การทำงานที่บ้าน หรือการต้องกักตัวอยู่บ้านเป็นระยะเวลานานด้วยเหตุผลทางสังคมต่าง ๆ อย่างโรคระบาดหรือเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่คาดคิด เช่น น้ำท่วม อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของเราได้อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว แม้ว่าจะอยู่แต่บ้าน ไม่ได้ทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากนัก แต่กลับรู้สึกเหนื่อยล้าไม่ต่างจากปกติที่ออกไปทำงาน บางคนอาจรู้สึกซึมเศร้า ตึงเครียด หดหู่ ไม่มีไฟในการทำงาน ขาดความคิดสร้างสรรค์ ฉะนั้นควรเฝ้าสังเกตสภาวะทางอารมณ์และจิตใจของตัวเองในสถานการณ์แบบนี้ให้ดี MenDetails.com ขอแชร์วิธีในการ กักตัวให้ไม่เบื่อ เพื่อจะได้เป็นอีกหนึ่งวิธีในดูแลสุขภาพจิตตัวเองและคนรอบข้างครับ
Spend less time on social media and media exposure
สิ่งหนึ่งที่ส่งผลต่ออารมณ์และสภาพจิตใจใครหลายคนโดยตรง คือ เรื่องของพฤติกรรมการเปิดรับสาร (Media Exposure) ครับ ส่วนใหญ่แล้ว ในสถานการณ์ปกติคนเราจะคัดกรองและเลือกรับรู้แต่เนื้อหาที่เราสนใจ แต่ถ้าเป็นสถานการณ์ที่ต้องอยู่บ้านด้วยเหตุผลทางสังคมบางประการแล้ว ข่าวสารตามสื่อหลักและข่าวในโซเชียลส่วนใหญ่ก็จะนำเสนอไปในทางเดียวกันเพราะเป็นกระแสสังคม ยังมีความใหม่และ impact ต่อประชาชนอยู่
ฉะนั้นการเลือกรับสารของเราจึงมีการปรับเปลี่ยนไปจากหลักการปกติ ข่าวในช่วงนี้ มักเป็นการอัพเดทเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างข่าวสังคม ถ้าเป็นช่วงโรคระบาดก็จะมีการให้ข้อมูลเรื่องโรคเป็นหลัก ถ้าเป็นช่วงที่เกิดเหตุภัยธรรมชาติก็จะเป็นเรื่องภัยเป็นหลักครับ ซึ่งเมื่อประเทศประสบปัญหาระลอกใหญ่ก็จะตามมาด้วยข่าวอาชญากรรม การเจ็บป่วยสูญเสีย อุบัติเหตุต่าง ๆ ไปจนถึงข่าวการเมืองเกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ข่าวที่ยกตัวอย่างไปทั้งหมดนี้ หากเสพเยอะเกินไป นั่งฟังนั่งอ่านทั้งวันเป็นเวลาติด ๆ กัน จะส่งผลต่อสุขภาพจิตได้โดยตรงครับ เช่น ทำให้เกิดความเครียด อารมณ์หดหู่ ซึม วิตกกังวลได้ง่าย กระทั่งการเห็นชีวิตคนอื่นผ่าน Social Media ก็สามารถส่งผลต่อความรู้สึกเราได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเห็นสิ่งที่ดีกว่าหรือแย่กว่าก็อาจมีการนำมาเปรียบเทียบกับตัวเองได้อยู่ดี
