เดนนิส เบิร์กแคมป์ (Dennis Bergkamp) คือนักฟุตบอลในตำนานของทีม อาร์เซน่อล และ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เจ้าของฉายา “Iceberg” เพชรฆาตศูนย์หน้าที่มีจังหวะสังหารประตูสุดเยือกเย็นดุจ “ภูเขาน้ำแข็ง” และสร้างลูกยิงมหัศจรรย์มากมาย แต่ทว่าแฟนบอลรุ่นใหม่หลายคนอาจไม่ทราบว่า สุดยอดนักเตะจอมเทคนิครายนี้เป็นโรคกลัวเครื่องบิน (Aerophobia) ขั้นสุด ซึ่งขัดแย้งกับอาชีพนักฟุตบอลระดับโลกที่ต้องเดินทางไกลไปเตะฟุตบอลในหลายประเทศเป็นอย่างมาก
มีข่าวลือผิดๆมากมายเกี่ยวกับอาการกลัวเครื่องบินของ เบิร์กแคมป์ บ้างก็ว่า เขาเสียพ่อแม่ไปจากเหตุการณ์เครื่องบินตก บ้างก็ว่า เขาเสียคุณตาไปจากอุบัติเหตุทางอากาศ บ้างก็ว่า เขาเคยเจอประสบการณ์เลวร้ายบนเครื่องบิน วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก
เพื่อนสนิทชาวซูรินาเมเครื่องบินตก เหตุการณ์ฝังใจของ เบิร์กแคมป์
สำหรับที่มาของ โรคกลัวเครื่องบิน ที่เกิดขึ้นกับ เบิร์กแคมป์ เริ่มต้นสมัยวัยุร่นที่เขาเป็นนักเตะเยาวชนของทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เขามีเพื่อนนักเตะเยาวชนที่สนิทกันเป็นชาวซูรินาเม หรือ ดัตช์เกียนา ประเทศเล็กๆในทวีปอเมริกาใต้ อดีตอาณานิคมของฮอลแลนด์ โดยวันหนึ่งเพื่อนชาวซูรินาเมของ เบิร์กแคมป์ ติดทีมชาติ ต้องกลับไปเตะฟุตบอลที่บ้านเกิด ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก ทําให้นักเตะซูรินาเมเสียชีวิตในเหตุการณ์หลายคน และหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือเพื่อนของเขา
เหตุการณ์ครั้งนั้นช็อกความรู้สึกของ เบิร์กแคมป์ อย่างมาก ทั้งเรื่องของการสูญเสียเพื่อนไปในตอนวัยรุ่น และความหวาดกลัวต่อพาหนะทางอากาศอย่าง เครื่องบิน แต่ เบิร์กแคมป์ ยังแค่รู้สึกไม่ดีกับการนั่งเครื่องบิน พยายามหลีกเลี่ยง ทว่าไม่ถึงกับเลิกขึ้นเครื่องบินอย่างเด็ดขาดเสียทีเดียว
ฟุตบอลโลกปี 1994 ไฟล์ทการเดินทางโดยเครื่องบินครั้งสุดท้าย
เบิร์กแคมป์ เริ่มกลายเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในยุคปี 90s จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการนั่งเครื่องบินได้ ทั้งการขึ้นเครื่องบินไปเล่นเกมเยือนในลีกอิตาลีกับต้นสังกัดอย่าง อินเตอร์ มิลาน หรือการบินไปทั่วยุโรป เพื่อเตะฟุตบอลถ้วยยุโรปกับสโมสร รวมถึงทีมชาติในรายการฟุตบอลยูโร นี่ยังไม่นับการบินไปหลายทวีปเพื่อเตะฟุตบอลอุ่นเครื่อง และฟุตบอลโลกร่วมกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่ง เบิร์กแคมป์ เปิดเผยภายหลังว่า มันทำให้เขารู้สึกแย่มาก
ด้วยความเป็นมืออาชีพ เบิร์กแคมป์ ตัดสินใจเดินทางไปร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกไกลถึงทวีปอเมริกาเหนือ เมื่อสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ แม้ว่าเขาจะทำผลงานได้ดีพอสมควรในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1994 กระนั้น เที่ยวบินหนึ่งในฟุตบอลโลกที่ทีมชาติเนเธอร์แลนด์กำลังเดินทางเพื่อย้ายไปแข่งในเมืองอื่น เครื่องบินกลับประสบปัญหาระบบพลังงานขัดข้อง ทำให้เครื่องดับจนเกือบประสบอุบัติเหตุ โชคดีที่กัปตันแก้ไขสถานการณ์และพาเครื่องบินลงจอดได้ แต่อุบัติเหตุดังกล่าวก็ทำให้ เบิร์กแคมป์ ย้อนกลับไปคิดถึงเพื่อนชาวซูรินาเมที่จากไป หลังจากนั้นเขาก็หวาดกลัวการเดินทางทางอากาศไปเลย
“ความหวาดกลัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่อยากทนอยู่ในสภาพแบบนี้อีกแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่ย่ำแย่ เมื่อต้องมองออกไปยังท้องฟ้า และดูว่าสภาพอากาศเป็นอย่างไร ? หรือมีกลุ่มเมฆลอยมาบ้างหรือเปล่า ? ผมเริ่มมีอาการหมกมุ่นกับการเดินทางโดยเครื่องบิน มันถือเป็นนรกอย่างแท้จริง” เดนนิส เบิร์กแคมป์ระบายความอัดอั้น ทุกครั้งที่เขารู้ว่าตัวเองต้อง “ขึ้นเครื่องบิน”
“Non Flying Dutchman” นักเตะดัตช์ผู้ไม่ยอม “บิน” อีกต่อไป
แม้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์จะมีฉายาว่า Flying Dutchman แต่หลังจากข่าวการไม่นั่งเครื่องบินของ เบิร์กแคมป์ แพร่ออกไป เขาก็มีฉายาเพิ่มขึ้นคือ “Non Flying Dutchman” โดยในการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรปี ค.ศ. 1995 เดนนิส เบิร์กแคมป์ ย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ พร้อมใส่รายละเอียดในสัญญาว่า ขอไม่นั่งเครื่องบินไปแข่งขัน โดยยอมโดนหักเงินจากการเซ็นสัญญาใหม่ในแต่ละครั้ง เนื่องจากไม่อยากเอาเปรียบสโมสร
ความยากลำบากของ เบิร์กแคมป์ และ ทีมอาร์เซน่อล ก็คือ ในเกมเยือนบางเกมที่ต้องนั่งเครื่องบิน เบิร์กแคมป์ จะต้องเดินทางด้วยรถยนต์หรือรถไฟ ล่วงหน้าไปก่อนเพื่อนร่วมทีม ทำให้มีเวลาซ้อมและเวลาพักผ่อนน้อยกว่าคนอื่น เรื่องนี้สร้างความกังวลใจให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมเจ้าระเบียบพอสมควร แต่ เบิร์กแคมป์ ก็พิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานในสนามที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้นักเตะที่เดินทางโดยเครื่องบิน จะมีปัญหาก็แต่การแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรป ที่ต้องเดินทางข้ามประเทศไปทั่วยุโรป เขาเดินทางด้วยรถยนต์ รถไฟ เรือ ซึ่งในช่วงปี 1998-99 อาร์เซนอล ต้องไปเยือนทีม ดินาโม เคียฟ ประเทศยูเครน ทำให้เขาต้องนั่งรถหลายต่อ เดินทางนานกว่า 2 วัน เพื่อไปช่วยทีม ขณะที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆนั่งเครื่องบินไป ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น
“ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น ผมต้องโดยสารด้วยเครื่องบินขนาดเล็กหลายต่อหลายครั้ง ย้ำอีกครั้งว่า มันมีขนาดเล็กมากจริงๆ สมัยผมเป็นนักเตะอาแย็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (Ajax Amsterdam) เครื่องบินเหมือนจะเสียการทรงตัวในภูเขาแถบเนเปิ้ลส์ เนื่องจากตกหลุมอากาศ ผมเห็นภาพเหล่านั้นทั้งหมด และผมไม่ต้องการนั่งเครื่องบินอีกต่อไป” เบิร์กแคมป์
