กับอุณหภูมิ -30 องศา หรือหน้าร้อนก็อาจพุ่งไปถึง 30 องศาเลยก็มี และอีกอย่างเลยที่เรารู้สึกคือการใช้ชีวิตที่ไม่มีขอบเขตรั้วมาปิดกั้นดินแดน เหมือนผืนหญ้าเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใครจะใช้ก็ได้
-ถ่ายรูปหมู่ร่วมกับชนเผ่าวารี-
ทุกครั้งที่เราเจอคนที่พึ่งพาตัวเองได้แบบ 100% เราจะรู้สึกว่าคนเหล่านี้แหละ “มีเสน่ห์” ในมุมที่เราเองคาดไม่ถึงในหลายๆ สถานการณ์
MDs’ : แล้วอะไรครับที่เป็นแรงผลักดันให้พี่อยากจะออกเดินทาง เนื่องจากก่อนหน้านี้พี่เรย์เป็นนักแสดงไง แล้วอยู่ๆ หันหลังให้วงการ เลยอยากรู้ว่าทำไมครับ
พี่เรย์ : มันก็แค่ “นักแสดงปลอมๆ แหละ” แต่สาเหตุเลยคือ เราอยากลองไปหลายๆ ที่ อยากลองใช้ชีวิตให้สุดดู ตอนนั้นก็อายุแบบ 20 ต้นๆ เนอะ ก็อยากจะไปลองเห็นว่าอีกฝั่งของโลกมันมีอะไรดี หรือไม่ก็น่าจะเป็นเรื่องของที่บ้านที่แบบไม่ค่อยอบอุ่นเท่าไรหรือป่าว (หัวเราะ) จริงๆ มันคือปมเล็กๆ แหละนะ โตขึ้นมันก็หายไป แต่ไม่รู้ว่ามันมามีผลให้ออกเดินทางหรือป่าวนะ แต่ทั้งหมดทั้งมวล มันคือเหตุที่ถีบเราออกมาสู่โลกกว้างนี่แหละ
MDs’ : ช่วงนี้มองไปทางไหนก็มีคนอยากจะออกไปเดินทางเต็มไปหมด พี่เรย์มีอะไรอยากแนะนำมั้ยครับ
พี่เรย์ : คือช่วงหลังๆ เนี่ย เราเห็นน้องๆ รุ่นใหม่ๆ ออกเดินทางกันเต็มไปหมดเลย ซึ่งเราชอบมากเลยนะ เพราะมันผลักดันให้ทุกๆ คน “กล้าที่จะออกไปเจอโลกกว้าง” ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วเนี่ย เราเคยทำรายการแบบนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปอังกฤษ ซึ่งตอนนั้นน่าจะมีแค่เราคนเดียวมั้ง พูดแล้วดูแก่ขึ้นมาทันทีเลย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้คือมีแต่คนอยากไปกัน ถือเป็นยุครุ่งเรืองของวงการ Backpacker เลยก็ว่าได้นะ ซึ่งเรารอวันนี้มานานแล้วนะ คือแต่ก่อน เราต้องมานั่งอธิบายว่า “ทำไมต้องไปทำอะไรลำบากๆ ด้วย” ไปเที่ยวกับทัวร์ก็ได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องมาอธิบายแล้วไง และเราอยากให้ทำกันต่อไปนะ ออกไปผจญภัยกันเยอะๆ แต่สิ่งที่อยากฝากไว้ก็คือ “อยากให้เปิดใจให้กว้าง เพราะไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน” คือถ้าคุณเอามาตราฐานที่คุณใช้วัดที่บ้านของคุณไม่ว่าจะเป็นความอร่อย ความเจริญ หรืออะไรก็ตามเนี่ย คุณจะอดชื่นชมสิ่งเล็กๆ รอบตัวที่คุณได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นทันทีเลย จงสนุกไปกับมันดีกว่านะเราว่า
ถ้าคุณคิดว่าแบบ ไปที่นั่นแล้วไม่สบาย ไม่อร่อย ไม่สะดวกเหมือนที่บ้าน ก็อยู่บ้านไปละกัน ไม่ต้องออกเดินทางหรอก ลำบากเปล่าๆ
MDs’ : เวลาพี่จะออกเดินทางเนี่ย อุปกรณ์ หรือของใช้อันไหนที่แบบพี่ให้ความใส่ใจมากเป็นอันดับต้นๆ