ฉะนั้นสิ่งแรกที่จะช่วยในการ กักตัวให้ไม่เบื่อ รักษาสุขภาพและอารมณ์เราให้คงที่ได้ คือ ต้องปรับลดเวลาการเล่นโซเชียลมีเดีย รวมถึงเลือกเปิดรับข่าวสารบางเวลาก็พอครับ ระวังอย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับการเสพข่าวหรือนั่งไถโซเชียลมีเดียตลอดทั้งวันโดยไม่ลุกไปทำอย่างอื่น หรือคอยเตือนตัวเองว่าอย่าคอยกดเข้าโซเชียลมีเดียตลอดทุกครั้งที่มีเวลาว่าง
ในส่วนการรับข่าวสารจากสื่อหลัก หากชอบเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ทั้งวันก็ลองเลือกฟังรายการข่าวบางเวลาก็พอครับ เปิดช่องรายการสนุก ๆ หรือช่องภาพยนตร์สลับไปบ้าง จะได้เป็นการพักสมองจากข้อมูลหนัก ๆ หากมีเวลาว่างจริง ๆ ลองวางโทรศัพท์ลงหรือลุกออกจากหน้าจอคอม แล้วไปทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ต้องพึ่งพาอินเตอร์เน็ตบ้างก็ได้ครับ นอกจากเซฟสุขภาพใจแล้วยังเซฟให้ร่างกายไม่เครียดจากท่านั่งที่ถือโทรศัพท์หรือใช้คอมตลอดทั้งวันด้วยนะครับ
Find things to entertain yourself
การสร้างความเพลิดเพลินให้ตัวเอง เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ท่ามกลางการกักตัวอยู่แต่บ้านครับ ต้องรู้จักตัวเองว่าเราทำอะไรถึงจะมีความสุข กิจกรรมแบบไหนที่สร้างความสุขให้ตัวเองได้บ้าง หากแบ่งอย่างง่าย เราเชื่อว่าทุกคนก็คงมีทั้งกิจกรรมประเภทพัฒนาทักษะบางประการ หรือกิจกรรมเพื่อความบันเทิงปน ๆ กันไป
ลดความตึงเครียดทางจิตใจ ด้วยการทำอะไรที่ entertain ตัวเอง ใช้เวลาในการอยู่บ้านให้เป็นประโยชน์ ใครอยากพักผ่อนก็พักให้เต็มที่ ใครอยากเรียนรู้หรือฝึกหัดอะไรก็ต้องเวลานี้ล่ะครับ
สำหรับใครที่ติดโลกออนไลน์ก็ใช้มันเพื่อ entertain ตัวเองไปเลยครับ เพียงแค่ปรับวิธีการเล่น จากเล่นเพื่อเสพข่าวหรือดู story คนอื่นไปฆ่าเวลาด้วยการดูซีรีส์ ดูภาพยนตร์ รายการต่าง ๆ แทน หรือจะใช้เวลานี้หาความรู้เพิ่มเติมให้ตัวเองในด้านต่าง ๆ อย่างเช่น ฝึกภาษาที่ 3 เรียนเรื่องการลงทุนและการเงิน, ฟัง podcast ของผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และดึงประโยชน์เหล่านั้นมาปรับใช้กับตัวเองก็ได้เช่นกัน
หรือจะกลับไปกิจกรรม back to basic ที่เป็นงานอดิเรกยามว่างอยู่แล้ว เช่น การอ่านหนังสือ อ่านการ์ตูน ออกกำลังกายไปจนเล่นเครื่องดนตรีต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างความเพลิดเพลินที่ดีครับ หรือถ้ามีกิจกรรมบางอย่างที่ทำไม่เป็น แต่อยากลองฝึกฝน อยากเล่นดนตรีเป็น อยากลองกีฬาบางประเภทที่ฝึกคนเดียวได้ไปจนถึงเรื่องหัดทำอาหารและเบเกอรี่ ให้ถือโอกาสนี้ฝึกหัดไปเลยยิ่งดีครับ