กลัวเครื่องบิน แต่ได้เล่นฟุตบอลโลกถึง 2 สมัย
ความโชคดีของ เบิร์กแคมป์ คือแม้ว่าเขาจะไม่นั่งเครื่องบิน แต่ก็ยังได้เล่นฟุตบอลโลกที่ทีมต้องเดินทางไปหลายทวีปถึง 2 สมัย โดยในฟุตบอลโลกปี 1994 เบิร์กแคมป์ ฝืนใจนั่งเครื่องบินไปเป็นทริปสุดท้าย ซึ่งฟอร์มการเล่นของเขาเฉิดฉาย และเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นระดับ Superstar ของรายการเลยทีเดียว ส่วนฟุตบอลโลกครั้งที่สองของ ฟุตบอลโลก 1998 หรือ ฟร้องค์ 98 จัดที่ประเทศฝรั่งเศส จึงไม่เป็นปัญหาในเรื่องการเดินทางสำหรับเขา เช่นเดียวกับรายการฟุตบอลยูโร ที่แน่นอนว่าแข่งขันในประเทศใหญ่ๆ ของทวีปยุโรปอยู่แล้ว เบิร์กแคมป์ จึงยังพอเดินทางไปร่วมแข่งขันได้อย่างไม่ลำบากลำบนนัก
ขณะที่ในแมตช์กระชับมิตรไม่ว่าจะระดับสโมสรหรือทีมชาติที่ต้องเดินทางไปเยือนทีมจากชาติในทวีปอื่นๆ ไม่ว่าจะเอเชีย ออสเตรเลีย แอฟริกา และอเมริกา นักเตะนามอุโฆษอย่าง “เดนนิส เบิร์กแคมป์” ก็จะปฏิเสธ เพราะไม่สามารถเดินทางไปได้
จนมาถึงใน ฟุตบอลโลก 2002 ที่ทวีปเอเชีย ซึ่งมีญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ เบิร์กแคมป์ อยู่ในช่วงปลายของการค้าแข้ง เพราะอายุเริ่มเยอะแล้ว แต่เขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในกำลังหลักสำคัญของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ บางคนเริ่มคิดว่า เบิร์กแคมป์ อาจเดินทางด้วยรถไฟกับเส้นทางสายไหมจากยุโรปตะวันออกผ่านจีนเข้ามาเกาหลีใต้ รวมถึงนั่งเรือข้ามไปญี่ปุ่น เพื่อมาแข่งฟุตบอลโลกรอบนั้น แต่จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ เมื่อทีมชาติเนเธอร์แลนด์อกหัก ตกรอบคัดเลือกไม่ได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่เอเชีย เบิร์กแคมป์ จึงถือโอกาสประกาศเลิกเล่นทีมชาติแบบสวยๆ โดยที่ไม่ดราม่าถูกแฟนบอลโจมตีเรื่องโรคกลัวเครื่องบินจนไม่สามารถเดินทางมาช่วยชาติได้
ในระดับสโมสร เบิร์กแคมป์ พิสูจน์ว่าโรคกลัวเครื่องบินไม่ใช่อุปสรรค เขาประสบความสำเร็จอย่างมากกับทีม ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ในพรีเมียร์ลีก ลงเล่นให้ทีมกว่า 400 แมตช์ ทำได้ถึง 120 ประตูใน 11 ฤดูกาล คว้าแชมป์ร่วมกับทีมมากมาย โดยเฉพาะแชมป์พรีเมียร์ลีกชุดไร้พ่าย ไม่แพ้ใครเลยตลอดฤดูกาล จนทีมสร้างรูปปั้นไว้ที่หน้าสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม สนามเหย้าทีมอาร์เซน่อล เป็นรูปปั้นทองแดงของตัวเขาในท่าทางการจับบอลกลางอากาศอันลือลั่นในแมตช์พบกับทีมนิวคาสเซิลเมื่อปี 2003 ซึ่งเขาเป็นนักเตะคนที่ 4 ถัดจาก โทนี อดัมส์, เธียร์รี อองรี และ เฮอร์เบิร์ต แชปเมน ที่สโมสรสร้างรูปปั้นให้
ปัจจุบัน เดนนิส เบิร์กแคมป์ หลังจากออกจากการเป็นสตาฟฟ์โค้ชทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก็ยังทำงานเบื้องหลังเกี่ยวกับฟุตบอลอยู่ในเนเธอร์แลนด์และอังกฤษ และยังคงไม่เดินทางด้วยเครื่องบินเหมือนเดิม