นอกจากเนื้อหาของภาพยนตร์ที่มีส่วนในการสร้างแรงบันดาลใจ เติมจินตนาการ หรือปลุกไฟให้กับผู้ชมแล้ว ตัวละครหลักในหนังก็เป็นอีกส่วนประกอบที่สำคัญในการสร้างแรงจูงใจหลายๆอย่างให้กับคนดู โดยเฉพาะการเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำงาน ลองมาดูกันดีกว่าว่า 5 ตัวละครจากโลกภาพยนตร์ ที่หนุ่มๆน่าเอาเป็นตัวอย่างในการทำงาน มีตัวละครใดกันบ้าง
1. Michael Corleone จาก The Godfather
The Godfather คือภาพยนตร์มาเฟียในตำนาน ของผู้กำกับมือทองอย่าง ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า (Francis Ford Coppola) ที่ว่าด้วยเรื่องราวการชิงอำนาจของแก๊งมาเฟียอิตาลีที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากตัวละครเจ้าพ่ออย่าง ดอน วีโต คอร์เลโอเน่ (Don Vito Corleone) ผู้ดำรงตำแหน่ง “ก๊อดฟาเธอร์” นำแสดงโดย มาร์ลอน แบรนโด (Marlon Brando) แล้ว ตัวละครอีกตัวที่น่าสนใจก็คือ ไมเคิล คอร์เลโอเน่ (Michael Corleone) ที่รับบทโดย อัล ปาชิโน (Al Pacino) คนนี้นี่แหละครับ
Al Pacino กับบทบาทของ ‘Don’ Michael Corleone ใน The Godfather
ไมเคิล คอร์เลโอเน่ ถือเป็นแบบอย่างการทำงานในแง่ของทายาทที่ต้องมาสืบทอดกิจการของครอบครัว ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกเต็มใจ และคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อม เพราะเขาเป็นลูกคนเล็ก ซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมารับตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยความกดดัน เนื่องจากต้องดูแลคนเป็นจำนวนมากในฐานะ “ก๊อดฟาเธอร์” คนใหม่ ที่แน่นอนว่าจะต้องถูกนำไปเปรียบเทียบกับพ่อของตัวเอง แต่ ไมเคิล ก็ใช้ความสุขุมรอบคอบ รับมือกับสารพัดปัญหาที่ถาโถมเข้ามา ค่อยๆคลี่คลายวิกฤติไปทีละเปลาะ ถึงแม้ไม่สมบูรณ์แบบแต่ไมเคิลก็ต้องทำให้ดีที่สุด ท่ามกลางแรงกดดันมหาศาลและความอันตรายของโลกมาเฟีย หนังเรื่องนี้ให้แง่คิดที่ดีเยี่ยมในการทำงาน โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องรับช่วงกิจการของที่บ้าน ลองหาภาพยนตร์เรื่องนี้มาดูนะครับ
2. Jordan Belfort จาก The Wolf of wall street
“จงขายปากกาให้ผมหน่อย” คือหนึ่งในประโยคอมตะของหนังเรื่อง The Wolf of wall street ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง โดยดัดแปลงมาจากบันทึกส่วนตัวของอดีตนายหน้าค้าหลักทรัพย์ชื่อดังอย่าง “จอร์แดน เบลฟอร์ท” (Jordan Belfort) ในช่วงชีวิตตั้งแต่จุดสูงสุดไปจนถึงจุดตกต่ำของเขา และแม้ว่าเขาจะเป็นชายเจ้าเล่ห์ ขี้โกง แต่ความสามารถในการขายและความทะเยอทะยานในการทำงานของเขาก็เป็นสิ่งที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง
Leonardo DiCaprio กับบทบาทของ Jordan Belfort ใน The Wolf of Wallstreet
