10. เขาคือผู้ชายคนแรกที่เดินเท้ารอบโลกโดยใช้เวลาทั้งหมด 18 เดือน
9. เขาเลือกอาชีพหลักเป็นนักเดินทางระดับ Professional Explorer
8. เขาเลือกเดินทางเพื่อเฉลิมฉลองให้กับชีวิตและภรรยาของเขา
7. พิชิดยอดเขาสูงถึง 4 ลูก (ที่ระดับความสูงเกิด 8,000 เมตร)
6. เดินทางรอบโลกบนเส้น Arctic Circle (Arktos) ด้วย Kayak / เรือ / Ski Kite และเท้าเท่านั้น
5. เดินเท้าถึง North Pole คนแรกของโลก (ไม่ใช่สุนัขลากเลื่อน) โดยใช้เวลา 2 เดือน
4. พิชิดยอดเขา Makalu ที่ระดับความสูง 8,463 เมตร โดยไม่ใช่ถัง Oxygen
3. ทำราย TV ชื่อว่า “The Island: Seuls au monde”
2. ขับรถยนต์ผ่าน 13 ประเทศพร้อมลูกสาว 2 คน
1. เดินทางจากเหนือสุดไปยังใต้สุดโดยไม่ใช่เครื่องยนต์ด้วยระยะเวลา 57 วัน
-Mike Horn กับการให้สัมภาษณ์แบบติดดินสดุๆ-
“คุณกำลังทำอะไรอยู่?” นี่น่าจะเป็นคำถามที่น่าสนใจที่สุดสำหรับมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ทุกวันต้องพยายามปลุกตัวเองให้ตื่นแต่เช้าแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่โต๊ะทำงานใน Office ให้ทันเวลาเข้างาน ซึ่งมันก็คือคำถามเดียวกับที่เราพยายามตั้งให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลานี่แหละครับ แต่สิ่งที่ Mike Horn ได้จุดประกายให้กับไฟที่กำลังจะมอดดับก็คือคำพูดที่ว่า “คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตแบบไหน ถ้าคุณคิดให้ไกลพอ คุณจะไปถึง” แล้ว Mike Horn คือใครกันถึงกล้าพูดได้ถึงขนาดนี้?
–ซ้าย : Frank Steinacher กลาง : Mike Horn ขวา : คุณอัชฌ์ บุณยประสิทธิ์-
ผู้ชายคนนี้ น่าจะเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในโลกเลยก็ว่าได้ครับที่สามารถเดินเท้ารอบโลกได้ถึง 3 รอบ และเลือกที่จะปีนยอดเขาสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกอย่าง K2 (ตั้งอยู่ที่พรมแดนระหว่างประเทศจีนและปากีสถาน) ณ ระดับความสูง 8,611 เมตร ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า “ยอดเขา Everest นั้นเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวมากกว่า” เพราะที่ K2 มีอัตราการเสียชีวิตของนักปีเขามากอันดับต้นๆ ของโลก คือทุกๆ 4 ท่านที่ปีนถึงยอด จะต้องมีอย่างน้อย 1 ท่านที่ไม่ได้กลับลงมา (แต่ทีมไม่ได้สามารถปีนได้ถึงยอดนะครับ)
“ครั้งหนึ่งผมเลือกว่ายน้ำจากบนสุดของแม่น้ำอเมซอนลงมาถึงด้านลงสุดของแม่น้ำ” Mike Horn กล่าวก่อนพูดต่ออย่างหน้าตายิ้มแย้มว่า “ระยะทางก็ราวๆ 7,000 กิโลเมตร ซึ่งผมใช้ระยะเวลาถึง 6 เดือนเต็ม”
บอกเลยครับว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ซึ่งล่าสุดนั้นเขาเลือก Share ประสบการณ์การเดินทางของเขากับรถยนต์ The G-Class ของค่าย Mercedes-Benz ด้วยการขับรถคันนี้ไปยังประเทศต่างๆ ผ่านพื้นทั้งหิมะ / ทะเลทราย / ลุยน้ำ / ขึ้นเขา และอื่นๆ อีกมาก “สาเหตุที่ผมเลือก The G-Class เพราะว่า รถคันนี้ไม่เคยมีปัญหาตลอดการเดินทางสุดโหดของผม” Mike Horn กล่าวก่อนจะกระซิบให้เราฟังว่า “นอกจากน้ำมันหมดเท่านั้น”
Mike Horn ยังพูดเสริมเพิ่มเกี่ยวกับมุมมองชีวิตที่เขาพบเจอมาให้เราฟังว่า “ผมคิดว่าการออกเดินทางคือการเติมพลังให้กับตัวเองนะครับ เพราะคุณทุกคนนี่แหละคือพลังงานชั้นดี” Mike Horn พูดขณะกำลังเปิดรูปภาพให้เราดู “ในหลายๆ ครั้ง คุณจะเห็นนำ้ใจเล็กๆ น้อยๆ ที่คนในแต่ละที่ ไม่แบ่งแยกชั้นวรรณะมาหยิบยื่นสิ่งต่างๆ ให้กับเรา เพียงแค่คุณเปิดรับมันเท่านั้นเอง” ฟังแล้วเหมือนจะง่ายดายเสียเหลือเกิน
ล่าสุดกับ Projects : Driven to Explore ที่เริ่มต้นขึ้น ณ ทวีปแอฟริกาเป็นที่แรก และที่ๆ 2 คือทวีปเอเชีย ซึ่ง Mike Horn จะเดินทางในทวีปเอเชียทั้งหมด 9 ประเทศได้แก่ มาเลเซีย / ไทย / กัมพูชา / เวียดนาม / ลาว / เมียนมาร์ / อินเดีย / เนปาล / ปากีสถาน (และน่าจะลงลึกแบบสไตล์ Mike Horn ที่ไม่เลือกปีนเขา Everest เพราะมันดูง่ายดายเกินไปแน่นอน) คาดว่าการมาไทยครั้งนี้น่าจะมีอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นแน่ๆ และถ้าเรามีโอกาส จะตามไปเก็บภาพมาฝากกันนะครับ
ก่อนจากกันไป MDs ได้ถามคำถามหนึ่งไปว่า “ถ้าให้เลือกประเทศเพียงประเทศเดียวให้คุณไปอยู่ คุณจะเลือกที่ไหน?” สิ่งที่ Mike Horn ตอบกลับมานั้นน่าสนใจมากครับ นั่นก็คือ “ผมไม่คิดว่าโลกนี้มีประเทศนะ หมายถึงมันไม่มีพรมแดนในความคิดของผม ถึงแม้ว่าจะมีเส้นขีดบางๆ บนสนธิสัญญาต่างๆ ก็ตามที แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ ผมของเลือกเป็น Greenland เพราะทุกวันที่คุณตื่นขึ้นมาดูรอบๆ ตัวคุณ คุณจะพบธรรมชาติที่ทำให้รู้สึกสบาย สงบ และไร้ความกังวลใดๆ” ไงหล่ะครับคำตอบจากสุดยอดมนุษย์สาย Adventure ที่คุณต้องอิจฉาประสบการณ์ชีวิตของเขาแน่นอน