หากใครคิดถึงการไปเที่ยวต่างประเทศจริง ๆ ก็มีกิจกรรมออนไลน์หลายอย่างที่ช่วยคลายความคิดถึงจากการท่องเที่ยวลงได้บ้างครับ อย่างการชมสถานที่เสมือนจริงต่าง ๆ ทั่วโลก (Virtual Tour) มีทั้งพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และอุทยาน โดยจะมีการจัดแสดงพื้นที่มากขนาดไหนขึ้นอยู่กับสถานที่แห่งนั้นว่าจะเปิดให้เข้าชมละเอียดขนาดไหนครับ
Virtual Tour นิทรรศการของ Hong Kong Science Museum
สำหรับคนไหนที่คิดถึงการเข้าสังคม ค่ายเพลงทั้งไทยและต่างประเทศก็มีการจัดคอนเสิร์ตออนไลน์อยู่เรื่อย ๆ ครับ มีทั้งแบบเข้าชมฟรีและต้องจ่ายเงินซื้อตั๋ว เหมือนการไปงานคอนเสิร์ตจริง ๆ หรืออยากจะสังสรรค์กับเพื่อนด้วยการ Video Call ก็ทำได้เช่นกัน ต่อให้ไม่ได้เจอหน้า แต่ก็ยังสามารถสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนได้เสมอ ใครที่เป็นสายเกมก็ไปพบปะเพื่อนในเกมก็ได้ครับ
บางคนที่ต้องซื้อของเข้าบ้าน ช้อปปิ้งรายสัปดาห์ก็หันไป Shopping Online แทนได้ และเราเชื่อว่ามีหลายคนที่ผ่อนคลายตัวเองด้วยการซื้อของที่อยากได้อยู่เยอะเลยล่ะครับ เพียงแต่การคลายเครียดด้วยวิธีนี้ ต้องชั่งน้ำหนักดี ๆ นะครับว่าของที่ซื้อมาจะมีประโยชน์กับเราจริงไหม
Don’t forget to interact with others
ส่วนหนึ่งที่การอยู่บ้านนั้นสามารถสร้างความเครียดได้ เกิดจากการที่เราเจอสังคมน้อยลงครับ การขาดการปฏิสัมพันธ์กับคนนั้นส่งผลต่อด้านสภาพอารมณ์และหากอยู่บ้านเป็นระยะเวลานานเกินไปก็อาจส่งผลต่อทักษะในการติดต่อสื่อสารได้เลยทีเดียว
จากข้อข้างต้นที่ให้ทุกคนหาเวลาและวิธีให้การสร้างความเพลิดเพลินให้ตัวเองนั้นก็จะมีในส่วนการพูดคุยกับเพื่อนฝูงอยู่ครับ ลองสังเกตตัวเองดูก็ได้ครับ เมื่อไหร่ที่อยู่แต่บ้านนานเกินไป แล้วได้เจอกลุ่มเพื่อนที่สนิทกัน ได้พูดคุยกันเราจะรู้สึกมีพลังมากขึ้น
โดยปกติแล้ววัน ๆ หนึ่งในสถานการณ์ปกติ เรามักจะเจอคนในบ้าน เจอสังคมข้างนอก และเหลือเวลาอยู่กับตัวเอง ซึ่งถ้าเป็นช่วงของการกักตัวอยู่บ้าน ช่วงที่ต้อง work from home การเจอกลุ่มสังคมจะหายไปครับ ฉะนั้น others ในทีนี้ หมายถึง ให้มีปฏิสัมพันธ์ทั้งกับคนในครอบครัว แฟน คนที่อยู่ในบ้านเดียวกัน รวมถึงกลุ่มสังคมอื่น ๆ ที่คบหากันแต่ไม่ได้เจอกันในช่วงที่กักตัวอยู่บ้านด้วยครับ
ใส่ใจคนใกล้ตัว พยายามพูดคุยกันให้มาก หากิจกรรมทำร่วมกัน จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ อย่างทานข้าวพร้อมกันหรือดูหนังสักเรื่องพร้อมกันก็ดีครับ และอย่าลืมสังเกตเขาด้วยว่ามีความเครียดทางจิตใจ หรือร่างกายมีความเจ็บป่วยใดหรือไม่ และหากเรารู้สึกไม่โอเคอย่างไรก็ต้องอธิบายให้คนรอบตัวฟังเช่นกันครับ เพราะการอยู่กับตัวเองมากไปอาจจะทำให้เกิดภาวะที่จมอยู่กับความคิดวนลูปก็เป็นได้