ในชีวิตจริง “จอร์แดน เบลฟอร์ท” ได้รับโทษจำคุกจากคดีฉ้อโกงทางการลงทุน และหลังจากพ้นโทษออกมาก็หันไปประกอบอาชีพนักพูดและนักเขียน ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจนได้รับการยกย่องว่าเป็นนักขายและนักพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว ส่วนในหนังมีฉากที่น่าสนใจหลายฉาก แต่ฉากไฮไลต์คงหนีไม่พ้นการพูดปลุกใจพนักงานในออฟฟิศของ จอร์แดน เบลฟอร์ท ที่แสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) ซึ่งต้องบอกว่า แม้จะดูโอเวอร์บ้าบิ่น แต่ก็ทรงพลังและปลุกใจคนฟังอย่างมาก ใครที่อยากประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจและการขาย ลองหาหนังเรื่องนี้มาดูครับ แต่ MenDetails ขอให้หยิบเอาเฉพาะทักษะการขายและการทำงานอันน่าเหลือเชื่อของเขามาเท่านั้น อย่าไปก๊อปปี้ความฉ้อฉลมาด้วยจนทำให้ตัวเองต้องติดคุกติดตะรางจะดีกว่านะครับ
3. Billy Bean จาก Moneyball
Moneyball เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับกีฬาเบสบอล ที่เน้นในเรื่องของเหตุการณ์นอกสนามมากกว่าในสนามในหนังเต็มไปด้วยทฤษฎีและการคำนวณที่ฟังดูเหมือนจะน่าเบื่อ แต่กลับดูสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ เนื้อเรื่องพูดถึง บิลลี่ บีน (Billy Bean) อดีตนักเบสบอลที่ไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักกีฬา จึงผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมเบสบอลแทน
Brad Pitt กับบทบาทของ Billy Bean ใน Moneyball
ตัวละคร “บิลลี่ บีน” ในหนังที่รับบทโดย แบรด พิตต์ (Brad Pitt) คือผู้จัดการทีมเบสบอลหน้าใหม่ที่ต้องมาแบกรับภาระอันหนักอึ้งกับการคุมทีมที่มีชื่อว่า “โอ๊คแลนด์ เอ” (Oakland A) ทีมเบสบอลเล็กๆ ที่มีเงินทุนน้อยนิด แถมเพิ่งสูญเสียผู้เล่นสำคัญให้ทีมใหญ่ ให้ประสบความสำเร็จในฤดูกาลใหม่ ซึ่งนอกจากปัญหาภายนอกแล้ว บิลลี่ บีน ต้องพบกับปัญหาภายในจากบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสส่วนใหญ่ในทีมที่คัดค้านแนวคิดการใช้ทฤษฎีและหลักคณิตศาสตร์อันเป็นหลักการในการสร้างทีมของ บิลลี่ ดังนั้นเขาจึงต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทั้งคนนอกและคนในได้เห็นถึงผลงานที่ดี รวมถึงยอมรับแนวทางในการทำงานรูปแบบใหม่ เรื่องนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็น “ผู้จัดการ” หรือกำลังจะเป็นผู้จัดการ ที่จะต้องจัดการวิกฤติและการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ภายในองค์กรของตัวเองตลอดเวลา
4. Sonny Weaver จาก Draft Day
“Draft Day” คือภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาอเมริกันฟุตบอล ที่แทบไม่มีฉากแท็กเกิลหรือทัชดาวน์เลย แต่กลับดูแล้วลุ้นระทึกได้อย่างไม่น่าเชื่อ ความตื่นเต้นและระทึกใจทั้งหมดของหนังพุ่งไปอยู่ที่การดราฟท์ตัวผู้เล่นของเหล่าผู้จัดการทีมต่างๆในลีก NFL ที่ต้องบอกเลยว่ามันส์สุดๆ กับการมีเวลาตัดสินใจเพียง 10 นาที ที่อาจเปลี่ยนอนาคตใครหลายคนไปตลอดกาล โดยในหนังคนดูจะได้ตามติด ชีวิตของ ซอนนี่ วีเวอร์ (Sonny Weaver) ผู้จัดการทั่วไปของทีมอเมริกันฟุตบอล คลีฟแลนด์ บราวน์ส (Cleveland Browns) ที่ต้องกู้วิกฤติของทีมในวัน Draft Day
