ในช่วงนี้หนุ่มๆคนไหนที่กำลังมีความรู้สึกเบื่อๆเซ็งๆ เหนื่อยหน่ายในชีวิต คล้ายกับตัวเองกำลังหมดไฟในการทำงานหรือการทำตามความฝัน ไม่ค่อยอยากทำอะไร เรามี 5 หนังสร้างแรงบัลดาลใจมาแนะนำให้คุณชม ไม่แน่ว่าเมื่อดูจบแล้ว คุณจะเห็นมุมมองใหม่ๆในชีวิต ได้แนวคิดต่างๆที่น่าสนใจ สร้างพลัง และจุดไฟในตัวของคุณให้กลับมาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
1. The Shawshank Redemption
The Shawshank Redemption คือภาพยนตร์ดราม่าที่กำกับการแสดงและเขียนบทภาพยนตร์โดย แฟรงค์ ดาราบอนต์ สร้างจากเรื่องสั้นของ สตีเฟน คิง นักเขียนนิยายชื่อดังชาวอเมริกัน นำแสดงโดย ทิม ร็อบบินส์ และ มอร์แกน ฟรีแมน ภาพยนตร์เข้าฉายในปี 1994 ซึ่งได้รับ เสียงชื่นชมอย่างล้มหลาม มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 7 รางวัล แม้ว่าจะไม่ได้รางวัล แต่เสียงโหวตใน imdb เว็บไซต์ข้อมูลหนังชื่อดังก็มีคนโหวตให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้มากถึง 9.3/10 เยอะว่า Forrest Gump ที่ได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ในปีนั้นเสียอีก สิ่งที่หลายคนประทับใจก็คือความใจสู้ และไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาของตัวละครหลักในเรื่อง
The Shawshank Redemption เป็นเรื่องราวของ แอนดี้ ดูเฟรนซ์ นายธนาคารที่ติดคุกข้อหาฆ่าภรรยาและชู้ตาย ซึ่งวันนั้นเขาเมาหนัก จึงบอกไม่ได้ว่าลงมือจริงไหม แต่เขาก็ถูกส่งมายังคุกชอว์แชงค์ คุกที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุด ที่นั่นเขาได้พบกับเพื่อนนักโทษผิวดำผู้เป็นมิตรอย่าง เรด และเจอกับผู้คุมจอมโหดอย่าง แฮดเล่ย์ ซึ่งทารุณกรรม รวมถึงฆ่านักโทษได้อย่างง่ายดาย กับ พัสดีแซมมวล นอร์ตัน ผู้ทุจริตและไม่เคยจริงใจกับใคร และที่นี่เอง ที่ดูเฟรนซ์ได้พบกับมิตรภาพที่แท้จริงพร้อมๆ กับบทเรียนชีวิตที่เขาจะไม่มีวันลืม
2. The Pursuit of Happyness
The Pursuit of Happyness หนังดราม่าที่สร้างมาจากเรื่องจริงของ คริส การ์ดเนอร์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันผิวสี กับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของเขา หนังกำกับโดย กาเบรียล มัคซิโน่ และนำแสดงโดย วิลล์ สมิธ เข้าฉายในปี 2006 โดยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ซึ่งเรื่องนี้ วิลล์ สมิธ ยังได้ เจเด้น สมิธ ลูกชายของเข้าในชีวิตจริง มารับบทเป็น คริสโตเฟอร์ ลูกชายของเขาในเรื่อง หนังให้แง่คิดดีๆ และกำลังใจกับคนที่กำลังท้อแท้ หมดหวังในชีวิต
เรื่องย่อ The Pursuit of Happyness ช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง คริส การ์ดเนอร์ เซลส์แมนขายอุปกรณ์การแพทย์ กำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เขาตัดสินใจเปลี่ยนงานไปเป็นโบรกเกอร์หุ้น แต่ภรรยาของเขาก็ทนไม่ไหว หนีไปพร้อมกับทิ้งลูกชายวัย 5 ขวบให้เขาดูแล คริสค้างค่าเช่ามาหลายเดือน ทำให้ต้องพาลูกออกเร่ร่อน พร้อมกับทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทำงานในบริษัทหลักทรัพย์ที่ประกาศรับสมัครพนักงานฝึกหัด 20 คน ทว่ามีเพียง 1 คนเท่านั้นที่จะได้บรรจุเป็นพนักงานจริงๆ การต่อสู้ดิ้นรนฟันฝ่าแบบ “ไม่มีคำว่าถอยหลังอีกแล้ว” ของตัวละครหลักในหนังเรื่องนี้ จะช่วยปลุกให้คุณได้ฉุกคิดว่า ถ้าคนที่จนตรอกเขายังสู้ได้ขนาดนี้ ทำไมเราจะทำให้ดีบ้างไม่ได้กันล่ะ
3. Jerry Maguire
Jerry Maguire เป็นภาพยนตร์ดราม่าคอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ แคเมรอน โครว์ นำแสดงโดย ทอม ครูซ , คิวบา กู๊ดดิ้ง จูเนียร์ และ เรเน่ เซลเวเกอร์ เข้าฉายในปี 1996 มีชื่อเข้าชิงออสการ์ 5 สาขา ได้รางวัลไป 1 สาขาคือ คิวบา กูดิง จูเนียร์ กับสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม หนังเรื่องนี้ทำให้คนดูได้เห็นชีวิต ของชายคนหนึ่งที่รุ่งเรืองมากๆ ก่อนที่จะตกตํ่าลงถึงขีดสุดในเวลาไม่นาน ความน่าสนใจคือ เขาจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร
Jerry Maguire เล่าถึง เจอร์รี แมกไกวร์ ตัวแทนนักกีฬาชื่อดัง เขาจะทำทุกวิถีทางที่จะได้เซ็นสัญญากับลูกค้าโดยได้รับผลตอบแทนที่มากที่สุด แต่วันหนึ่ง เจอร์รี ฉุกคิดว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นถูกต้องแล้วหรือ เขาจึงเขียนเป้าหมายของการทำงานขึ้น โดยมุ่งมั่นที่จะใส่ใจลูกค้ามากขึ้น และเห็นแก่เงินน้อยลง ทว่าความตั้งใจดีนี้กลับทำให้ เจอร์รี่ ตกงาน แฟนสาวก็ทิ้ง โชคยังดีที่ยังมี ร็อด ทิดเวลล์ นักอเมริกันฟุตบอลจอมเฮฮา ยอมร่วมหัวจมท้ายเพื่อเป็นลูกค้าให้ เจอร์รี่ ในช่วงวิกฤติที่สุดในชีวิตของเขา หนังเรื่องนี้จะทำให้เราได้รู้ว่า ถ้าเรามุ่งมั่นตั้งใจในหลักการที่ถูกต้องของตัวเอง คุณค่าของมันจะสะท้อนออกมาได้ในที่สุด ขอเพียงแค่เราไม่ยอมแพ้ครับ
4. The Secret Life of Walter Mitty
The Secret Life of Walter Mitty หนังชื่อยาวเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับและแสดงนำของเบน สติลเลอร์ ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นคลาสสิกของวงการวรรณกรรมสหรัฐฯ ภาพยนตร์เข้าฉายในปี 2013 โดยถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ได้รางวัลในเวทีใหญ่ๆ แต่ก็ได้รับคำชมอย่างมากมาย ในฐานะหนังที่สร้างแรงบันดาลใจในเรื่องการทำงาน การใช้ชีวิต ความฝัน รวมถึงยังจุดไฟให้ใครหลายคนอยากออกไปผจญภัยท่องโลกกว้างด้วย
The Secret Life of Walter Mitty คือเรื่องราวของ วอลเตอร์ มิตตี้ ผู้ลำดับภาพนิ่งให้กับนิตยสาร LIFE ที่ชอบใช้วิธีผ่อนคลายจิตใจจากชีวิตที่จำเจด้วยการหายตัวไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการสุดตื่นเต้น แต่เมื่อมิตตี้และเพื่อนร่วมงานที่เขาแอบชื่นชอบต้องตกในที่นั่งลำบากและสุ่มเสี่ยงกับการตกงาน วอลเตอร์ จึงต้องลงมือทำสิ่งที่คาดไม่ถึงอย่างการเดินทางไปยังประเทศต่างๆหลายประเทศ ซึ่งการเดินทางเหล่านี้ สร้างประสบการณ์มากเกินกว่าที่เขาจะเคยจินตนาการมาก่อน และจะช่วยปลุกไฟการผจญภัยในตัวเราทุกคนให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้งได้แน่นอน
5. Whiplash
Whiplash ออกฉายเมื่อปี 2014 เป็นผลงานการกำกับของ เดเมียน ชาเซลล์ นำแสดงโดย ไมลส์ เทลเลอร์ , เจ. เค. ซิมมอนส์ และ เมลิสซ่า บีนอยส์ หนังเข้าชิงออสการ์ 5 รางวัล และคว้าไป 3 รางวัลคือ เจ. เค. ซิมมอนส์ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม , บันทึกเสียงยอดเยี่ยม และตัดต่อยอดเยี่ยม โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณได้เห็นถึงการทุ่มเททำสิ่งที่ตัวเองรักอย่างเต็มขีดความสามารถที่สุดเท่าที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งจะสามารถทำได้
Whiplash เล่าถึง แอนดรูว์ มือกลองหนุ่มวัย 19 ปี ที่ต้องการเป็นมากกว่าฉากหลังในวงดนตรี และความฝันในการเป็นมือกลองระดับโลกก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเขาถูกค้นพบโดย เทอเรนซ์ เฟลชเชอร์ ครูสอนดนตรีที่มีวิธีการสอนที่เข้มข้น เพื่อเคี่ยวเข็ญ รีดเอาความสามารถที่แท้จริงของ แอนดรูว์ ออกมา เพราะเขาเห็นถึงพรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัวเด็กคนนี้ หนังทำให้เราตั้งคำถามถึงความพยายามและเคี่ยวเข็ญตัวเองอย่างหนัก กับผลลัพธ์ที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อว่ามันคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน
รับรองได้ว่าภาพยนตร์ 5 เรื่องในลิสต์ด้านบนจะทำหนุ่มๆได้ทั้งสาระ ความสนุกสนาน รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจในชีวิตให้กับคุณไม่แน่ว่า เมื่อดูจบแล้ว อาจมีบางเรื่องที่มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณให้ดีขึ้นกว่าเดิมเลยก็ได้