อย่าลืมหาเวลาสักอาทิตย์ละครั้งโทรไปคุยกับเพื่อนบ้าง อัพเดทชีวิตว่าเป็นอย่างไร จะได้ไม่ห่างหายกันไป หรือถ้าใครไม่ได้อยู่กับแฟนแล้วต้องห่างกัน ระยะนี้ก็เป็นช่วงที่ต้องใส่ใจความรู้สึกกันและกันเป็นพิเศษนะครับ
Living in good environment
เมื่อต้องกักตัว บ้านจะเป็นสภาพแวดล้อมหลักที่เราเจอเกือบตลอด 24 ชั่วโมง ฉะนั้นบรรยากาศในบ้าน ทั้งในแง่ความสะอาด กลิ่นและการตกแต่ง จึงสำคัญมากครับ การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีจะส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้ หากปกติใครที่ไม่ค่อยได้จัดบ้าน ไม่มีเวลาเคลียร์ของในห้อง นี่ก็ป็นฤกษ์งามยามดีที่จะได้ทำครับ
ใช้เวลานี้ในการทำความสะอาดบ้าน ทั้งปัดกวาดเช็ดถู และหมั่นเช็คความสมบูรณ์ของของใช้ในบ้านด้วย ตรวจสอบว่ายังใช้ได้ได้ปกติหรือมีปัญหาติดขัดตรงไหนไหม สำหรับของบางชนิดที่หมดอายุได้ก็ต้องจัดการทิ้งให้เป็นระเบียบครับ พวกของตั้งโชว์หยิบมาปัดฝุ่นบ้าง อะไรที่เคยโยนไว้ เก็บไม่เป็นที่ทางก็จัดให้ลงล็อค
โดยห้องที่เราต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ คือ ห้องนอนและห้องน้ำ ครับ ในส่วนของเรื่องกลิ่น สามารถใช้ room spray, diffuser หรือเทียนหอมจุดเพื่อสร้างกลิ่นหอมขึ้นมาได้ หรือจะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ น้ำยาทำความสะอาดพื้นที่มีกลิ่นหอมก็ช่วยได้ดีเช่นกัน
ในส่วนเรื่องบรรยากาศ มีบทวิจัยหลายแห่งที่บอกว่าสีเขียวจะช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้ครับ ฉะนั้นไอเดียการตกแต่งบ้านของหลายคนจึงมีเรื่องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเข้าไปในบ้านด้วย หากอยู่ในบ้านที่มีบริเวณก็ให้ออกไปพักสายตาดูต้นไม้ที่สวนบ้าง หรือถ้าอยู่คอนโดก็ให้ปลูกต้นไม้ไว้ที่ริมระเบียง หากเป็นในห้องนอนก็ลองวางวัตถุที่มีสีเขียว ๆ เอาไว้เพื่อช่วยคลายความเมื่อยล้าให้สายตาก็ดีครับ
สำหรับการดูแลสุขภาพจิตในช่วงกักตัวหรือ WFH ระยะยาว นอกจากทำเพื่อตัวเองแล้วก็ยังเป็นการดูแลคนรอบข้างในทางอ้อมด้วย หากเราสุขภาพจิตดีก็จะช่วยทำให้บรรยากาศในบ้านดีขึ้นได้ ละยังสามารถแนะนำคนในครอบครัวให้เขาทำอะไรเพื่อคลายเครียดได้ด้วย หากใครสักคนในบ้านอยู่ในสภาวะจิตใจที่ไม่มั่นคง เครียดหนัก หรือมีการแสดงออกอะไรที่ต่างจากปกติจะได้ช่วยดูแลกันและกันครับ สุดท้ายสุขภาพจิตสามารถส่งผลต่อสุขภาพกายได้ ฉะนั้นต้องดูแลจิตตัวเองให้แข็งแรงนะครับ