พี่เรย์ : จริงๆ มันก็ต้องดูก่อนแหละว่าเรากำลังจะไปที่ไหน อุณหภูมิเป็นยังไง สภาพแวดล้อมโดยรวม อาหารการกิน ลุยมาก ลุยน้อย ซึ่งเรื่องพวกนี้อาจจะแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเป็นพิเศษสำหรับการเตรียมของใช้จริงมั้ย แต่ถ้าให้พูดภาพรวมเลยนะ เราว่า “รองเท้า” เนี่ยแหละคือสำคัญมากจริงๆ ประมาณว่าถ้ารองเท้าที่คุณใส่เดินทาง ซึ่งการเดินทางแบบลุยหนักๆ เนี่ย “มันต้องเดินเยอะกว่าที่บ้านอยู่แล้ว” มันดันใส่ไม่สบาย มันเดินไปไหนต่อไม่ได้จริงๆ นะ มันจะเที่ยวไม่สนุกเลยจริงๆ ซึ่งเราก็ไม่อยากบอกว่าเราใส่แบรนด์อะไร แต่ดูรูปที่เราลงใน Instagram ก็น่าจะรู้เนอะ
คือเวลาเราเลือกรองเท้าเนี่ย มันต้องใส่ลุยได้ และต้องใส่เที่ยวหล่อๆ ในเมืองได้ด้วย เพราะเวลาเราพกรองเท้าไปเนี่ย เราก็อยากจะพกไปคู่เดียวแบบใช้งานได้ครบที่สุด
MDs’ : ช่วงนี้เห็นพี่เรย์กำลังทำรายการอย่างสนุกสนาน มีอะไรอยากให้คนอ่านติดตามบ้างมั้ยครับ
พี่เรย์ : อ้า อันนี้ขายของได้ใช่มะ (หัวเราะ) จริงๆ เราอยากให้ติดตาม “FOOD TRIBE” ไป-ล่า-กิน ซึ่งตอนนี้ออนไลน์อยู่ที่ Line.tv (คลิก) เป็นรายการเกี่ยวกับชนเผ่าต่างๆ และการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติของเขา กาล่า การถนอมอาหาร รวมถึงการนำมาปรุงเป็นอาหารจานเด็ด ทั้งแปลกและไม่แปลก แต่สิ่งที่อยากให้ดูก็คือ “อยากให้ตั้งคำถามว่า ไอสิ่งที่เราบอกว่าพวกเขาล้าหลังเนี่ย เราดูแค่เปลือกหรือป่าว” เช่นการนุ่งน้อยห่มน้อย / การกิน และอื่นๆ ที่มันไม่เหมือนเราเนี่ยมันต้องแบบล้าหลังชัวร์ๆ แต่ที่เราไปเจอมา มันคือการอยู่กับธรรมชาติ โดยมีภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ถือว่าทันสมัยมากทีเดียวเช่น การนำเอาทุกส่วนของสัตว์ที่เขาล้ม มาใช้ให้เกิดประโยชน์จริงๆ แบบทุกส่วนเลยนะ ซึ่งโลกที่เรียกตัวเองว่าทันสมัยยังไปไม่ถึงจุดนั้นเลย แล้วอันไหนศิวิไลกว่ากันหล่ะ
MDs’ : พูดถึงอาหาร เมนูไหนที่พี่เรย์เคยทานแล้วคิดว่าแปลกสุดๆ ในชีวิต
พี่เรย์ : แปลกหรอ ก็เมื่อไม่นานมานี้นี่แหละ “มันคือเลือดสดๆ จากตัววัว” แต่แบบคนอ่านก็น่าจะแบบ บ้านผมก็กินสดๆ แบบลาบก้อยไรงี้ แต่อันนี้เนี่ยพอเขาล้มวัวเสร็จเขาก็เฉือนทันทีเลยนะ ให้เลือดในตัวมันเนี่ยไหลออกมา แล้วพวกเขาก็รองขึ้นมากินกันสดๆ แบบนั้นเลย จากตัวที่พึ่งตายเมื่อกี้เลย ซึ่งเราก็ถ่ายรายการไปเรื่อยๆ ก็คิดในใจว่า “มันคงไม่ชวนเรากินหรอก” แต่แบบ…จะเหลือหรอ… แล้วพวกเขาเหล่านี้คือนักรบไง พอเขาเดินมาถามว่า “กินมั้ย” ก็ต้องกินดิ แต่ยังไม่จบนะ สักพักแล่ๆ ไปสักพักก็หยิบอีกชิ้นมาให้กิน ซึ่งมันคือ “ตับวัว” คือเราเองก็เคยกินตับอยู่แล้ว ตับไก่ไรงี้ แต่ก็เอาไปปิ้งย่างนะ แต่อันนี้คือ “สดๆ” ไง แปลกสุดเลย
นี่น่าจะเป็นชีวิตสุดโต่งจากบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Idol แห่งการผจญภัย กับรายละเอียดชีวิตบางมุมที่เราหยิบมาฝากกัน เราเชื่อว่า “พี่เรย์ แมคโดนัลด์” น่าจะยังคงเดินทางต่อไปเรื่อยๆ ในรูปแบบสนุกสนาน กึ่งโหดมันฮา และทำรายการเจ๋งๆ มาฝากพวกเรากันต่อไปเรื่อยๆ แน่นอน (ต่อให้จะแต่งงานแล้วก็ตาม) และสำหรับชาว MDs เองคงไม่ถึงขนาดตามรอยพี่เขาเข้าไปเจอชนเผ่าแน่ๆ แต่เราสัญญาว่าจะออกไปเจอโลกกว้างให้มากขึ้นแน่นอนครับ