Kevin Costner กับมาดเท่ๆ ของ Sonny Weaver ในหนังเรื่อง Draft Day
ตัวละคร ซอนนี่ วีเวอร์ รับบทโดย เควิน คอสท์เนอร์ (Kevin Costner) ต้องใช้สิทธิ์ของทีมที่มีผลงานย่ำแย่ในฤดูกาลที่แล้ว ที่จะได้รับเอกสิทธิ์ในการเลือก หรือ “Draft” ตัวผู้เล่นดาวรุ่งจากทีมมหาวิทยาลัยก่อนทีมใหญ่ทีมอื่นๆ แต่เรื่องก็ไม่ง่ายแบบนั้น เพราะผู้เล่นดีๆบางคนก็อยากมา แต่หลายคนก็ไม่อยากมาอยู่ทีมเขา ซอนนี่จึงต้องใช้เทคนิคทุกรูปแบบในการเจรจา ใช้ลูกล่อลูกชน เล่นจิตวิทยา และงัดเล่ห์เหลี่ยมทุกอย่างที่มี ตั้งแต่ก่อนวัน Draft ไปจนถึงวันจริง หรือ “Draft Day” เพื่อการันตีให้ได้ว่าทีมของเขาจะได้ตัวผู้เล่นดาวรุ่งที่ดีที่สุดมาร่วมทีม ดังนั้นทุกการตัดสินใจของเขา ถือเป็นการเดิมพันด้วยเงินมหาศาล ที่อาจจะเข้ามาพยุงทีมในอนาคต หรืออาจทำให้ทีมย่ำแย่หนักกว่าเดิม เรื่องนี้ผู้ชายที่เป็นผู้บริหารทั้งหลายที่มีอำนาจการตัดสินใจไม่ควรพลาดชมอย่างยิ่งครับ
5. Ben Whittaker จาก The Intern
The Intern เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับการทำงานในโลกยุคใหม่ที่น่าสนใจ แม้ว่าหนังจะมีความเป็นเฟมินิสต์ ที่เน้นในเรื่องความเป็นผู้หญิงเก่งของ จูลส์ ออสติน (Jules Ostin) ตัวละครนำที่แสดงโดยขวัญใจ MenDetails อย่าง แอนน์ แฮทธาเวย์ (Anne Hathaway) แต่อีกหนึ่งตัวละครที่ผู้ชมต้องหลงรักก็คือ เบน วิทเทเกอร์ (Ben Whittaker) เด็กฝึกงานอาวุโสที่รับบทโดย โรเบิร์ต เดอ นีโร (Robert De Niro)
Rober De Niro กับบทบาทของ Ben Whittaker คู่กับ Jules Ostin ที่รับบทโดย Anne Hathaway
เบน วิทเทเกอร์ ถือเป็นตัวแทนของคนสูงวัยที่ไม่ยอมให้ตัวเอง “แก่และตกยุค” เขาเป็นผู้ชายที่พร้อมที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีที่ไม่คุ้นเคย และปรับตัวในการใช้ชีวิตกับเด็กรุ่นใหม่ ขณะเดียวกัน เบน เองก็มีความรู้ มีประสบการณ์ และ “ความเก๋าเกม” มากพอที่จะถ่ายทอดให้กับเหล่าบรรดาพนักงานรุ่นใหม่ในที่ทำงานได้เช่นกัน ถือเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ของคนสองรุ่นที่น่าสนใจ ที่ไม่ใช่แค่ให้บทเรียนกับหนุ่มใหญ่วัยเกษียณเท่านั้น แต่หนังเรื่องนี้ยังสอนถึง “วิถีสุภาพบุรุษ” ที่ผู้ชายรุ่นใหม่มักละเลยไม่ใส่ใจอีกด้วย ผู้ชายที่อยากพัฒนาตัวเองให้เจ๋งขึ้นกว่าเดิมจึงควรหาหนังเรื่องนี้มาชม แล้วเอา Ben Whittaker เป็นแบบอย่างในการทำงานและการปรับตัวให้เข้ากับโลกอยู่เสมอครับ
บทความนี้ถือเป็นการเอาใจหนุ่มออฟฟิศและคนทำงานทุกท่าน ที่กำลังหาแรงบันดาลใจดีๆ เพื่อนำมาเติมไฟในการทำงานของตัวเอง และ MenDetails ก็หวังว่าตัวละครทั้ง 5 จากภาพยนตร์เหล่านี้ จะเป็นบทเรียนทั้งที่ควรและไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง และเสริมข้อคิดดีๆให้คุณสามารถนำเอาไปปรับใช้ในโลกการทำงานของตัวเองได้นะครับ